หมอปลา บุกพิสูจน์ ไฟปริศนาไหม้บ้าน ยันเกิดจากฝีมือมนุษย์

นายจีรพันธ์ เพชรขาว หรือ “หมอปลา” มือปราบสัมภเวสี ได้เดินทางบุกมาพิสูจน์ ไฟปริศนาไหม้บ้านเช่า ภายในซอยวัดท้องคุ้ง ตำบลสำโรงใต้ อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ ยืนยันเกิดจากฝีมือของมนุษย์ ขณะที่ชาวบ้านละแวกดังกล่าวยังคงเชื่อว่าเกิดจากสิ่งลี้ลับ 

\"\"

จากกรณี บ้านเช่าหลังหนึ่ง ย่านสำโรงใต้ ถนนปู่เจ้าสมิงพราย เกิดไฟลุกไหม้เองอย่างไม่ทราบสาเหตุ โดย ผู้ที่เช่าบ้านหลังดังกล่าว ระบุว่าไฟนั้นลุกขึ้นมาเองอย่างปริศนาแล้วหลายครั้ง ซึ่งได้มีการติดต่อให้การไฟฟ้าเข้าตรวจสอบแล้ว แต่ก็ไม่พบปัญหาไฟรั่วหรือระบบไฟฟ้าผิดปกติแต่อย่างใด แม้จะใช้ ถังดับเพลิง ฉีดดับไฟจนมอดไปแล้ว แต่เพียงไม่นานก็เกิดไฟลุกขึ้นมาอีกครั้ง นอกจากนี้เจ้าของบ้านยังเชิญ พระ มาทำพิธีทางศาสนา แต่เหตุการณ์ก็ยังไม่หาย แถมเกิดต่อหน้าต่อตาพระอีก โดย ผู้ที่เช่าบ้านหลังดังกล่าว รู้สึกไม่สบายใจ โดยเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นมาแล้ว 2 วันติดต่อกัน ทำให้คนในบ้านไม่ได้นอนเลย ซึ่งทางเจ้าของบ้านที่ให้เช่านั้นก็ให้ย้ายออก เนื่องจากเกรงจะมีเหตุไฟไหม้บ้าน

\"\"

ล่าสุด เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 30 พฤษภาคม 2568 นายจีรพันธ์ เพชรขาว หรือ “หมอปลา” มือปราบสัมภเวสี ได้เดินทางมาที่บ้านเช่าดังกล่าว ภายในซอยวัดท้องคุ้ง ตำบลสำโรงใต้ อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ นางสาวลลิดา อินผ่อง อายุ 23 ปี และ นายสมบัติ อินผ่อง อายุ 35 ปี สองสามีภรรยาที่พักอาศัยอยู่ในห้องดังกล่าว ได้พา หมอปลา และ ทีมงาน เดินดูจุดที่เกิดไฟลุกไหม้อย่างไม่ทราบสาเหตุ ทั้งภายในห้องและหน้าห้อง หลังได้จากได้พูดคุยถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หมอปลา ได้ไปที่บ้านของ นายวรวิทย์ สุขมาก อายุ 56 ปี พ่อของ นายสมบัติ ซึ่งเป็นจุดที่เกิดไฟไหม้ปริศนาอีกจุดหนึ่ง ก่อนจะเดินออกมาพูดคุยกับชาวบ้านโดยรอบ และเจ้าของห้องเช่า ระหว่างนั้น นางสาวลลิดา ได้โชว์ผ้าเช็ดตัวที่แขวนคอตลอดตามที่มีคนแนะนำให้ทำ ซึ่งได้มีรอยไหม้ที่ผ้าถึง 2 จุด เจ้าตัวบอกว่า อยู่ ๆ ไฟก็ลุกไหม้ พร้อมได้หยิบ เหรียญตราครุฑ ที่หนีบไว้ที่ปกคอเสื้อ ออกมาให้นักข่าวดู เชื่อว่าจะคุ้มครอง

\"\"

