หนุ่มศรีสะเกษ เมา นั่งวินมอไซค์มาจากอนุสาวรีย์ แต่ไม่มีเงินจ่ายและแบตโทรศัพท์ก็หมด ถูกตีหัวแตก

หนุ่มศรีสะเกษ วัย 41 ปี ดื่มเหล้ามาจากที่ทำงาน จะกลับบ้านที่จังหวัดศรีสะเกษ แต่เงินไม่พอ เลยจะไปยืมเงินญาติ จึงนั่งรถมาลงที่อนุสาวรีย์ แต่เงินเหลือ 18 บาท จึงนั่งวินรถจักรยานยนต์รับจ้างจากอนุสาวรีย์ มาที่ซอยเทศบาลบางปู 61 ( เจริญสุข หรือ วังปลา ) ตำบลบางปูใหม่ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ พอมาถึงจึงให้วินรอเพื่อจะเดินหาญาติให้นำเงินมาจ่ายให้ แต่ด้วยความที่ไม่ได้มานานเลยจำไม่ได้ว่าญาติพักอยู่ตรงไหน จึงเดินหาอยู่นาน และขณะนั้นแบตโทรศัพท์ก็หมดด้วย จึงทำให้เกิดการโต้เถียงกันกับคนขี่วิน ก่อนที่จะถูกคนขี่วินใช้ไม้ตีหัวแตก ชาวบ้านแถวนั้นจึงเข้ามาห้าม จนคนขี่วินขี่รถออกไป

เมื่อเวลา 01.45 น. วันที่ 1 พฤษภาคม 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางปู ได้รับแจ้งมีผู้ถูกทำร้ายได้รับบาดเจ็บ บริเวณท้าย ซอยเทศบาลบางปู 61 ( เจริญสุข หรือ วังปลา ) ตำบลบางปูใหม่ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงประสาน เจ้าหน้าที่สายตรวจ พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู เดินทางตรวจสอบที่เกิดเหตุ

ที่บริเวณท้ายซอยดังกล่าว พบ นาย ฉลองพล เนตรสืบสาย อายุ 41 ปี ชาวศรีสะเกษ นั่งอยู่บนเก้าอี้อยู่ในอาการมึนเมาสุรา มีแผลแตกที่ศีรษะ เจ้าหน้าที่ให้การช่วยเหลือปฐมพยาบาลเบื้องต้นก่อนนำส่งโรงพยาบาลสมุทรปราการ ใกล้กันพบกระเป๋ากับกระสอบเสื้อผ้า และโทรศัพท์ของผู้ได้รับบาดเจ็บสภาพจอแตกแบตหมด ชาวบ้านจึงนำสายมาชาร์ตให้แบตให้ เพื่อโทรแจ้งญาติที่อยู่ภายในซอยดังกล่าวมาที่เกิดเหตุ  ก่อนจะมอบทรัพย์สินของคนเจ็บให้กับทางญาติไปดูแล ส่วนผู้ก่อเหตุทราบว่าเป็นคนขี่วินรถจักรยานยนต์รับจ้างแถวอนุสาวรีย์ อายุประมาณ 40 ปี ซึ่งคนเจ็บนั่งมาลงตรงที่เกิดเหตุ ค่าโดยสารประมาณ 500 บาท แต่คนเจ็บไม่มีเงินจ่าย จึงเกิดการโต้เถียงก่อนที่คนขี่วินจะใช้ไม้ไผ่ที่อยู่แถวนั้นตีเข้าที่ศีรษะคนเจ็บ ก่อนจะขี่รถจักรยานยนต์ออกไป

จากการสอบถาม นายฉลองพล (คนเจ็บ) เล่าว่า ตนทำงานอยู่สมุทรสาคร อยากจะกลับบ้านที่ศรีสะเกษ แต่เงินไม่ค่อยมีจึงจะมาขอเงินจากญาติที่อยู่ภายในซอยดังกล่าว จึงนั่งรถจากที่ทำงานมาลงที่อนุสาวรีย์ ก่อนมาก็ได้ดื่มเหล้ามานิดหน่อย ตนพยายามโบกรถแท็กซี่ อยู่หลายคันแต่เขาไม่รับ ตนจึงนั่งวินรถจักรยานยนต์มาจากอนุสาวรีย์ จนมาถึงซอยดังกล่าวแต่ตนจำไม่ได้ว่าบ้านญาติหลังไหนเนื่องจากไม่ได้มานานแล้ว และแบตโทรศัพท์ก็หมดด้วย พอมาถึงท้ายซอย ตนจึงให้วินเขารอ โดยที่ตนก็พยายามเดินหาญาติโดยวินก็เดินตามเข้าไปด้วย แต่ก็ยังหาญาติไม่เจอ วินเขาก็โกรธที่ตนไม่ยอมจ่ายเงินเขา แต่ตนมีเงินติดตัวเหลืออยู่ 18 บาท ก็กะจะมาให้ญาติจ่ายให้แทน แต่มาก็ไม่เจอญาติเลย วินเขาก็เลยตีหัวตนจนได้รับบาดเจ็บ

นายปกรณ์ บัวดิษ อายุ 21 ปี ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ตนเห็นเขานั่งวินเข้ามาในซอยวังปลา เขาบอกจะมาหาญาติชื่อ ผึ้ง  ในซอยนี้ แล้วเขาบอกให้วินรอ เพราะเขาไม่มีเงินจ่าย วินรอสักพักจึงเกิดการทะเลาะกัน วินใช้ไม้ตี ตนไม่เคยเห็นทั้งวินและคนเจ็บ มาก่อน แต่ในซอยมีคนชื่อผึ้ง ตอนนี้ติดต่อญาติเขาได้แล้ว วินเป็นคนบอกกับตนว่าเขานั่งมาจากอนุสาวรีย์

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ ได้ตรวจสอบที่เกิดเหตุ ถ่ายภาพ พร้อมแนะนำผู้ได้รับบาดเจ็บหากประสงค์จะแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุ ให้เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนที่โรงพัก หลังจากได้รับการรักษาและสร่างเมาแล้ว เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป