1 ทศวรรษฟุตบอล “ยุวชนหาดทิพย์คัพ” จุดประกายความฝันเยาวชนสู่เส้นทางนักฟุตบอลอาชีพ

สุราษฎร์ธานี-ฉลอง 10 ปีฟุตบอล “ยุวชนหาดทิพย์คัพ”ขยายครบ14จังหวัดภาคใต้ จุดประกายความฝันเยาวชน สู่เส้นทางนักฟุตบอลอาชีพ ด้วยมิตรภาพและความสุข

เมื่อเวลา 11.00 น.วันนี้ (29 พ.ค. 68 ) ณ ห้องอ่าวไทย มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตสุราษฎร์ธานี อ.เมือง  จ.สุราษฎร์ธานี บริษัทหาดทิพย์ จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ในเครือโคคา – โคล่า ในพื้นที่ 14 จังหวัดภาคใต้ ร่วมกับจังหวัดสุราษฎร์ธานี สำนักงานการกีฬาแห่งประเทศไทยภาค 4 ,มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตสุราษฎร์ธานี ,สโมสร PSU สุราษฎร์ธานี ซิตี้ และพันธมิตร จัดการแถลงการณ์แข่งขันฟุตบอล “ยุวชนหาดทิพย์คัพ” ครั้งที่ 10 (ปีที่ 18 )อายุ 13 ปี รอบชิงชนะเลิศ ระหว่างวันที่ 24-30 มิถุนายน 2568  ณ สนามฟุตบอล  มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตสุราษฎร์ธานี โดยมีนายบันดาล สถิรชวาล รอง ผวจ.สุราษฎร์ธานี เป็นประธานการแถลงข่าว พร้อมด้วยนายพรประสิทธิ์ เล็กสุทธิ์ ผู้อำนวยการ สำนักงานการกีฬาแห่งประเทศไทย ภาค 4 ,รศ.สุชาดา ทิพย์มนตรี รอง อธิการบดี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตสุราษฎร์ธานี และนายดำรงรักษ อภิบาลสวัสดิ์ รองประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการอาวุโส บมจ.หาดทิพย์ ร่วมแถลงข่าว โดยมีผู้จัดการทีม นักกีฬา แขกผู้มีเกียรติและสื่อมวลชนร่วมงานอย่างพร้อมเพรียงกัน

นายดำรงรักษ อภิบาลสวัสดิ์ รองประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการอาวุโส บมจ.หาดทิพย์ กล่าวว่า จากจุดเริ่มต้นเล็กๆใน 3 จังหวัดชายแดนใต้เมื่อปี 2550 ด้วยเจตนารมณ์ของร้อยตรีไพโรจน์ รัตตกุล อดีตกรรมการผู้จัดการ ที่ต้องการมอบพื้นที่สร้างสรรค์ให้เยาวชนได้ผ่อนคลายจากสถานการณ์ตึงเครียดในพื้นที่ ผ่านกีฬาฟุตบอล วันนี้ “ยุวชนหาดทิพย์”เติบโตต่อเนื่องเข้าสู่ปีที่ 18 มีเยาวชนเข้าร่วมโครงการแล้ว กว่า 9,000 คน และในปีเราขยายการแข่งขันครบทั้ง 14 จังหวัดภาคใต้เป็นครั้งแรกอย่างเต็มรูปแบบ

การแข่งขันฟุตบอล “ยุวชนหาดทิพย์คัพ” ถือเป็นหนึ่งในทัวร์นาเมนต์เยาวชนที่ใหญ่ที่สุดของภาคใต้และในวาระครบรอบ10ปีครั้งนี้ เรามุ่งเน้นการเปิดโอกาสให้เด็กและเยาวชนจากทุกจังหวัดภาคใต้แสดงศักยภาพบนสนามมาตรฐาน จุดประกายความฝันให้ก้าวสู่เส้นทางนักฟุตบอลอาชีพในอนาคต ภายใต้ปรัชญา “เหนือชัยชนะคือมิตรภาพและความสุข”ที่ยึดมั่นมาตลอด เพราะเรามองว่า ฟุตบอลไม่ได้เป็นเพียงเกมส์การแข่งขันแต่เป็นเวทีให้เยาวชนได้เรียนรู้การเล่นเป็นทีม การรู้จักแพ้ชนะอย่างมีศักดิ์ศรีและยังเป็นพลังที่เชื่อมโยงความหลากหลายทางวัฒนธรรม สร้างความสัมพันธ์อันดีในชุมชนโดยไม่แบ่งแยกเชื้อชาติหรือศาสนา ตอกย้ำบทบาทของกีฬาที่ส่งเสริมความสามัคคีพหุวัฒนธรรมของภาคใต้ได้อย่างแท้จริง”

