ลูกชายของผู้เสียชีวิตร้องกันจอมพลังหลังอดีตผู้ใหญ่บ้านบุกยิงพ่อแม่เสียชีวิต

ลูกชายของผู้เสียชีวิตร้องกันจอมพลังหลังอดีตผู้ใหญ่บ้านบุกยิงพ่อแม่เสียชีวิต เผยพร้อมคุยเพราะอยากจบปัญหา ไม่อยากให้เกิดซ้ำอีก ต่อมา เมื่อช่วงเย็น ที่ผ่านมา กัน จอมพลัง ได้เดินทางไปกับลูกชาย และครอบครัวของผู้เสีย เพื่อไปรับร่างผู้เสียชีวิตทั้งสองราย นำกลับมาตั้งสวดพระอภิธรรม ที่ วัดมหาวงษ์ ตำบลสำโรงกลาง

\"\"

จากกรณี นาย มานิตย์ อายุ 72 ปี เป็นอดีตผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 5 ตำบลสำโรง ชักปืนกระหน่ำยิง นาย อำนาท อายุ 55 ปี (หลานชาย) และ นางสุรินทร์ อายุ 50 ปี (หลานสะใภ้) ดับคาบ้าน ย่านสำโรงใต้ ก่อนจะขับรถเก๋งหลบหนีไป ก่อนจะถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับตัวเอาไว้แล้ว ที่ จ.ชลบุรี โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นที่ หน้าบ้านพักหลังหนึ่งภายในซอย บุญถนอม ตำบลสำโรง อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 4 พฤษภาคม 2568

\"\"

ความคืบหน้าเมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 5 พฤษภาคม 2568 ที่ สภ.สำโรงใต้ ลูกชายของผู้เสียชีวิต พร้อมญาติพี่น้องในครอบครัวประมาณ 10 คน ได้เดินทางมารอพบกับ นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ กัน จอมพลัง และเตรียมมอบหลักฐานเป็นคลิปวิดีโอที่บันทึกเหตุการณ์ ที่ นายมานิตย์ บุกเข้ามายิงผู้เสียชีวิตทั้งสองรายถึงในรั้วบ้าน ให้กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจในวันนี้ ขณะเดียวกัน ทางหลานของ นายมานิตย์ ได้มาให้ข้อมูลกับนักข่าว พร้อมเปิดโพสต์ที่ทางญาติของฝ่ายผู้เสียชีวิตได้มีการโพสต์ข้อความบนเฟสบุ๊ค ระบุว่า เหตุการณ์นี้ กูจะเอาให้ถึงที่สุด พยายามฆ่า ถ้าพ่อกูไม่รอดก็ตายยกครัว

\"\"