นางสาวลลิดา อินผ่อง อายุ 23 ปี บอกว่า อยู่ที่นี่ได้ 6 เดือน ช่วงแรกที่มาอยู่ก็ปกติดี มีทะเลาะกันบ้าง มีถึงขั้นทำร้ายร่างกาย 1 ครั้ง ก่อนที่จะเกิดเกิดการณ์ไฟไหม้ตนทะเลาะกับแฟน ไม่คุยกัน 3-4 วัน ต่างคนต่างอยู่ วันที่ 27 ตอน 4 ทุ่ม ตนงอนนอนอยู่กับแมว แฟนนอนอยู่ในมุ้งในบ้านปิดห้อง จากนั้นแฟนได้ยินเหมือนเสียงเด็กเรียก “พ่อๆไฟไหม้” แฟนตื่นขึ้นมาเห็นไฟไหม้มุ้ง ตนนอนอยู่ข้างนอกกับแมว แฟนมาเรียกแต่ตนไม่ตอนไฟไหม้ ตนให้แฟนไปดูที่ปลั๊กว่าช็อตหรือไม่ แต่ไม่มีไฟรั่วหรือไฟช็อต เพราะเจ้าของห้องให้ไฟฟ้ามาตรวจแล้ว ตำรวจมาดูก็หาสาเหตุไม่ได้ วันที่ 27 ไหม้มุ้ง คืนก็ไม่มีไหม้อีก วันต่อมาแฟนไปทำงานก่อนตนตื่นมาก็ไปทำงาน หลังจากที่ตนกลับทำงานตอน 5 โมงกว่าๆ ตนเข้าห้องน้ำแล้วเปิดบ้านเพื่อทำความสะอาด แล้วก็เกิดไฟไหม้ข้างห้องตอนนั้นตนอยู่ในห้องน้ำ ข้างห้องตะโกนไฟไหม้ๆ ตนยังไม่ได้ออกจากห้องน้ำ จากนั้นตนออกมาก็เห็นเขาเอาน้ำดับไฟกันอยู่ ตอนนั้นเวลา 5 โมงเย็น วันที่ 28 ยืนยันว่าตอนนั้นตนอยู่ในห้องน้ำ เพื่อนบ้านเป็นคนมาเรียกตน ไฟไหม้ที่ผ้าที่เขาตากไว้ จากนั้นตนก็อยู่กันปกติ ช่วงประมาณทุ่มกว่าๆก็เกิดไฟไหม้ในบ้านตรงพื้นเสื่อน้ำมัน พวกตนทำกับข้าวกันอยู่นอกบ้าน พอไปดับไฟตรงนั้นแล้ว พวกตนก็อยู่ข้างนอกเดินไปคุยกับเพื่อนบ้าน ไฟก็ไหม้ตรงฟิวเจอร์บอดตรงหน้าบ้าน วันที่ 28 ไหม้ 3 ครั้ง เจ้าของห้องเห็นกับตาว่าไฟจู่ๆ ก็ไหม้ขึ้นมาเอง วันที่28 ไม้ครั้งสุดท้ายเกือบๆ เที่ยงคืน ไหม้กางเกงที่ใส่แล้วอยู่ในตะกร้า แฟนตนก็ใช้มือปัดไฟก็ดับ หลังจากเที่ยงคืนก็ไม่มีอะไร

\"\"