ปีนี้มีทีมเข้าร่วมรอบคัดเลือกระดับจังหวัดรวม 69 ทีม คัดเลือกโดยสำนักงานการกีฬาแห่งประเทศไทยภาค 4 โดยทีมชนะเลิศ 14 จังหวัด พร้อมแชมป์เก่าและเจ้าภาพ รวม 16 ทีม เข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ ซึ่งมีการจัดการแข่งขันอย่างโปร่งใสและคณะกรรมการผู้ตัดสินผ่านการรับรองจากสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปภัมภ์ ทำหน้าที่ตัดสินอย่างโปร่งใสและมืออาชีพ ใช้สนามการแข่งขันมาตรฐาน จำนวน 2 สนาม ที่พักของคณะนักกีฬาและเจ้าหน้าที่ได้รับการสนับสนุนจากมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตสุราษฎร์ธานี

สำหรับรางวัล

โดยรางวัลชนะเลิศ รับถ้วยรางวัลเกียรติยศ  ฯ พณ ฯ พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ ทุนการศึกษา 50,000 บาท

รางวัลรองชนะเลิศ อันดับที่ 1 รับถ้วยรางวัลเกียรติยศของ พลตรีพัชร รัตตกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.หาดทิพย์ ทุนการศึกษา 30,000 บาท

รางวัลรองชนะเลิศอันดับ ที่ 2 รับถ้วยรางวัลเกียรติยศ ดร.ก้องศักดิ์ ยอดมณี ผู้ว่าการกีฬาแห่งประเทศไทย ทุนการศึกษา 20,000 บาท

รางวัลรองชนะเลิศ อันดับที่ 3รับถ้วยรางวัลเกียรติยศ นายธีรุตม์ ศุภวิบูลย์ผล ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ทุนการศึกษา 10,000 บาท

รางวัลทีมมารยาทดีเด่น  รับถ้วยรางวัลเกียรติยศ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นิวัติ แก้วประดับ อธิการบดี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ทุนการศึกษา 5,000 บาท

รางวัลผู้ฝึกสอนยอดเยี่ยม รับถ้วยรางวัลเกียรติยศ ดร.ชาญวิทย์ ผลชีวิน อุปนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ทุนการศึกษา 3,000 บาท

รางวัลนักเตะยอดเยี่ยม รับถ้วยรางวัลเกียรติยศ นายพรประสิทธิ์ เล็กสุทธิ์ ผู้อำนวยการสำนักงานการกีฬาแห่งประเทศไทย ภาค 4 ทุนการศึกษา 3,000 บาท

รางวัลดาวซัลโว (ผู้ทำประตูสูงสุด)รับถ้วยรางวัลเกียรติยศ รองศาสตราจารย์สุชาดา ทิพย์มนตรี รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตสุราษฎร์ธานี  ทุนการศึกษา 3,000 บาท

และถ้วยรางวัลพิเศษ เป็นถ้วยเกียรติยศอันทรงเกียรติของ “ร้อยตรีไพโรจน์ รัตนกุล” อดีตกรรมการผู้จัดการ บริษัทหาดทิพย์ จำกัด (มหาชน) (ถ้วยรางวัลเกียรติยศใบนี้ มอบให้กับทีมที่ได้ครองตำแหน่งชนะเลิศ ครบจำนวน 3 ครั้ง จะได้สิทธิไปครอบครอง)