ตรัง ชาวบ้าน ต.บ้านควน อ.เมือง จ.ตรัง ร่วมสืบสานประเพณีโบราณ \”งานบุญให้ทานไฟ\” อย่างคึกคัก ประชาชนแห่ร่วมทำบุญตักบาตรอาหารร้อนถวายพระภิกษุสงฆ์และสามเณรกว่า 100 รูป สืบทอดประเพณีเก่าแก่ที่จัดต่อเนื่องมา 25 ปี
วันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 04.00 น. ที่วัดควนนาแค หมู่ 5 ต.บ้านควน อ.เมือง จ.ตรัง นายทรงกลด สว่างวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง เป็นประธานเปิดงานบุญให้ทานไฟ ประจำปี 2568 โดยมีพระครูประยุตอัครธรรม เจ้าอาวาสวัดควนนาแค นายเอกพล ณ พัทลุง นายกองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านควน หัวหน้าส่วนราชการ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และประชาชนจาก ต.บ้านควน รวมถึงพื้นที่ใกล้เคียง เข้าร่วมงานกันอย่างคับคั่ง
วัดควนนาแค สภาวัฒนธรรมตำบลบ้านควน และ อบต.บ้านควน ได้ร่วมกันจัดงานนี้ต่อเนื่องเป็นปีที่ 25 เพื่อคงไว้ซึ่งวัฒนธรรมเก่าแก่ของชุมชน ซึ่งปัจจุบันเป็นวัดเดียวในจังหวัดตรังที่ยังคงสืบทอดประเพณีให้ทานไฟ โดยมีจุดมุ่งหมายให้ชาวบ้านได้ทำบุญเนื่องในวันมาฆบูชา พร้อมสร้างความรักและความสามัคคีในชุมชน
งานบุญเริ่มขึ้นตั้งแต่เวลา 03.30 น. ชาวบ้าน 100 กว่าร้านค้า ร่วมกันจัดเตรียมอาหารสดใหม่ ทั้งคาวและหวาน โดยเฉพาะขนมพื้นบ้านที่หาทานได้ยาก อาทิ ขนมหม้อข้าวหม้อแกงลิง ขนมรู ขนมครก ข้าวเกรียบปากหม้อ ขนมโค ขนมพิมพ์ ขนมจาก ขนมจู่จุน ข้าวเหนียวกวนทอด ขนมกวนสาคู ขนมเทียน ฯลฯ นอกจากนี้ ยังมีน้ำชา กาแฟ หมี่ผัด ข้าวต้ม ข้าวเหนียวหลาม ขนมปังปิ้ง และที่ขาดไม่ได้คือ \”ขนมเบื้อง\” หรือ \”ขนมฝามี\” ขนมโบราณอายุ 100 ปี ซึ่งต้องนำมาถวายพระตามความเชื่อแต่โบราณ
พระประสิทธิโสภณ เจ้าอาวาสวัดประสิทธิชัย รองเจ้าคณะจังหวัดตรัง เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ รับภัตตาหารเช้า และแจกจ่ายขนมให้แก่ชาวบ้านที่มาร่วมงาน หลังเสร็จพิธีพระภิกษุสงฆ์ได้สวดให้ศีลให้พรแก่ผู้ร่วมบุญ จากนั้นชาวบ้านได้ร่วมกันรับประทานอาหารในบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความสุข
การให้ทานไฟเป็นประเพณีโบราณที่มีมาตั้งแต่สมัยพุทธกาล โดยมีเรื่องเล่าว่า \”โกสิยเศรษฐี\” ผู้ตระหนี่แห่งเมืองราชคฤห์ ได้รับการโปรดจากพระมหาโมคคัลลานเถระ ทำให้เกิดศรัทธาในพระพุทธศาสนา และถวายขนมเบื้อง (ขนมกุมมาส) แก่พระพุทธเจ้าและพระภิกษุ 500 รูป ต่อมา ขนมเบื้องที่ถวายมีเหลือมากจนต้องนำไปทิ้ง ณ ซุ้มประตูวัดเชตวัน สถานที่แห่งนี้จึงถูกเรียกว่า \”เงื้อมขนมเบื้อง\”
จากตำนานดังกล่าว พุทธศาสนิกชนจึงนิยมจัดพิธีให้ทานไฟในช่วงเดือนอ้ายหรือเดือนยี่ (ปลายเดือนธันวาคม – ต้นเดือนกุมภาพันธ์) ซึ่งเป็นช่วงฤดูหนาวในภาคใต้ เพื่อถวายอาหารร้อนให้พระภิกษุสงฆ์คลายหนาว โดยก่อกองไฟในลานวัด และทำขนมถวายพระ
นายทรงกลด สว่างวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง กล่าวถึงความสำคัญของงานบุญให้ทานไฟว่า \”การสืบสานประเพณีนี้ถือเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่ทรงคุณค่า ซึ่งช่วยส่งเสริมให้คนในชุมชนมีโอกาสทำบุญร่วมกัน ซึ่งปีนี้คึกคักกว่าปีที่ผ่านมา และยังช่วยเผยแพร่ขนมพื้นบ้านที่เป็นเอกลักษณ์ของจังหวัดตรังให้คงอยู่สืบไป\”
ปัจจุบัน ประเพณีให้ทานไฟเริ่มลดน้อยลงและหาชมได้ยาก แต่วัดควนนาแคยังคงอนุรักษ์ไว้สืบต่อไป เพื่อให้ชนรุ่นหลังได้เรียนรู้และร่วมสืบสานมรดกทางวัฒนธรรมของไทยต่อไป