สุราษฎร์ธานี-รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ลงพื้นที่ มอบสัญญาเช่าที่ราชพัสดุ 225 แปลง กว่า 1,673 ไร่ ในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ตามโครงการธนารักษ์เอื้อราษฎร์ ในอัตราค่าเช่า ไร่ละ 40 บาทต่อปี หวังให้ราษฎร มีบ้านอยู่ มีที่ดินทำกิน ต่อยอดประกอบอาชีพ สร้างรายได้ มีคุณภาพชีวิตที่ดี
เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้ (11 เม.ย.68) นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ลงพื้นที่ โรงเรียนบ้านปลายคลอง ตำบลตะปาน อำเภอพุนพิน จังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นประธานในพิธีมอบสัญญาเช่าที่ราชพัสดุ ตามโครงการธนารักษ์เอื้อราษฎร์ โดยมี นายบันดาล สถิรชวาล รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ให้การต้อนรับ พร้อมด้วย นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมธนารักษ์ รองอธิบดีกรมธนารักษ์ นางโสภา กาญจนะ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุราษฎร์ธานี นายวิสูตร อินทรกำเนิด นายอำเภอพุนพิน หัวหน้าส่วนราชการสังกัดกระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตลอดจน กำนันผู้ใหญ่บ้านและประชาชนในพื้นที่ร่วมกิจกรรม
นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล ระบุว่า โครงการธนารักษ์เอื้อราษฎร์ เป็นหนึ่งในนโยบายสำคัญของรัฐบาล ที่ดำเนินการโดยกรมธนารักษ์ กระทรวงการคลัง ที่มุ่งหวังให้มีการนำที่ดินราชพัสดุ ที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ หรือใช้ประโยชน์ไม่ตรงกับวัตถุประสงค์ มาจัดสรรให้ประชาชนได้เช่าในราคาถูก ทั้งเพื่ออยู่อาศัยและเพื่อการเกษตร ไร่ละ 40 บาทต่อปี เพื่อให้ประชาชน มีที่ดินทำกินในอัตราค่าเช่าถูก มีรายได้ที่มั่นคง และมีที่อยู่อาศัยเป็นหลักแหล่ง สามารถนำไปขอสินเชื่อจากสถาบันการเงิน ยื่นขอบ้านเลขที่ ขอทะเบียนบ้านได้ และยังได้รับการเยียวยาจากรัฐบาลในกรณีต่าง ๆ เช่น ภัยพิบัติ น้ำท่วม ฯลฯ โดยการมอบสัญญาเช่าที่ราชพัสดุ ครั้งนี้ เป็นแปลง สฎ.848 อ.พุนพิน อ.พระแสง อ.เคียนซา และ อ.คีรีรัฐนิคม รวม 225 แปลง/สัญญา เนื้อที่ 1,673 ไร่ 2 งาน 37 ตารางวา เพื่อเป็นที่อยู่อาศัย 80 แปลง/สัญญา เนื้อที่ 52 ไร่ 1 งาน 54 ตารางวา และเพื่อประกอบการเกษตร 145 แปลง/สัญญา เนื้อที่ 1,621 ไร่ 2 งาน 37 ตารางวา ซึ่งหลังพิธีเปิด รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ได้เดินแจกสัญญาเช่าถึงมือประชาชนด้วยตนเอง พร้อมทั้งพบปะพุดคุยสอบถามถึงปัญหาการประกอบอาชีพ และสอบถามแนวทางการนำที่ดินไปใช้ประโยชน์
จากนั้น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ยังได้ลงพื้นที่ มอบสัญญาเช่าที่ดินราชพัสดุ ให้กับผู้สูงอายุที่ไม่สามารถเดินทางมารับสัญญาเช่าถึงบ้าน จำนวน 4 ครัวเรือน พร้อมทั้งติดตามชีวิตความเป็นอยู่และการใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อการเกษตร