หลังจากที่ กัน จอมพลัง เดินทางมาถึง สภ.สำโรงใต้ ได้มีการพูดคุยกับทางครอบครัวประมาณ 2-3 นาที และให้คำยืนยันกับครอบครัวว่าจะหาทางออกให้ดีที่สุดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก่อนที่จะพาครอบครัวของผู้เสียชีวิตเข้าไปพูดคุยกับทาง ผู้กำกับ สภ.สำโรงใต้ และหัวหน้าชุดสืบสวน ภายในห้องสืบสวน สภ.สำโรงใต้ หลังพูดคุยเสร็จสิ้น กัน จอมพลัง ออกมาเผยกับสื่อว่า วันนี้มาติดตามคืบหน้าคดีให้ ตนสอบถามทางผู้กำกับเผยคืบหน้าคดีว่า ทำไปเยอะแล้ว ให้ตำรวจพิสูจน์หลักฐานเก็บหลักฐาน เมื่อวานตำรวจ สภ.สำโรงใต้ ประสานให้ทางหลวง และ สภ.แสนสุข ติดตามจับกุมตัวผู้ก่อเหตุได้ ก่อนนำตัวกลับมาตรวจเขม่าดินปืนทำงานอย่างละเอียดมาก วันนี้รอสอบปากคำผู้ก่อเหตุ แต่ฝั่งลูกชายของคนตายสอบไปแล้ว ซึ่งลูกชายคนตายให้การว่าผู้ก่อเหตุมีการเล็งปืนมาที่น้องจะยิงใส่น้องด้วย ในส่วนของสาเหตุเป็นเพราะเรื่องกำแพงที่กำลังต่อเติม ลูกชายปรึกษาช่างว่าจะทำอย่างไร ช่างบอกลองเจาะกำแพงไหม แต่ยังไม่ได้เจาะกำแพง จากนั้นผู้ตายมีปากเสียงกับผู้ก่อเหตุจนหัวร้อนเอาปืนมารัวกว่า 10 นัด จนพ่อแม่ของน้องเสียชีวิต ส่วนที่ดินผืนนี้เป็นที่ดินมรดก ตนมองว่าเรื่องนี้ควรจบได้แล้ว ไม่ใช่อะไรไม่ถูกใจก็ไปเอาชีวิตคนอื่นไม่มีสิ่งของใดสำคัญเท่าชีวิตคนคนหนึ่ง กำแพงไม่ได้สำคัญไปมากกว่าชีวิตคน ก่อเหตุไปมีแต่เสียกับเสีย ส่วนข้อหาเบื้องต้น ตำรวจแจ้งข้อหา พยายามฆ่า / อาจตั้งข้อหา / พกพาอาวุธปืน โดยจะดูที่พยานหลักฐานเป็นหลัก เดี๋ยวช่วงบ่ายตนจะไปที่บ้าน เบื้องต้นย่าที่เป็นแม่ของผู้ตายยังไม่ทราบเรื่องที่ลูกชายตาย เดี๋ยวหลังจากนี้ พม. จะลงพื้นที่ไปด้วย กังวลกลัวคุณย่าทำใจไม่ได้ อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ฝั่งคู่กรณียังไม่ได้ติดต่อพูดคุยกับน้องเลย ซึ่งน้องพร้อมคุย คุยได้ เพราะอยากจบปัญหา ไม่อยากให้เกิดซ้ำอีก หากฝั่งคู่กรณีฟังอยู่นี่คือเป็นโอกาสที่ดี ที่จะคุยจะเคลียร์ให้จบ

\"\"

ด้าน นายปลั๊ก อายุ 25 ปี ลูกชายของผู้เสียชีวิต เผยว่า ตนต้องการให้พี่กันเข้ามาช่วยเพราะไม่รู้จะไปปรึกษาใคร หลังจากนี้คงจะอยู่บ้านหลังเดิมต่อไป เพราะพ่อแม่สร้างมาให้อยู่ ตนกังวลว่าหลังจากนี้จะเกิดปัญหาซ้ำอีก หากเป็นเช่นนั้นตนคงจะพาย่าไปอยู่ที่อื่น ต้นสายปลายเหตุนั้นตนไม่ทราบ ทราบเพียงว่าทะเลาะกันมานานเป็นสิบปีแล้ว หลักๆ คือสองฝั่งนั้นด่ากันไปมา ยอมรับว่าอยากให้ปัญหาจบ มันคาราคาซังมานาน ไม่อยากให้สูญเสียอีก ส่วนทางคดีให้พี่กันคุยเพิ่มเติม

\"\"

