ผอ.กกต.สุราษฎร์ฯเผยกระแสซื้อเสียงหัว 500 จบที่คน 2 คน อยู่ที่ชาวสุราษฎร์ฯ มีค่าแค่ 500 หรือ ?

 สุราษฎร์ธานี-ผอ.กกต.สุราษฎร์ธานี เผยข้อมูลซื้อเสียงหัว 500 บาท เลือกตั้ง นายก อบจ.อาจจะมีคนรับแต่ไม่กล้าบอกสายข่าว จบอยู่ที่คน 2 คนอยู่ที่ชาวสุราษฎร์ธานีว่ามีค่าแค่ 500 บาทหรือ ? มีข้อมูลการจดรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้ง

นายพลัฏฐ์  (พะ-ลัด ) นิลเนาวรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดสุราษฎร์ธานี  เปิดเผยว่าการแข่งขันชิงตำแหน่งนายก อบจ.สุราษฎร์ธานี ถ้าแข่งขันกันในรูปเกมส์ ตามกฎหมาย ทาง กกต.ยังไม่พบว่ามีการกระทำความผิด มีเพียงการแจ้งเบาะแสและเป็นข่าวทั่วไปเสียมากกว่า  ผู้สมัครเองก็มีการติดต่อสอบถามโดยตลอด จะเป็นการใช้รถการใช้เวที การปรึกษาหารือ มีมาตลอด ส่วนการแข่งขันในพื้นที่ทราบข่าวแต่ว่ารุนแรงเป็นเพียงการพูดคุยกัน เรื่องที่ร้องจะเป็นเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับการกระทำความผิด จะเป็นเรื่องของการกระทำขัดต่อกฎเกี่ยวกับเรื่องคุณสมบัติบ้าง มีอยู่ 2-3 เรื่องในขณะนี้

จากกระแสข่าวที่ออกโซเชียล มีการซื้อเสียงละ 500 บาท นั้น เท่าที่สอบถามยังไม่พบข่าวว่ามี ซึ่งอาจจะมีซึ่งคนที่รับเขาก็ไม่กล้าบอกสายข่าว เพราะฉะนั้นทั้งคนให้และคนรับตกลงกันได้มันก็จะจบอยู่ที่คน 2 คน ตนมองว่าเรื่องพวกนี้อยู่ที่คน   สุราษฎร์ธานีเองถ้าไม่รับเขาจะนำไปพูดได้อย่างไรว่า 500 บาท  คนที่บอกว่า 500 บาทเอามาจากไหน เอามาจากคนรับเองหรือเอามาจากคนให้ หรือว่ามีคนปล่อยข่าวไปว่าให้ 500 บาทเพื่อทำลายชื่อเสียงของจังหวัดก็มีหลายมุมมอง

ตนเองในฐานะ ผอ.กกต.เองก็โดนพาดพิง ก็ทำงานตามปกติ ไม่ได้ตระหนกตกใจ เรื่อง 500 บาทไม่ใช่ว่าเพิ่งมีข่าว มีคนส่งข้อมูลมาให้ตน มีการจำลองภาพมาว่าซื้อที่นั่น ซื้อที่นี่ ก็ให้สายข่าวไปติดตามดู ก็เรื่องธรรมดา ถ้าเขาทำจริง เขาก็คงจะไม่รับ อยู่ที่ประชาชนชาวสุราษฎร์ธานี จะให้เขาว่าเอาได้ว่ามีค่าแค่ 500 บาทหรืออย่างไร

ทั้งนี้จากกระแสดังกล่าวคำพูดที่ไม่ทราบที่มาแน่ชัด มองว่าทำให้ภาพลักษณ์การทำงานองค์กรเจ้าหน้าที่รัฐ ทั้งตำรวจ , ปกครอง,กกต. เสียชื่อเสียงพอสมควร อาจจะมีคนมองว่าเป็นกระแสทางการเมือง ด้วยยุทธวิธีต่าง ๆ ทำขึ้นมาให้เกิดกระแส โดยเฉพาะกระแสการพนันของชาวสุราษฎร์ธานีก็อาจจะเป็นไปได้ อาจจะมีการทำงานกันเป็นทีม ในการก่อให้เกิดประเด็นเหล่านี้ขึ้นมา  อย่างไรก็ตามจากกระแสข่าวดังกล่าวก็ได้มีการประชุมร่วมกับตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี วางมาตรการป้องกัน ถ้ามีข่าวหรือเหตุการณ์ขึ้นมาก็เข้มงวดขึ้น มีการจัดชุดตรวจ ลาดตระเวนเพื่อสืบหาข่าวว่าเป็นจริงแค่ไหน ถ้าเกิดเจอผู้กระทำความผิดไม่ว่าผู้รับ ผู้ให้ถ้าเจอก็ต้องดำเนินการ

ทั้งนี้ยอมรับว่าช่องทางในการให้เงิน มีมากมายก่ายกอง ตอนนี้เท่าที่มีข้อมูลอยู่คือการแจ้งเบาะแส มีการจดรายชื่อของผู้มีสิทธิเลือกตั้งไป ก็ได้มอบหมายให้กลุ่มงานสืบสวนสืบข้อเท็จจริง ว่าคนที่มาแจ้งทราบมาได้อย่างไร รวมทั้งสอบด้วยว่าคนที่มา มาด้วยตัวเองหรือใครใช้ให้มาเพื่อให้สอดรับกับ 500 บาทนั้นหรือไม่ ต้องตรวจสอบให้หมด ยึดความเป็นธรรมเป็นหลัก ข่าวที่ออกมาจะสรุปได้ว่า 500 บาท 2-3 แสนคน ถ้ายึดหลักความเป็นจริง เป็นไปไม่ได้

สำหรับผู้สมัคร นายก อบจ.สุราษฎร์ธานีมีทั้งหมด 6 คน คือ หมายเลข 1 นายสมพล สิงหพล อดีตผู้สมัคร ส.ส.เขต 4 พรรคอนาคตใหม่, หมายเลข 2 นายพงษ์ศักดิ์ จ่าแก้ว อดีตนายก อบจ.คนล่าสุดที่หวังนายกสมัยที่ 2 , หมายเลข 3 นายวิเชียร จันทร์บัว อาชีพทนายความ, หมายเลข 4 นางโสภา กาญจนะ หรือป้าโส จากกลุ่มพลังสุราษฎร์ เป็นอดีต ส.ส.สุราษฎร์ธานี หมายเลข 5 นพ.จิรชาติ เรืองวัชรินทร์ หมอจิ หรือหมอมุดสัง จากพรรคประชาชน เป็นอดีตนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) สุราษฎร์ธานี ,หมายเลข 6 นายกฤษณ์ บุญประสพ ผู้สมัครอิสระ มีศักดิ์เป็นหลานชาย ป้าโส โสภา กาญจนะ.

ขอบคุณภาพ ผู้สมัคร กกต.