ระทึก บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ครึ่งปูนครึ่งไม้ที่กำลังรื้อถอนพังถล่มทับคนงาน มีผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งหมด 4 ราย เจ้าหน้าที่ให้การช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 3 ราย ก่อนนำส่งโรงพยาบาล ส่วนอีก 1 รายที่ติดอยู่ใต้ซากปรักหักพัง เจ้าหน้าที่กู้ภัยใช้เวลากว่า 3 ชั่วโมงจึงสามารถรื้อซากปรักหักพังออกและช่วยเหลือคนงานชายชาวต่างด้าวออกมาได้สำเร็จ ก่อนจะช่วยเหลือนำตัวส่งโรงพยาบาลล่าสุดอาการปลอดภัย เพื่อนบ้าน เผยอาจเป็นเรื่องอาถรรพ์ ลูกชายเจ้าของเก่า อาจไม่ยอมให้รื้อ
เมื่อเวลา 08.40 น. วันที่ 27 พฤษภาคม 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สำโรงเหนือ ได้รับแจ้งมีเหตุบ้านถล่ม มีผู้ได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดภายใน ซอยเทพารักษ์ 70 ตำบลเทพารักษ์ อำเภอเมืองฯ จังหวัดสมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงประสาน เจ้าหน้าที่มูลป่อเต็กตึ๊ง เจ้าหน้าที่สมาคมกู้ภัยสมุทรปราการ และเจ้าหน้าที่กู้ชีพกู้ภัยใกล้เคียง เดินทางตรวจสอบพร้อมด้วยอุปกรณ์ตัดถ่าง
ในที่เกิดเหตุมีลักษณะเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ครึ่งปูนครึ่งไม้ ซึ่งอยู่ระหว่างรื้อถอน เจ้าหน้าที่มูลนิธิพบ ผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งหมด 4 ราย เป็นต่างด้าว 2 ราย ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย 1 รายถูกครึ่งตัว ส่วนอีก 1 ราย ถูกทับใต้ซากปะลักหักพังที่ถล่มลงมา เจ้าหน้าที่ให้การช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 3 ราย ก่อนนำส่งโรงพยาบาล ส่วนอีก 1 รายที่ติดอยู่ใต้ซากปะลักหักพัง เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้พยายามตะโกนพูดคุย เพื่อทำการเช็คตำแหน่ง เนื่องจากถูกซากปรักหักพังทับจนมองไม่เห็นตัว ก่อนจะใช้อุปกรณ์ตัดถ่างและอุปกรณ์ต่าง ๆ ทำมาขุดตัดและยกปูนออก จนสามารถช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บออกมาได้ ก่อนจะทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้นและนำตัวส่งโรงพยาบาล ท่ามกลางสายฝน และชาวบ้าน
ล่าสุดเมื่อเวลา 10.50 น. วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานเจ้าหน้าที่กู้ภัยสามารถรื้อซากปรักหักพังออกและช่วยเหลือคนงานชายชาวต่างด้าวออกมาได้สำเร็จ ก่อนจะช่วยเหลือนำตัวส่งโรงพยาบาลล่าสุดอาการปลอดภัย
จากการสอบถาม หัวหน้าคนงาน บอกว่า บ้านนี้เป็นบ้านกำลังรื้อถอน ตนไม่ทราบสาเหตุแน่ชัดที่ถล่มลงมา เพราะตอนนั้นตนไม่ได้อยู่ แล้วคนงานมีกันอยู่ 4 คน ช่วยออกมาได้แล้ว 3 คน อีก 1 คน เจ้าหน้าที่กำลังช่วยเหลือ
ด้าน นายคมสัน บุญมีรักษ์ อายุ 31 ปี ผู้เห็นเหตุการณ์ บอกว่า ตอนแรกบ้านหลังนี้เป็นบ้านที่เขาปล่อยให้เช่า พอคนเช่าเก่าออก เขาก็เลยจะมาปรับปรุงรื้อถอนเพื่อสร้างใหม่ ตอนนั้นที่ตนได้ยินสักประมาณ 8 โมงกว่าๆ ที่เขากำลังรื้อถอน ตนจึงเปิดบ้านออกมาดู ก็เห็นมันถล่มต่อหน้าต่อตาเลย ตนช่วยเหลือออกมาได้แล้ว 1 คน ยังเหลืออีก 1 คนที่ออกไม่ได้ เบื้องต้นวันนี้เป็นวันที่ 2 ที่เขาเริ่มรื้อถอน วันนี้เขาเพิ่งเริ่มทำงานได้ครึ่งชั่วโมงเอง โครงสร้างก็ถล่มลงมา บ้านหลังนี้สร้างมาประมาณ 30 ปีได้แล้ว เท่าที่รู้เขาจะทุบสร้างเป็นโรงเก็บรถ และเท่าที่ทราบคนงานทั้งหมดมี 4-5 คน
นายคมสัน บอกอีกว่า บ้านหลังนี้มีเจ้าของเก่าก่อนหน้านี้คนนึง ลูกเขาตกตึกห้างดัง คือลูกเขาตายโหง ความเชื่อคือยังวนเวียนอยู่ เจ้าของใหม่ก็ไม่รู้เรื่องนี้ ตนเลยคุยเล่น ว่าลูกของเจ้าของเก่าเขาอาจจะไม่โอเคเพราะเขาเคยอยู่มานานแล้ว แต่ความจริงแล้วอาจจะเกิดจากความประมาทหรือป่าวก็ไม่รู้ในการทุบ ตามความเชื่อตนเลยให้เขาจุดธูปบอก แต่ตนเห็นว่าบ้านมันเอียงอยู่แล้วประมาณ 45 องศา ตนเคยคุยเล่นกับเพื่อนเวลาเพื่อนมาทำรถที่บ้าน ว่าบ้านหลังนี้จะล้มไปโดนบ้านอีกหลังมั้ย
ขณะที่ นางสาว สุมณ บุญประคม ชาวบ้าน บอกว่า ตนยืนทำของอยู่หน้าบ้าน ได้ยินเสียงดังสนั่น และมีควันฟุ้งกระจาย เลยรีบวิ่งไปดูเห็นคนงาน 4 คน 2 คนบาดเจ็บเล็กน้อยอีกคนโดนทับอยู่ครึ่งตัว ส่วนอีกคนอยู่ด้านล่าง ตนยืนดูอยู่สักพัก มีเด็กที่โรงงานเข้าไปช่วยคนที่โดนทับออกมาก่อน ส่วนคนที่ติดอยู่ข้างในช่วยไม่ได้ สาเหตุเกิดจากบ้านทรุดเอียง เขาเลยให้คนงานมาทุบเพราะไม่มีคนอยู่แล้ว คนงานเข้ามาทำงานได้ 2-3 วันแล้ว เป็นแรงงานต่างด้าว 4 คนคาดว่าคนงานน่าจะทุบข้างล่างก่อน เหมือนทำไม่ถูกวิธี ที่ตนเห็นเหมือนตอนแผ่นดินไหว แล้วบ้านถล่มลงมาควันฟุ้งกระจายเต็มไปหมด
นาย ปิติรัตน์ ปัญญาสาร เจ้าหน้าที่กู้ภัยป่อเต็กตึ๊ง ที่เข้าไปช่วยเหลือบอกว่าหลังจากที่ได้รับแจ้งเหตุก็ระดมเครื่องมือและอุปกรณ์กู้ภัยพร้อมเจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือ ซึ่งจากการตรวจสอบในที่เกิดเหตุพบคนงานที่ติดค้างในซากบ้าน จากการตรวจสอบพบคานไม้และซากของบบ้านกดทับที่ขาของคนงาน เจ้าหน้าที่จึงประเมินสถานการณ์และพูดคุยกับทางคนงานที่ติดค้างจนกระทั่งทราบตำแหน่งของการถูกกดทับจึงวางแผนช่วยเหลือ เคราะห์ดีที่ไม่ถูกกดทับช่วงสำคัญของร่างกาย อุปสรรคสำคัญของเจ้าหน้าที่คือสภาพน้ำท่วมขังและมีฝนตกลงมาซึ่งเจ้าหน้าที่ไม่สามารถทราบระดับน้ำและเกรงว่าระดับน้ำจะเพิ่มขึ้นจนถึงตัวคนไข้จึงต้องเร่งช่วยเหลือแข่งกับเวลาจนสามารถช่วยได้อย่างปลอดภัย
ด้าน นาย วชิรเชษฐ์ รุ่งธวัฒน์วงศ์ นายกเทศมนตรีตำบลเทพารักษ์ บอกว่า เบื้องต้นบ้านหลังดังกล่าวมีคนงานเข้ามาดำเนินการรื้อถอนจำนวน 4 คน โดยบ้านหลังดังกล่าวตรวจสอบแล้วไม่มีการขออนุญาตในการรื้อถอนแต่อย่างใด สาเหตุคาดมาจากการรื้อถอนที่ไม่ถูกหลักตามแบบวิศวกรรม ส่วนผลกระทบที่เกิดขึ้นกับบ้านข้างเคียงจะต้องประสานกับทางตำรวจและกองช่างประเมินสถานการณ์อีกครั้ง ส่วนสาเหตุน่าจะมาจากการผิดหลักวิศวกรรม ไม่หน้าเกี่ยวกับเรื่องฝนตกดินทรุดแต่อย่างใด แต่ในพื้นที่ก็มีน้ำท่วมขัง ซึ่งหลังจากนี้จะต้องให้กองช่างและผู้เกี่ยวข้องไปดูระเบียบของการขออนุญาตว่าถูกต้อง