นางสาวลลิดา บอกต่ออีกว่า วันที่ 29 ช่วงตี 4 แม่นั่งอยู่หน้าบ้าน เพราะปกติแม่จะตื่นเช้ามาทำกับข้าว ตนนอนปิดห้องอยู่ในบ้านไฟก็ไหม้หน้าบ้าน ตนนอนหลับสนิทไม่ได้กลิ่น มีป้าที่เขามาใส่บาตรเห็นก็ว่าทำไมปล่อยให้ไฟไหม้แบบนี้เขาก็มาช่วยดับให้ ตนยังไม่ตื่น วันที่ 29 ไหม้ 3 รอบ ครั้งที่ 2 ไหม้ราวผ้าที่ตนตากไว้ในห้องตอนนั้นไม่มีใครอยู่ มีคนที่เขาขับรถมาเห็นเพราะตนเปิดหน้าต่างไว้เขาก็มาช่วยดับไฟให้ เพื่อนข้างห้องก็ช่วยเอาถังดับเพลิงมาดับให้ ตอนนั้นเกือบ 8 โมง จากนั้นพ่อมาช่วยและย้ายของๆตนไปเก็บที่บ้านพ่อโดยช่วยกันทะยอยเอาไป จากนั้นก็ออกมาอยู่ตรงนี้กันหมดพ่อก็ปิดล็อกบ้านมันไหม้ตอนไหนไม่รู้ ทางร้านค้าเขาได้กลิ่นเหม็นไหม้ เลยมาดูที่ห้องว่ามีไหม้ตรงไหนแต่ก็ไม่มี ประมา 3- 4 นาทีก็ไปไหม้ที่ห้องพ่อ ตรงหน้าตู้เสื้อผ้า ตนเพลิงเกิดจากเสื้อผ้าตน ช่วงเวลาเกือบ 3 ทุ่ม ตนอาบน้ำสระผม จากนั้นคุยกับแฟนว่าจะไปซื้อผลไม้เอามาขึ้นหิ้ง แฟนกับตนก็ขับรถไปซื้อ จะถึงตลาดสำโรงไฟก็ไหม้ผ้าขึ้นมาแฟนรู้สึกร้อนที่หลังไฟก็ลุกขึ้นมาตนก็รีบปัด ทางเจ้าของห้องนิมนต์หลวงพ่อมา ตนไปเตรียมเสื่อเพื่อให้หลวงพ่อนั่งทำพิธีไฟก็ไหม้ขึ้นมา วันที่ 29 ไหม้ 5 รอบ ตอนนั้นหลวงพ่อก็สวดปกติ หลวงพ่อเห็นกับตาว่าไฟลุกขึ้นมาเอง ตนจ่ายค่าห้องตรงไม่เคยค้าง  ตนคิดว่าเป็นเรื่องที่มองไม่เห็นเพราะทางตำรวจมาตรวจแล้วก็ไม่มีใครวางเพลิง เจ้าของห้องดูกล้องวงจรปิดก็ไม่ใครเดินเข้ามา แฟนเลี้ยงกุมารมาก่อนที่จะมาคบหากับตน อยู่ที่มา 6 เดือนไม่เคยเกิดการณ์แบบนี้เลย ตนไม่คิดว่าโดนทำของใส่เพราะตนไม่ได้ไปที่ไหนเลย อยู่กับแฟนมาตนก็ไว้ใจเขา ผ้าที่ยัดอยู่ใต้หลังคาตนพึ่งเห็นวันนี้ มีปัญหากับคนที่อยู่ จ.กำแพงเพชร แต่ไม่ได้มีกับตนโดยตรงมีกับพ่อแม่แฟน ตนเข้าไปช่วยเพราะพ่อแม่แฟนโดนทำร้ายร่างกาย เสียงเด็กที่มาเรียกมีแค่ครั้งแรง ครั้งเดียว ตนไม่เคยทำแท้ง ส่วนแฟนเคยมีภรรยามาก่อนแต่เรื่องทำแท้งไม่เคยบอกว่ามีหรือไม่ ตนไม่จำเป็นต้องเรียกร้องความสนใจจากแฟน ตนแยกกันอยู่มาเป็นปีแล้วตนอยู่กำแพงเพชร มีลูกกัน 2 คน ตนก็ไม่เคยเรียกร้อง เขาให้ตนเองทุกอย่าง

\"\"