ด้าน นายพิชัย อายุ 59 ปี พี่ชาย นางสุรินทร์ ผู้ตายเล่าให้ทีมข่าวฟังว่า สามีภรรยาเพิ่งมาถึงบ้านหลังเกิดเหตุได้แค่หนึ่งคืน ก็เกิดเรื่องขึ้นทั้งทั้งที่จริงๆแล้วตั้งใจมาทำรั้วกั้นไม่ให้เห็นฝั่งบ้านคนก่อเหตุ โดยทางครอบครัวแค่เรียกช่างมาคุยว่าจะมีการเจาะ คือ แค่คิดกันว่าจะเจาะ แต่ยังไม่ได้เจาะอะไรทั้งนั้น ซึ่งที่ทำรั้วเพราะจะพาย่าไฝกลับมาอยู่ที่บ้านที่เกิดเหตุหลังดังกล่าว ไม่ต้องการให้มีเรื่อง อยากให้จบปัญหาไป ส่วนที่ทั้งสองฝ่ายมีเรื่องทะเลาะกันตนไม่ทราบเรื่อง เท่าที่รู้ก็ทราบแค่ว่าสองฝ่ายทะเลาะด่าทอกันไปมา นานแล้ว / ส่วนนายอำนาจ และนางสุรินทร์เองไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้นและไม่เคยด่าทอใดๆ ขณะที่ 2 สามีภรรยาที่เสียชีวิตไม่ได้มาอยู่บ้านหลังนี้ เพราะไปทำงานที่ชลบุรีมาเป็น 10 ปีแล้ว ทางครอบครัวต้องดูแลคุณย่าที่ได้รับบาดเจ็บจากการหูฝาดนายมานิตผู้ก่อเหตุบุกเข้าไปจึงเสียชีวิตในบ้านและยังเป็นคดีค้างเก่ากันอยู่เลย ซึ่งเป็นคดีระหว่างนายมานิตย์ คนก่อเหตุยิง กับผู้เป็นแม่ของ นายอำนาจ คนตาย นอกจากนี้ ทางครอบครัวคนตายขอฝากแก้ข่าวเรื่องที่มีคลิปที่นางไฝด่าทอฝั่งบ้านคนก่อเหตุ ยืนยันไม่จริง เพราะนางไฝไม่ได้พักในบ้านดังกล่าวมานานแล้ว ไม่ทราบว่าทางฝั่งคนก่อเหตุไปเอาคลิปจากไหน อยากขอความเป็นธรรมให้

\"\"

ด้าน พ.ต.อ ปิยะวัฒน์ พัชรนิตยธรรม ผกก.สภ.สำโรงใต้ เปิดเผยว่า จากการสอบสวน นาย มานิตย์ เผือกวัฒนะ หรือ อี๊ด อายุ 73 ปี ผู้ต้องหา ให้การสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุจริง เนื่องจากบันดาลโทสะที่ผู้ตายซึ่งมีศักดิ์เป็นหลานชายและหลานสะใภ้เรียกช่างมาต่อเติมกำแพงให้สูงขึ้น โดยจะมีการเจาะรูกำแพง เป็นเหตุให้ผู้ต้องหาไม่พอใจและมีปากเสียงด่าทอกัน ด้านผู้ตายมีการพูดจาท้าทายเกิดขึ้น จนกระทั่งผู้ต้องหาใช้อาวุธปืนยิงหลานทั้งสองเสียชีวิตในจุดเกิดเหตุ นอกเหนือแรงจูงใจในวันเกิดเหตุแล้ว ยังมีแรงจูงใจเหตุการณ์ในอดีตที่ผู้ต้องหาก่อเหตุทะเลาะวิวาทกับ นาง พนอ เปรมปรีดิ์ อายุ 80 ปี หรือ ยายไฝ แม่ของ นายอำนาจ สนับสนุนอีกด้วย หลังก่อเหตุผู้ต้องหาหลบหนีไปยังจังหวัดชลบุรี ซึ่งไม่มีจุดหมายปลายทางที่แน่ชัด โดยอ้างว่าในอดีตเคยมาเที่ยวที่ชลบุรี และต้องการที่จะตั้งหลัก เช่าโรงแรมนอนสัก 1-2 คืน ก่อนที่จะมอบตัวกับตำรวจ สภ.สำโรงใต้ ด้วยตนเอง กระทั่งมาถูกจับในที่สุด พนักงานสอบสวนแจ้ง 3 ข้อกล่าวหา ได้แก่ 1.ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา / 2.พยามฆ่า / และ 3.พรบ.อาวุธปืน ขณะที่ผู้ต้องหาไม่ประสงค์ทำแผนประกอบคำรับสารภาพ

\"\"

ต่อมาเมื่อ 13.00 น. กัน จอมพลัง พร้อม นายปลั๊ก ลูกชาย และครอบครัวของคนตาย ได้เดินทางมาที่บ้านหลังที่เกิดเหตุ ภายในซอยบุญถนอม ตำบลสำโรง อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ โดย นายปลั๊ก ได้พาไปดูหัวกระสุนที่เพิ่งพบเมื่อช่วงเช้า จำนวน 1 หัว ที่ตกอยู่บริเวณข้างบ้าน ซึ่งหลังจากนี้จะแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาทำการตรวจสอบและเก็บไว้เป็นหลักฐาน ก่อนจะพาไปดูร่องรอยกระสุนในจุดที่ นายมานิตย์ หันกระบอกปืนมายิงใส่นัดสุดท้าย โดยกระสุนได้ถูกประตูกระจกหน้าบ้านทะลุไปเข้าไปที่บันไดบ้าน แต่โชคดีขณะที่เกิดเหตุ นายปลั๊ก หลบได้ทัน จึงไม่ได้รับบาดเจ็บ ด้านญาติของผู้ตายได้พาไปดูรั้วเมทัลชีทข้างบ้านที่ทางถูกพูดถึง เพื่อยืนยันว่า ยังไม่ได้มีการเจาะกำแพงบ้านของผู้ก่อเหตุแต่อย่างใด แต่เป็นลักษณะรั้วเมทัลชีทที่ประกอบเอาไว้แล้วนำไปพิงไว้กับข้างกำแพงอีกที

\"\"

 

จากนั้น นายปลั๊ก ลูกชายของคนตาย ได้จุดธูป 5 ดอก เพื่อไหว้บอกเจ้าที่เจ้าทาง ให้รับรู้ เนื่องจากตนจะเดินทางไปรับร่างของพ่อแม่ไปประกอบพิธีทางศาสนาในวันนี้ โดยญาติ ๆ ได้เตรียมข้าวกล่อง น้ำเปล่า และเหล้าขาว เพื่อมาเซ่นไหว้ดวงวิญญาณ จากนั้น นายปลั๊ก ได้จุดธูป 1 ดอก เพื่อทำการเรียก ดวงวิญญาณของ แม่ และ พ่อ ให้ไปฟังพระสวดอภิธรรมในคืนนี้ ซึ่งเป็นคืนแรก ที่วัดมหาวงศ์

\"\"

กัน จอมพลัง บอกว่า ตนมาดูที่เกิดเหตุแล้ว มันน่าหดหู่ใจมาก อีกทั้งรั้วเมทัลชีทที่ฝั่งคนตายทำนั้น ยังไม่ได้สร้างความเสียหายให้กับกำแพงบ้านของคนก่อเหตุเลย / ซึ่งล่าสุดตนได้พูดคุยกับญาติของ นายมานิตย์ คนก่อเหตุ บอกว่า มีหลักฐานยืนยันว่าฝั่งของคนตาย ได้ตะโกนด่าทอก่อน อีกทั้งยังโพสต์ข่มขู่ จะฆ่าให้ตายยกครัว ซึ่งตนไปตรวจสอบมาแล้ว พบว่า โพสต์ดังกล่าว เป็นโพสต์ของลูกสาวของช่าง (ซึ่งเป็นหลานของคนตาย) ก็อยู่ในเหตุการณ์ เช่นกัน โดยในคลิปเขาก็ยังวิ่งหนีตายอยู่เลย เป็นการโพสต์หลังจากที่เกิดเหตุแล้ว ฝั่งลูกสาวน่าจะมีความโกรธจึงได้โพสต์เช่นนั้น แต่ที่ต้องออกมาชี้แจง เพราะฝั่งคนก่อเหตุ ได้นำประเด็นนี้ไปบอกกับสื่อ จนทำให้คนเข้าใจผิด ว่าลูกชายของคนตาย โพสต์ขู่ฆ่ายกครัวเขาก่อน ซึ่งที่น่าตกใจไปยิ่งกว่านั้น คือ ญาติของคนก่อเหตุ บอกให้คนโพสต์ ไปขอโทษพวกเขา / ซึ่งตนมองว่า มันเป็นมุมมองแปลกๆ คนของเขา ฆ่าคนตาย แต่พอถูกฝั่งเหยื่อโพตส์ต่อว่า จะให้เขาไปขอโทษ ทั้งๆที่ครอบครัวเขายังไม่ได้มาขอโทษครอบครัวของคนตายเลย / เบื้องต้นได้สอบถามแล้ว ว่าอยากขอโทษ กับลูกชายคนตายหรือไม่ แต่ฝั่งญาติของผู้ก่อเหตุ ดันมีเงื่อนไข “จะขอโทษ แต่สื่อต้องไม่อยู่ด้วย“ ตนเลยมองว่า “การที่เราอยากจะขอโทษใคร คงไม่ต้องมีเงื่อนไขแบบนี้” อีกทั้งลูกชายของคนตาย ยอมเปิดใจที่จะพูดคุย เพื่อให้จบเรื่อง ทั้งๆที่เขาเพิ่งจะผ่านเหตุการณ์ร้ายๆ เห็นพ่อกับแม่ถูกยิงตายต่อหน้าต่อตา แต่อีกฝ่ายกลับมาตั้งเงื่อนไข ตนจึงมองว่า “เขาไม่แก้แค้น ก็บุญแล้ว”

\"\"

ด้าน น้องปลั๊ก ลูกชายของคนตาย บอกว่า ตนอยากให้เรื่องนี้จบ ตนยอมรับว่า ในตอนแรกมีโกรธแค้น แต่เมื่อเรื่องมันเกิดขึ้นแล้ว ก็ต้องมาคิดว่า คนที่อยู่ จะต้องอยู่กันอย่างไร เพราะปัญหาที่เกิด เป็นปัญหาในรุ่นปู่ย่า ไม่ใช่ปัญหาในรุ่นของตน คนที่ทำผิด ก็ให้เขาไปรับผิดในสิ่งที่ทำ ซึ่งถ้าเขาอยากมาขอโทษ ตนก็ยินดีรับคำขอโทษ / ส่วนประเด็นเรื่องโพสต์ขู่ฆ่ายกครัวนั้น ตนไม่ได้เป็นคนโพสต์ แต่เป็นลูกสาวของช่าง ที่อยู่ในเหตุการณ์ เป็นคนโพสต์ อยากให้เข้าใจ

\"\"

นายวิเชียร อายุ 41 ปี ช่างที่อยู่ตอนเกิดเหตุ และหนีได้ทัน บอกว่า ตนเป็นช่างที่ทำรั้วแต่จริงๆแล้วตนเป็นหลาน ในคลิปจะเห็นตนยืนอยู่เดินไป แต่หลังจากเกิดเหตุตนได้วิ่งหนี หลังจากที่ลูกสาวรู้ว่าตนอยู่ในเหตุการณ์ก็ตกใจถ้าไม่วิ่ง พ่อก็จะเสียชีวิตด้วย ถ้าตนจะแจ้งความก่อนก็แจ้งได้เพราะตนอยู่ในเหตุการณ์ ตอนนั้นตนก็คุยกับเขาดีดีว่าไม่ให้ยิง เหตุการณ์ตอนนั้นคนยิงไม่ฟังตน ความรู้สึกตนมันคือเครือข่ายญาติพี่น้อง ไม่อยากให้เกิดขึ้น แต่มันก็เกิดขึ้นแล้ว ทั้งฝั่งเขาต้องเป็นคนมาขอโทษตน เพราะตนอยู่ในเหตุการณ์และตนก็ตกใจ ถ้าตนไม่วิ่งหนีตนก็ตาย การทะเลาะวิวาทมันเสียงดังทั้งคู่ ถ้าประเด็นเกิดจากเรื่องรั้วทำไมเขาไม่มาคัดค้านก่อนเริ่มทำงาน แต่งานมันเสร็จแล้ว ตนไม่ได้เจาะกำแพงบ้านเขาเพราะตนจะใช้ปูน แต่คนก่อเหตุอารมณ์ร้อนแหละไม่ฟัง ความตั้งใจจริงอาเขาอยากจะเทปูนและเจาะแต่เขาไม่ให้เจาะ ก็เลยจะใช้เทปูนอย่างเดียว แต่ก่อนตนก็ไม่รู้ว่าเขาทำกำแพงกันมายังไงแต่ผู้เสียชีวิตเคยบอกว่าทำกันคนละครึ่ง วันนั้นคนก่อเหตุไม่เดินมาคุยกับตนก่อน ตามคลิปวิดีโอ เหตุการณ์มันเกิดขึ้นเร็วมาก ตอนเกิดเหตุอยู่กันสามคนเพราะคนที่ 4 อยู่ในบ้าน เพราะตอนนั้นเขายิงรัว ในเหตุการณ์นี้ตนไม่อยากให้บานปลายเพราะเป็นเครือญาติแต่ถ้าเขาไม่หยุดในกรณีลูกสาวตน ตนก็จะแจ้งความพยายามฆ่า ตนอยู่ในเหตุการณ์ยังไม่ออกมาทำให้เขาเสียหายเลย

 

\"\"

นางสาวธนัชชา อายุ 23 ปี คนโพส และเป็นลูกสาวของ นายวิเชียร บอกว่า คุณจะเสียความรู้สึกว่าเสียใจไหมมันก็ต้องมีเสียใจอยู่แล้วค่ะไม่ติดแล้วแต่ตอนนั้น ถ้าสมมุติว่าพ่อหนูโดนยิงขึ้นมาเขาจะรับผิดชอบไหมถามว่าถ้าเป็นพ่อคุณ คุณจะเสียความรู้สึกว่าเสียใจไหมมันก็ต้องมีเสียใจอยู่แล้วค่ะคือที่โพสต์ ถามว่าด้วยการที่เราโพสต์หรืออาจจะมีความรุนแรงหรือคำพูดด้วยหรอเออมันแรงหรือเปล่าอาจจะเป็นคนปลูกเขาหรือเปล่าเนี่ยอันเนี้ยเราก็จะมีส่วนผิดแต่ถามว่าคุณก็มองกลับกันถ้าสมมุติเป็นพ่อคุณล่ะ คุณจะไม่รู้สึกว่าโกรธหน่อยหรอเสียใจในหลอดนี้ถ้าพวกคุณโดนอย่างเงี้ยแล้วถามว่าคนที่เสียชีวิต เขาก็เป็นยายหนูก็คือเป็นน้องสาวของตาหนูแท้ๆเราไม่ให้รู้สึกโกรธได้ยังไงแล้วพ่อหนูก็กลับมีศักดิ์เป็นหลานเขยของเขาอย่างเงี้ยค่ะแล้วก็เสียทั้ง 2 คนด้วยแล้วฝั่งคุณเสียไหมฝากคุณก็ไม่ได้เสียนี่แล้วทำไมตอนที่ยิงคุณถึงไม่ห้ามล่ะ

\"\"

นายวิเชียร บอกอีกว่า การขอโทษมันไม่ยาก ถ้าเค้าอยากให้ตนขอโทษตนก็ขอโทษได้แต่เขาต้องขอโทษตนก่อน เพราะตนเป็นคนที่อยู่ในเหตุการณ์นั้น

\"\"

นางสาวธนัชชา บอกอีกว่า ทางตนไม่ได้ติดปัญหาอะไรอยู่ที่เขา เพราะตนไม่ได้อยากจะไปแจ้งความหรือเข้ามาเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่เขายกเรื่องตนมาว่าตนจะไปข่มขู่เขา แต่ตนโพสต์หลังจากที่รู้เรื่องพ่อ และเรื่องอาที่เสียชีวิตไปแล้ว เพราะตอนนั้นตนรู้สึกเสียใจเพราะพ่อตนอยู่ในเหตุการณ์นั้น ถ้าเกิดตอนนั้นพ่อตนโดนยิงด้วย คนที่จะต้องดูแลครอบครัวต่อต้องเป็นแม่ตนและตน เพราะเขาไม่ได้มารับผิดชอบ และอยากถามว่าเขามาขอโทษทางฝั่งผู้เสียหายหรือยัง

 

\"\"

ต่อมา เมื่อช่วงเย็น ที่ผ่านมา กัน จอมพลัง ได้เดินทางไปกับ นายปลั๊ก ลูกชาย และครอบครัวของผู้เสีย เพื่อไปรับร่างผู้เสียชีวิตทั้งสองราย นำกลับมาตั้งสวดพระอภิธรรม ที่ วัดมหาวงษ์ ตำบลสำโรงกลาง อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ โดยจะตั้งสวดพระอภิธรรม ตั้งแต่วันที่ 5-7 พฤษภาคม ในเวลา 18.30 น. และจะทำการฌาปนกิจ ใน วันที่ 8 พฤษภาคม เวลา 17.00 น.