ขนมจีนหม้อยักษ์ทุ่งสง “ขนมจีนมากกว่าเส้นและน้ำแกง” สายใยวัฒนธรรมสู่มูลค่าเพิ่ม

\"\"

“การกินขนมจีน”วิถีสีสันและกลิ่นไอแห่งวัฒนธรรมประเพณี ของชาวทุ่งสง… ภาพสะท้อนความเป็นอยู่และภูมิปัญญาท้องถิ่นอันงดงามของเมืองชุมทางน่าอยู่ ดินแดนแหล่งรวมอารยธรรมที่หลากหลาย

เปิดตำนาน “ทุ่งสงเมืองขนมจีน”

\"\"

ขนมจีนเป็นอาหารที่ ทำมาจากข้าวใช้กินกับน้ำแกงชนิดต่างๆ ขนมจีนเป็นอาหารมอญ คนไทยทุกภาคของประเทศ ต่างนิยมกิน สำหรับในภาคใต้เรียกสั้นๆ ว่า “หนมจีน” นิยมกินกับน้ำยาใส่ขมิ้น มีทั้งใส่กะทิ และไม่ใส่กะทิ หรือกินกับน้ำพริกกุ้ง แกงไตปลา ผักเครื่องเคียงที่กินคู่ขนมจีนเรียกว่า “ผักเหนาะ” ซึ่งเป็นผักต่างๆ ในท้องถิ่น ชาวทุ่งสงนิยมกินกันมากที่สุด ในเรื่องอาหารการกินนั้น ขนมจีนถือเป็นอีกหนึ่งเสน่ห์ของเมืองทุ่งสง เป็นอาหารพื้นเมืองและเป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ นิยมกินขนมจีนกันตลอดเวลาไม่ว่าจะเป็นช่วงเช้า เที่ยง เย็น หรือแม้แต่กลางคืน

\"\"

วิถีชีวิตประจำวันการกินขนมจีนของชาวทุ่งสง มีเรื่องราวและพบเห็นได้ โดยเฉพาะย่านชุมชนในเขตเทศบาลเมืองทุ่งสง พื้นที่โดยรอบทั่วทั้งอำเภอทุ่งสง เสมือนเมืองทุ่งสงแห่งนี้เป็น“เมืองขนมจีน” มีร้านขายขนมจีนให้เลือกตามชอบใจ มักอยู่ตามชุมชนหรือตามหมู่บ้าน ด้วยบรรยากาศเรียบง่ายคงไว้ซึ่งวิถีพื้นบ้านแต่เน้นรสชาติอาหารปักษ์ใต้ด้วยน้ำแกงที่มีอัตตลักษณ์อร่อย น่าลิ้มลอง แต่สิ่งหนึ่งที่ประทับใจผู้คน คือความเผ็ดร้อนแต่กลมกล่อมมาจากพริกขี้หนูสด พริกขี้หนูแห้งและพริกไทย ส่วนใหญ่เปิดตั้งแต่เช้าตรู่จนถึงเที่ยง หรือร้านรถเข็นซึ่งเป็นที่รู้จักของคนทั่วไปสามารถแวะเวียนกินได้ตั้งแต่ช่วงเช้า ค่ำหลังเลิกงาน ย่านตลาดตัวเมืองทุ่งสง พื้นที่รอบนอกร้านเล็กดั้งเดิมอย่าง “ร้านป้ากำไร” มักมีลูกค้าประจำและในชุมชนมาลิ้มลองเสมอ ด้วยน้ำแกงกะทิสูตรเฉพาะพร้อมผักเหนาะหลากชนิด

เทศกาลขนมจีนหม้อยักษ์ทุ่งสง…สายใยวัฒนธรรมท้องถิ่น

ช่วงเดือนมีนามคมของทุก ๆ ปี สีสันวิถีชีวิตชาวทุ่งสงคึกคักด้วยบรรยากาศการเตรียมพร้อมเพื่อต้อนรับ “เทศกาลขนมจีนหม้อยักษ์เมืองทุ่งสง” ที่มาเยือนเฉกเช่นในปี 2568 ช่วงวันที่ 14 มีนาคม ชาวทุ่งสงต่างภาคภูมิใจในคุณค่าทางประวัติศาสตร์อันยาวนานนำสู่วิถีชีวิตของชาวเมืองทุ่งสงอย่างน่าสนใจไม่แพ้กัน ทุ่งสงเมืองที่ได้ขึ้นชื่อว่ามีอาหารการกินมีความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ ด้วยรสชาติเข้มข้น แต่กลมกล่อม ขนมจีนและน้ำแกง เป็นอาหารพื้นเมืองซึ่งถือเป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นของชาวทุ่งสง ที่มีเรื่องราวอันดีของวัฒนธรรมประเพณีการกิน ที่สะท้อนวิถีชีวิตและความเป็นอยู่ของผู้คนในชุมชนท้องถิ่น

\"\"

“เทศกาลขนมจีนหม้อยักษ์ ครั้งที่ 19 ปีนี้จัดยิ่งใหญ่ 14 มีนาคม เริ่ม 4 โมงเย็น หน้าที่ว่าการอำเภอทุ่งสง ใช้หนมจีน1973โล พร้อมน้ำเเกงกะทิ เเละผักเหนาะ เเข่งกินหนมจีน เเข่งรำวงเวียนครก เป็นกิจกรรมร่วมกันทั้งภาครัฐ เอกชน และประชาสังคม เป็นกระบวนการสร้างการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน ที่เทศบาลเมืองทุ่งสงจัดผ่านกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ หม้อยักษ์ ถือเป็นตำนานที่พี่น้องในชุมชนให้ความสำคัญ”คำบอกเล่าอย่างภาคภูมิใจของนางสาวนาถยา ชัยกิจ ผอ.กองยุทธศาสตร์และงบประมาณ เทศบาลเมืองทุ่งสง

\"\"

การอนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีอันดีงาม เทศกาลขนมจีนหม้อยักษ์เมืองทุ่งสง มากกว่าเส้นและน้ำแกงเพราะ “การกินการอยู่”สะท้อนถึงสายสัมพันธ์ความสามัคคีเครือข่ายต่างๆของชาวทุ่งสง ผ่านขั้นตอนการทำขนมจีนและการทำน้ำแกงด้วยสูตรเฉพาะแต่เมื่อนำมารวมกันในหม้อขนาดใหญ่รสชาติคงเดิมเหมือนกัน นอกจากความเป็นหนึ่งเดียวกันแล้ว ความภาคภูมิใจในการมีร่วมอนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีท้องถิ่นอันทรงคุณค่าให้คงอยู่ท่ามกลางกระแสสังคมยุคปัจจุบัน เสมือนสายใยโยงยึดความวิถีความงามเคียงคู่ชาวทุ่งสง

เป็นที่รับทราบกันโดยทั่วไปช่วงเดือนมีนาคมของทุกปี ชาวทุ่งสง และผู้ที่มาเยือนจะพบกับวัฒนธรรมประเพณีการกินขนมจีนที่ยิ่งใหญ่ เทศกาลกินขนมจีนหม้อยักษ์องชาวทุ่งสง  สามารถหาขนมจีนรับประทานได้ตลอด  วิถีชีวิตการทำขนมจีนเมื่อครั้งอดีต การทำน้ำแกงของมืออาชีพตลอดจนเด็กและเยาวชนที่ให้ความสนใจ ผักพื้นบ้านปลอดสารพิษ และผักพื้นบ้านภาคใต้บางชนิดที่คนรุ่นใหม่ไม่เคยรู้จัก เป็นการส่งเสริมให้ตระหนักถึงความสำคัญการมีสุขภาวะที่ดีและยั่งยืน พร้อมกับการอนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีการกินขนมจีนเมืองทุ่งสง

\"\"

น้ำแกงหม้อยักษ์ เอกลักษณ์และความโดดเด่นและที่พิเศษ “ผักเหนาะ” ซึ่งมีทั้งผักดองและผักสดสารพัดจำเพาะพื้นถิ่นปักษ์ใต้เช่น ยอดมะม่วงหิมพานต์ ยอดหมุย ยอดมะปราง ผักราน้ำ หรือวอเตอร์เดรส กับอีกหลากหลาย ผักพื้นๆ ทั่วไป เช่น ถั่วงอก แตงกวา ถั่วฝักยาว กับถ้วยผักดองอีกหลายขนาน ทั้งผักกาดดอง ถั่งงอกดอง มะละกอสับดอง

\"\"

นายทรงชัย วงษ์วัชรดำรง นายกเทศมนตรีเมืองทุ่งสง บอกเล่าเรื่องราวของทุ่งสงให้ฟังอย่างน่าสนใจว่า จากประวัติศาสตร์อันยาวนาน นำสู่วิถีชีวิตของชาวเมืองทุ่งสงซึ่งน่าสนใจไม่แพ้กัน เมืองแห่งนี้มีอาหารปักษ์ใต้รสชาติเข้มข้นถูกใจ มีขนมจีนอาหารพื้นเมืองซึ่งถือเป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นของชาวทุ่งสง เห็นได้จากมีอยู่ทุกพื้นที่ในอำเภอทุ่งสง และชาวทุ่งสงนิยมบริโภคกันทุกเพศ ทุกวัย และทุกเทศกาล เพราะขนมจีนเป็นที่นิยมทั้งงานบุญ งานบวช งานแต่ง การเลี้ยงต่าง ๆ ซึ่งส่วนใหญ่พบว่าเกือบทุกกิจกรรมของชาวทุ่งสงมักมีขนมจีนเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องเสมอ เทศกาลขนมจีนหม้อยักษ์ส่งผลให้คนได้รู้จักการกินขนมจีนเมืองทุ่งสง โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ เป็นการส่งเสริมการเพิ่มคุณค่าและมูลค่าภูมิปัญญาท้องถิ่นสู่การท่องเที่ยวเชิงศิลปะอาหาร

\"\"

“ทุ่งสงเมืองที่มีประวัติศาสตร์ อันยาวนาน ตำแหน่งที่ตั้งอยู่กึ่งกลางคาบสมุทร เมืองทุ่งสงถือเป็นศูนย์กลาง การขนส่งคมนาคม ของภาคใต้ มีสถานีรถไฟชุมทางทุ่งสง ถนนสายเอเชียตัดผ่าน ผู้คนจำนวนมากเข้ามาซื้อขายสินค้าเกษตร จับจ่ายใช้สอยสินค้าอุปโภคบริโภคหรือ ใช้บริการส่วนราชการต่างๆ นอกจากนี้ ในแต่ละวันมีผู้คนมากมาย ใช้ทุ่งสง เพื่อสัญจรไปมา หากได้แวะชมแหล่งท่องเที่ยวและชิมอาหารพื้นเมืองรสชาติกลมกล่อม โดยเฉพาะขนมจีนเมืองทุ่งสง เสน่ห์ของเมืองชุมทางน่าอยู่แห่งนี้”

\"\"

วัฒนธรรมท้องถิ่นพลังภาคีเครือข่าย

ด้าน “เสาวภา  อินทรสุวรรณ” อดีตข้าราชการครู และในฐานะนักสื่อสารชุมชนเสริมชาติ เทศบาลเมืองทุ่งสง บอกเล่าให้ฟังว่าอย่างน่าสนใจว่า ขนมจีนและกิจกรรมเทศกาลขนมจีนหม้อยักษ์เมืองทุ่งสง เป็นความภาคภูมิใจ เป็นกิจกรรมที่เข้าใจวัฒนธรรมประเพณี การกินขนมจีนของพี่น้องในชุมชนเมืองทุ่งสง ที่สะท้อนเรื่องราวต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับ“ขนมจีน”

\"\"

ทั้งนี้วิถีชีวิตการทำขนมจีนเมื่อครั้งอดีตเกี่ยวข้องกับวิถีชีวิตประจำวัน ทั้งในส่วน “น้ำแกง”สูตรต่างๆ ทั้ง 5 ประเภทซึ่งเป็นที่นิยมของคนพื้นบ้านภาคใต้ทั่วไปแล้ว ยังมีสูตร “แกงขมิ้น”แกงเฉพาะมีเพียงแห่งเดียวที่เมืองทุ่งสง คุณค่าของผักแกล้มที่เรียกว่า “ผักเหนาะ” ผักที่กินกับขนมจีน ส่วนใหญ่ใช้ผักพื้นบ้านซึ่งมีคุณค่าทางของสมุนไพรที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ

\"\"

“ขนมจีน และการจัดกิจกรรม “ขนมจีนหม้อยักษ์ทุ่งสง” เป็นความภาคภูมิใจของคนทุ่งสงเป็นกิจกรรมที่ทำให้ประเทศเพื่อนบ้าน นักท่องเที่ยวและคนทั่วไปรู้จักทุ่งสงในมุมมองของอาหารพื้นถิ่นของกินพื้นบ้าน ลักษณะเด่นของการกินอาหารของชาวทุ่งสง คือ มีผักสารพัดชนิดเป็นผักจิ้มหรือผักแกล้มใน อาหารทุกมื้อ ภาษาท้องถิ่น เรียกว่า \”ผักเหนาะ\” ความนิยมใน การกินผักแกล้มอาหารของชาวทุ่งสงเป็นผลมาจากการที่ ภาคใต้มีพืชผักชนิดต่างๆ มาก และหาได้ง่าย คนใต้นิยมรับประ ทานอาหารเผ็ด จึงต้องมีผักแกล้ม เพื่อช่วยบรรเทาความเผ็ด และเพื่อชูรสอาหาร อาหารท้องถิ่นยังนิยมใส่ขมิ้นในอาหาร นิยมกินขนมจีน รองจากข้าว”

นอกจากการเรียนรู้วัฒนธรรมการกินพื้นบ้านของอำเภอทุ่งสง ยังเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในชุมชนเพื่อการท่องเที่ยว การค้าในอำเภอทุ่งสง ที่สำคัญเป็นการรณรงค์สร้างความร่วมมือของเครือข่ายข่ายชุมชนทั้ง 22 ชุมชนในเขตเทศบาลเมืองทุ่งสงร่วมพลังกันด้วยความภาคภูมิใจยังได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานเครือข่ายต่างๆ อย่างเหนียวแน่น ขับเคลื่อนให้เกิดการเรียนรู้วัฒนธรรมประเพณีการกินขนมจีนจนเกิดการเชื่อมโยงเพื่อการส่งเสริมด้านการท่องเที่ยว

\"\"

ขนมจีนมากกว่าเส้นและน้ำแกง

เครือข่ายแต่ละชุมชนในเขตเทศบาลเมืองทุ่งสง และชาวทุ่งสงจากเครือข่ายต่างๆ รวมพลังทำหน้าที่ “เจ้าบ้านที่ดี” จากวิถีชีวิตการทำขนมจีน “เทศกาลขนมจีนหม้อยักษ์เมืองทุ่งสง” วัฒนธรรมประเพณีที่เป็นเอกลักษณ์สร้างความประทับใจแก่ผู้มาเยือนทั้งขั้นตอนการทำขนมจีน สูตรน้ำแกงรสเด็ด เพื่อให้คนภายนอกที่มาเยือนเมืองทุ่งสงได้รับรู้เบื้องหลัง “การกินการอยู่”จากวิถีเศรษฐกิจพอเพียงที่เข้มแข็ง ด้วยความสามัคคีและคงไว้ซึ่งภูมิปัญญาแต่หนหลังคือสายใยแห่งวัฒนธรรมท้องถิ่นที่พวกเขาได้ร่วมกันรักษาไว้…เฉกเช่น เส้นทางขนมจีนหม้อยักษ์เมืองทุ่งสง…เมืองแห่งการเรียนรู้…สู่ชุมชนเข้มแข็ง  เมืองชุมทางน่าอยู่…เบ่งบานพร้อมรับผู้มาเยือน

\"\"

รศ.ดร.วิทยาธร ท่อแก้ว ประธานหลักสูตรนวัตกรรมการสื่อสารทางการเมืองและการปกครองท้องถิ่น มสธ. และในฐานะผู้เชียวชาญด้านการวิจัยและการสื่อสารพัฒนาท้องถิ่น ด้วยแนวคิดและวลีสำคัญ “ขนมจีนมากกว่าเส้นและน้ำแกง” ผู้อยู่เบื้องหลังและสร้างกิจกรรม “ขนมจีนหม้อยักษ์เมืองทุ่งสง”ด้วยแนวคิดสำคัญเพื่อพัฒนาด้านการศึกษาพัฒนาคนเพื่อพัฒนาเมืองเป็นการบูรณาการทุกภาคส่วนร่วมกันพัฒนาท้องถิ่นโดยใช้กลไกเครือข่ายภาครัฐ เอกชน และประชาสังคม ทำงานร่วมกันต่อเนื่องถึง 19 ปี ในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้เรื่องราวของวิถีถิ่นชุมชนปักษ์ใต้ผ่าน ชุมชน เครือข่ายต่าง ๆ รวมทั้งเยาวชน ผ่านกิจกรรมสร้างความตระหนักรู้ ความเข้าใจในวัฒนธรรมประเพณีการกินขนมจีน ที่มากกว่าเส้นและน้ำแก่ง เป็นการสะท้อนเรื่องราววิถีชีวิตจริงที่ต่อเชื่อมหลาย ๆ อย่างเข้าด้วยกัน เพราะทุ่งสง เป็นอำเภอใหญ่ อำเภอหนึ่งในจังหวัดนครศรีธรรมราช

\"\"

“การสร้างกิจกรรมนี้เป็นรูปแบบการสื่อสารจากปรากฏการณ์ชุมชนในท้องถิ่นและเรื่องราวเรียบง่ายแต่มีคุณค่าของชาวบ้านที่นิยมกินขนมจีนกันได้ตลอดวันตลอด 24 ชั่วโมง หากใครผ่านมาแวะเวียนเยี่ยมเยียนในเขตอำเภอทุ่งสงจะเห็นร้านขายขนมจีนมีอยู่ทุกชุมชน มีอยู่ทุกถนน  เพราะอาชีพขายขนมจีนเป็นอาชีพที่ได้สืบต่อกันมาเป็นเวลาช้านาน เป็นอาชีพที่ใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่นมาใช้ในกระบวนการทำเส้น ทำน้ำแกง ทำผักเหนาะ และการจัดร้าน” นอกจากนี้ร้านขายขนมจีนยังเป็นร้านที่มีการแลกเปลี่ยนข่าวสารกันในชุมชน กิจกรรมขนมจีนหม้อยักษ์เมืองทุ่งสงเป็นกระบวนการสื่อสารอัตตลักษณ์วิถีถิ่นใต้ที่งดงาม

\"\"

รศ.ดร.วิทยาธรย้ำว่า “ขนมจีนหม้อยักษณ์”เป็นการสื่อสารและสร้างกิจกรรมที่มุ่งเน้นแนวคิดสำคัญในการส่งเสริมค่านิยมและวัฒนธรรมที่ดีงามของท้องถิ่นอันประกอบด้วย

  1. วัฒนธรรมการกินเป็นวัฒนธรรมธรรมชาติที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในพื้นที่
  2. วัฒนธรรมเป็นสิ่งที่ควรรักษาสืบสานอย่างต่อเนื่องผ่านรุ่นต่อรุ่น
  3. งานขนมจีนหม้อยักษ์เป็นความร่วมมือของชุมชนที่ร่วมทำงานกันเป็นทีมวางแผนรับผิดชอบร่วมกัน
  4. 4. ร่วมมือกับภาคีเครือข่ายของจังหวัด
  5. เทศกาลนำไปสู่การส่งเสริมการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจท้องถิ่น
  6. สร้างคุณค่าสู่มูลค่าให้แก่ชุมชน

และ 7. แนวคิดสุดท้ายเป็นการบูรณาการการทำงานร่วมกันทั้งการวางแผนการดำเนินงานการติดตามและการประเมินผลเพื่อสรุปข้อเรียนรู้ร่วมกัน

\"\"

“ขนมจีนมีคุณค่าหลายประการ ขนมจีนมีคุณค่าทางเศรษฐกิจ สร้างรายได้ สร้างอาชีพ ที่เกี่ยวเนื่อง กระบวนการทำขนมจีน เครื่องเทศสมุนไพรที่นำมาทำน้ำแกง และปลูกผัก หรือผักเหนาะจากพืชพื้นถิ่นให้คงไว้และสร้างรายได้แก่ชาวบ้านในชุมชน เป็นการส่งเสริมแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงสูการปฏิบัติ ขนมจีนและน้ำแกงคือคุณค่าทางวัฒนธรรมการกินเป็นสายใยการถักทอความสามัคคีระหว่างกันในชุมชน สร้างมูลค่าเพิ่มจากการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม การสร้างและจัดกิจกรรมขนมจีนหม้อยักษ์ การสื่อสารอัตตลักษณ์ และอาจจะกล่าวได้ว่าขนมจีนเป็นวิถีชีวิตจริงที่ต่อเชื่อมหลาย ๆ อย่างเข้าด้วยกัน เป็นการเรียนรู้ตลอดชีวิต”

\"\"

แม้ขนมจีนจะเป็นเส้นธรรมดา ดูไม่มีสีสันอะไรมากนัก หากแต่คุณค่าของมันมีมากกว่าเหมือนเส้นยาวของขนมจีนมาต่อกัน รวมทั้งขนมจีนยังคงเป็นสื่อกลางในการดำรงวิถีชีวิต วัฒนธรรม เครือข่ายชุมชน  หล่อหลอมความสามัคคี ความเป็นอัตลักษณ์พื้นถิ่นของชุมชนจากคุณค่าสู่มูลค่าเพิ่ม ส่งเสริมการท่องเที่ยว สร้างงาน สร้างอาชีพและสร้างรายได้ ดังคำกล่าวที่ว่า ขนมจีนเป็นมากกว่าเส้นและน้ำแกง”

\"\"