นายสมบัติ อินผ่อง อายุ 35 ปี บอกว่า อยู่ที่นี่มาก็ใช้ชีวิตตามปกติ พึ่งมีวันที่ 27 ตนปิดไฟนอนอยู่ในมุ้งประมาณ 4 ทุ่ม จากนั้นได้ยินเหมือนเสียงเด็กเรียก “พ่อๆไฟไหม้” ตื่นขึ้นมาเห็นไฟไหม้มุ้ง ตอนนั้ตนล็อกประตูอยู่แฟนเข้ามาไม่ได้ กุมารตนรับมาจากตำหนักพ่อแก่ เป็นสิบๆปีแล้ว ก่อนหน้านี้ไม่เคยได้ยินเสียงเรียก แต่แฟนจะเห็นกุมารบ่อย หลังจากตนลุกขึ้นมาดับไฟก็เรียกแฟนว่าไฟไหม้ ตอนแรกนึกว่าไหม้ปลั๊ก ก็เก็บปลั๊กไฟแล้วเรียกแฟนเข้ามานอน คืนนั้นก็ไม่มีอะไร ตนไปทำงานตอนตี 4 ก็ไม่มีอะไร ตนเชื่อไปทางไสยไสยศาสตร์ ตอนประมาณ 3 ทุ่มตนเดินมาเลี้ยงนกตามปกติตอนนั้นแฟนนอนอยู่ ตนได้กลิ่นสาบๆ เมื่อวันที่ 27 ตนได้บอกกับหมอปลาแล้ว กลิ่นสาบเหมือนซากอะไรตาย จากนั้นตนก็เดินเข้าห้อง ตอนนั้นยังไม่ไหม้ แต่หลังจากได้กลิ่นสาบก็เกิดไฟไหม้ ตนได้กลิ่นแค่วันเดียว แต่ทุกวันพระวันโกนจะได้กลิ่นเป็นมามาได้ 1 เดือน ตนไม่เคยทักอะไร เพราะตนเชื่องเรื่องแบบนี้อยู่แล้ว ตนให้น้ำหนักไปทางไสยศาสตร์ 70% วิทยาศาสตร์ 30%  ตนคิดว่าแฟนไม่น่าจะเป็นคนจุดไฟ เมื่อวานตนขับรถไปตลาดกันมือเขาก็จับเอวตนอยู่ผ้าที่อยู่กับเขาไฟก็ลุกขึ้นมาและเขาไม่สูบบุหรี่ ถ้าสังคมมองว่าตนกับแฟนสร้างเรื่องขึ้น ก็ไม่รู้จะทำไปเพื่ออะไรเพราะตนชอบอยู่แบบสงบ ไม่อยากยุ่งวุ่นวายกับใคร ตอนนี้ตนก็ต้องหาที่อยู่ใหม่เพราะเจ้าของห้องเขาให้ย้ายออก วันนี้หมอปลามาช่วยตนก็อยากรู้ว่าเกิดจากอะไร

\"\"

นายวรวิทย์ สุขมาก อายุ 56 ปี พ่อของ นายสมบัติ เล่าว่า วันนั้น ตนได้เอาเสื้อผ้าของ ลูกสะใภ้ มาใส่ไว้ในกะละมัง วางไว้ในบ้าน แล้วตนก็ออกไปนั่งข้างนอกเพื่อเฝ้าดูเผื่อจะไหม้ตรงจุดอื่น ไม่นานไฟก็ไหม้ตู้เสื้อผ้าตน ซึ่งภายในมีเสื้อผ้าของตนกับแฟน หลังจากนั้นก็ไม่นานไฟก็ไหม้ปลายที่นอนตน ตนก็เลยเอาใส่ถังมาราด ซึ่งเหตุการณ์เกิดหลังจากเอาเสื้อผ้ามาจากห้องลูก ก็เกิดไฟไหม้ที่ไม่ทราบสาเหตุถึงสองรอบในวันเดียวเลย โดยหลังเกิดเหตุตนก็เอาเสื้อผ้าของลูกและลูกสะใภ้ ไปไว้กับกองของเขาที่ข้างนอก เพราะตนกลัวว่าจะไหม้ขึ้นมาอีก ส่วนตัวตนเชื่อว่าน่าจะเกิดจากสิ่งลึกลับ ตนอยู่มา 20 กว่าปี ไม่เคยมีเหตุการณ์อย่างนี้เกิดขึ้นเลย

\"\"

หมอปลา กล่าวถึงการมาช่วยเหลือ ในครั้งนี้ว่า พื้นที่ตรงนี้ถ้ามันมีการเกิดไฟไหม้ได้แบบนี้คือมันน่ากลัวแล้ว เพราะมันเป็นไม้ซะส่วนใหญ่แล้วมีผ้าเป็นเชื้อเพลิง ที่ค่อนข้างจะลุกไหม้ได้ไว และจากประสบการณ์ ที่ลงพื้นที่ไปในหลายๆที่ ที่มีการเกิดไฟไหม้แบบไม่รู้สาเหตุ ส่วนใหญ่จะมาจากฝีมือเด็ก เกือบจะ 100% แต่ก็จะมีอีกส่วนที่เกิดจากฝีมือผู้ใหญ่ ตนสรุปได้ว่าเคสนี้ ก็เกิดจากฝีมือผู้ใหญ่ ไม่ได้เกิดจากฝีมือผีหรือสัมภเวสีใดๆทั้งสิ้น เพราะถ้า เกิดจากเรื่องไสยศาสตร์หรือผี ถ้ามันจุดไฟได้ มันจะเหลือเชื่อและเป็นการพัฒนาไปได้ไกลมากไกลกว่าเทคโนโลยีอีก ซึ่งวิทยาศาสตร์จะต้องยอมแพ้ไสยศาสตร์ แต่ครั้งนี้มันเกิดจากฝีมือมนุษย์ ซึ่งเกิดจากผู้ใหญ่

\"\"

หมอปลา ยังกล่าวกับ นางสาวลลิดา ซึ่งเป็นตัวภรรยา ของนายสมบัติว่าทุกครั้งที่เกิดเหตุไฟไหม้ ตัวเธอนั่นแหละที่เป็นคนจุดไฟ ซึ่งตอนที่ทำเธออาจจะรู้ตัวหรือไม่รู้ตัวก็ได้ เพราะตอนที่ตนมาตนสัมผัสได้เลยว่ามันเกิดจาก ตัว นางสาวลลิดา ซึ่งตัวเธอเป็นคนเล่าเอง ว่าก่อนหน้าที่จะเกิดเหตุเธอป่วย แล้วบางทีก็ควบคุมตัวเองไม่ได้ ตนได้มีการไปพูดคุยกับเจ้าของบ้านเช่า ซึ่งจะบอกได้เลยว่า ครอบครัวนี้ยังโชคดีมาก เพราะเจ้าของบ้านเช่าใจดี และเมตตากับครอบครัวนี้ ตนจึงอยากแนะนำกับ นางสาวลลิดา ว่าให้ไปหาหมอ เพราะถ้าไม่ไปจะถูกดำเนินคดี ตนพูดทุกอย่างเป็นความจริงทั้งหมด แล้วไม่อยากให้เธอโกรธตน มันไม่ใช่เรื่องไสยศาสตร์หรือสิ่งที่ครอบครัวนี้คิด แต่มันเกิดจากคนในครอบครัวนี้ ตนแนะนำให้หันหน้ามาคุยกันดีๆ เวลาทะเลาะกันหรือมีปัญหา อย่าเอาปัญหา หรือมาทำอะไรแบบนี้ ที่เกิดผลเสียกับชุมชน มันเสี่ยงที่ครอบครัวนี้จะติดคุก ตนบอกเลยว่าเจ้าของบ้านเช่านี้น่ารักมาก แล้วอยากให้แนะนำให้ครอบครัวนี้ อย่าทำตัวมีปัญหา แล้วตนไปเช็คมา ครอบครัวนี้ทะเลาะกันบ่อยมาก ซึ่งมีหลาย ๆ เคส เป็นแบบนี้ บางเคสทางพ่อเด็กก็มาต่อว่าตน ว่าตนรู้ได้อย่างไรว่าลูกเขาเป็นคนทำ พอตนเอากล้องวงจรปิดไปติด ไฟก็ไม่มีการไหม้หรือลุกอีกเลย เพราะเวลาเกิดไฟไหม้จุดจุดนั้นจะไม่มีกล้องวงจรปิด เพราะกล้องวงจรปิดมันสามารถจับภาพคนทำได้ ก็สังเกตดูเอาว่าตรงที่ไฟมันไหม้ในบ้านหลังนี้ ก็ไม่มีกล้องวงจรปิด ตนไม่ได้ใส่ร้ายใครเลย แต่ทาง นางสาวลลิดา ก็ย่อมรู้ตัวเองดี สุดท้ายแล้วตนอยาก แนะนำให้ ไปหาหมอเพราะถ้ามีอะไรเกิดขึ้นหรือไฟไหม้ลุกลามมากกว่านี้ นางสาวลลิดา จะโดนจับดำเนินคดี

\"\"

เพื่อนบ้านท่านหนึ่ง ได้ออกมาเล่าให้ฟังว่า ด้วยความว่าตนก็อยากรู้ว่าจริงหรือเปล่าจึงได้เฝ้าดูจากที่บ้าน ถ้าตอนที่เกิดไฟไหม้ไม่มีคนไฟได้ไหม้หมดไปแล้วตั้งแต่ครั้งแรก แรกเริ่มเลยไฟที่ข้างห้องเสื้อเหลือ นางสาวลลิดา ก็ไปดับ ถัดมาอีกหน่อยที่บริเวณหน้าห้อง นางสาวลลิดา เห็นก็มาดับ แล้วมีครั้งหนึ่งตนกับ นางสาวลลิดา ก็นั่งกันอยู่ที่หน้าบ้านตน ตนก็จับแขน นางสาวลลิดา เอาไว้ จะดูว่าไฟมันจะลุกอีกไหม สักพักก็มีไฟลุก คือตอนนั้น นางสาวลลิดา ไม่ได้อยู่ตรงที่ไฟลุกเลยเพราะตนจับเขาไว้อยู่ที่หน้าบ้านตนด้วยความอยากรู้ ตนก็อยากถาม นางสาวลลิดา จุดหรือเขาใช้จิตจุดหรอ

\"\"

นางสาวจิ๊บ อายุ 33 ปี เพื่อนบ้าน เล่าว่า ตอนแรกตนอยู่ในบ้าน แล้วที่บ้านเปิดหน้าต่างเอาไว้ ตอนนั้นตนได้กลิ่นไฟก็เลยคุยกับลูกสาวว่ามีใครจุดไฟทำกับข้าวหรือเปล่าก็ไม่ได้ลุกออกไปดู สักพัก พี่ข้างบ้าน (นางสาวลลิดา) เขาวิ่งออกมาบอกตนว่าไฟไหม้ ตนก็เลยออกมาก็เจอไฟไหม้อยู่ข้างบ้าน ตอนนั้นเท่าที่ตนสังเกต นางสาวลลิดา ก็แต่ตัวธรรมดาเขาบอกว่าเขาเข้าห้องน้ำอยู่ เขาได้กลิ่นก็เลยวิ่งออกมาบอก หลังจากเหตุการณ์นั้นก็เกิดเหตุการณ์แต่ฝั่งบ้าน นางสาวลลิดา อย่างเดียวเลย ทุกครั้งที่ไหม้ก็จะมีตัว นางสาวลลิดา ที่อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ บางครั้งก็มีชาวบ้านแถวนั้นที่เขามาเห็นเหตุการณ์ก็จะมาช่วยดับไฟซึ่งตอนนั้น นางสาวลลิดา ก็อยู่บ้าน ตนก็ไม่รู้ว่าเขาเป็นคนจุดหรือไม่ ตนเคยเห็นเขาทะเลาะกันไม่บ่อย มีแค่ครั้งแรกที่ย้ายเข้ามาอยู่ ประมาณกลาง ๆ เดือน มีทะเลาะกันเสียงดังแค่ครั้งเดียว เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นข้างบ้านตน ก็คือวานซืน ( 28 พฤษภาคม 2568) ตนก็กลัวว่าไฟจะไหม้ลามมาที่บ้านตน คืนนั้นตนก็นอนไม่หลับเหมือนกัน เพราะว่าตอนแรกที่ไหม้ก็แค่หน้าบ้านอย่างเดียว ยังไม่เห็นไหม้ในบ้าน ในวันนั้นเขาบอกว่าไม่ให้แจ้งเจ้าของห้องเพราะกลัวว่าเจ้าของบ้านจะไม่ให้อยู่ และอีกอย่างตอนแรกตนก็คิดว่าแฟนตนน่าจะดูดแล้วเศษไปโดน

\"\"

นายรุ่งเพชร สมรรคเสวี อายุ 52 ปี เพื่อนบ้านอีกท่านหนึ่ง เล่าว่า เมื่อวานเขา (นางสาวลลิดา) ยืนกวาดบ้านอยู่ จะนิมนต์พระมาสวดที่บ้าน สักพักเขา (นางสาวลลิดา) ก็ร้องว่าไฟไหม้หนูแล้ว ตนก็จับผ้ามาก็เห็นไฟกำลังลุกไหม้ที่ผ้าขนหนูที่เขา (นางสาวลลิดา) คล้องคออยู่ ก็ได้ช่วยกันดับ ก่อนจะเดินออกมานั่งคุยกันข้างนอก สักพักไฟก็มาไหม้ที่กรงแมว บางครั้งที่ไหม้ก็จะมี นางสาวลลิดา อยู่ด้วย อย่างนั่งอยู่ตรงโต๊ะ มันก็ไหม้ตรงโต๊ะ พอยกที่นอนเข้าบ้านก็ไปไหม้ในบ้าน ตนก็ไม่รู้ว่าเกิดจากอะไรเพราะตนก็ไม่เห็น มันไม่มีคนจุด แต่เราก็ก้าวก่ายอะไรไม่ได้เพราะมันมองไม่เห็นสิ่งลี้ลับ แต่เท่าที่ตนเห็นไม่มีใครจุด