May 2025

ตามหา “เจ๊แก้ว”เจ้าของแผงทุเรียนตลาดดังสุราษฎร์ หายตัวปริศนาพร้อมทองคำใส่ติดตัว 20 บาท

สุราษฎร์ธานี-เจ้าหน้าที่เร่งตามหา “เจ๊แก้ว” เจ้าของแผงทุเรียน หายตัวพร้อมทองคำใส่ติดตัว 20 บาทเงินสด 1 แสน  ตลอดเส้นทางไม่มีวงจรปิด ส่วนกล้องเทศบาลกำลังปรับปรุงเอาสายไฟฟ้าลงดินและถอนเสาไฟฟ้าออกจากพื้นที่ จึงถอดระบบกล้องออกทั้งหมด พบมือถือ 2 เครื่องแบ็ตหมดอยู่ที่แผง สามีคาดหายตัวระหว่าง ขับ จยย.ไปหาของกินระหว่างรอรถมาส่งทุเรียน จากกรณีที่ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสุราษฎร์ธานีได้รับแจ้งจากนายพงศ์พันธ์ (พงศ์) แซ่ตั้น อายุ 44  ปี สามี นางสุจิตรา (เจ๊แก้ว) กุลจันทร์ อายุ 43 ปี  เจ้าของแผงทุเรียนรายใหญ่ในตลาดโพธิ์หวาย เขตเทศบาลนครสุราษฎร์ธานี ว่า ได้หายตัวไปขณะขับรถจักรยานยนต์ออกจากแผงในตลาดโพธิ์หวาย เมื่อเวลาประมาณ 19.40 น.ของวันเสาร์ที่ 17 พ.ค.ที่ผ่านมา  ทางครอบครัวไม่สามารถติดต่อได้จนถึงปัจจุบัน ล่าสุดเช้าวันนี้ (19 พ.ค.68) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่แผงขายส่งทุเรียนในตลาดโพธิ์หวาย พบกับ นายพงศ์พันธ์ (พงศ์) แซ่ตั้น สามีเจ๊แก้ว โดยนายพงศ์ บอกว่า ขณะเกิดเหตุตนเดินทางไปซื้อทุเรียนที่จังหวัดจันทบุรี แต่ก็ติดต่อกับภรรยาตลอด […]

ตามหา “เจ๊แก้ว”เจ้าของแผงทุเรียนตลาดดังสุราษฎร์ หายตัวปริศนาพร้อมทองคำใส่ติดตัว 20 บาท Read More »

มัวหมกมุ่นดูมือถือ หนุ่มญี่ปุ่นป่วย “โรคหัวตก”

           “โรคหัวตก” – Dropped Head Syndrome – DHS อาการป่วย “คอพับ” เกิดแก่หนุ่มญี่ปุ่น วัยแค่ 25 ปี เหตุเพราะใช้เวลาก้มดูใช้โทรศัพท์มือถืออย่างต่อเนื่องยาวนาน ถือเป็น “โรคหายาก” แพทย์ต้องใช้การผ่าตัดจัดกระดูกลำคอใหม่ จนกลับคืนสภาพปกติ เตือนอันตรายอาจเกิดขึ้นได้กับทุกคน โดยเฉพาะกลุ่มเยาวชนหมกมุ่นก้มดูโทรศัพท์เป็นเวลานาน            กรณีหนุ่มญี่ปุ่นป่วยโรคหัวตก ถูกบันทึกลงรายงานวารสารการแพทย์ JOS Case Reports ระบุ ผู้ป่วยรายนี้เกิดอาการ “คอพับ” เพราะใช้เวลาเล่นดูโทรศัพท์มือถือแต่ละวันยาวนาน จนอาการป่วยกำเริบพัฒนาทำลายส่วนกล้ามเนื้อลำคอด้านหลัง เกิดพังผืด ทำให้กล้ามเนื้อคออ่อนแรงจนยกศีรษะไม่ขึ้น            อาการป่วยเริ่มจากปวดคออย่างรุนแรง กลืนอาหารยาก ทำให้น้ำหนักตัวลดลง สุดท้ายอาการป่วยหัวห้อยก็เกิดขึ้นตลอด เพราะกล้ามเนื้อพยุงลำคอ ไม่มีแรงยกศีรษะตั้งตรง    

มัวหมกมุ่นดูมือถือ หนุ่มญี่ปุ่นป่วย “โรคหัวตก” Read More »

เที่ยวพะเยาครึกครื้น \”งานลิ้นจี่ GI พะเยา\” คึกคัก สุขทันที..ที่ชิมลิ้นจี่ GI พะเยา

เที่ยวพะเยาครึกครื้น \”งานลิ้นจี่ GI พะเยา\” คึกคัก สุขทันที..ที่ชิมลิ้นจี่ GI พะเยา พะเยา – พิธีเปิดงาน “เทศกาลลิ้นจี่อำเภอแม่ใจ” ​และ “มหกรรมอาหาร ประจำปี 2568”  โดยมีนายรัฐพล  นราดิศร ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา เป็นประธานเปิดงานฯ จัดโดยอำเภอแม่ใจ และ อตก.พะเยา ได้รับการสนับสนุนจากมูลนิธิธรรมนัส พรหมเผ่าเพื่อการกุศลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เมื่อวันที่ 17 พ.ค. 2568 ที่ผานมา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานจังหวัดเชียงราย โดยศูนย์ประสานงานจังหวัดพะเยา ได้เข้าและรายงานว่าในปีนี้จัดขึ้นยิ่งใหญ่กว่าทุกปี 10 วัน 10 คืน ตั้งแต่วันที่ 16 – 25 พฤษภาคม 2568 ณ ตลาดสดบีบี อำเภอแม่ใจ จ.พะเยา โดยมีนายรัฐพล  นราดิศร ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา เป็นประธานเปิดงานฯ   ผลิตภัณฑ์

เที่ยวพะเยาครึกครื้น \”งานลิ้นจี่ GI พะเยา\” คึกคัก สุขทันที..ที่ชิมลิ้นจี่ GI พะเยา Read More »

\”ทีเส็บ\”เปิดแคมเปญ ยกทีมประชุมรุมรักเมืองไทยซีซั่น 2 กระตุ้นตลาดไมซ์ในประเทศ

ทีเส็บเปิดแคมเปญ ยกทีมประชุม รุมรักเมืองไทย ซีซั่น 2         กรุงเทพฯ –  ทีเส็บ ตอกย้ำความสำเร็จแคมเปญการตลาดสุดสร้างสรรค์ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 เปิดตัวแคมเปญ “ยกทีมประชุม รุมรักเมืองไทย ซีซั่น 2” ภายใต้ธีม “ชวนชาวออฟฟิศ ยกทีมนอกกรอบ ไปรอบเมืองไทย” มุ่งกระตุ้นตลาดไมซ์ในประเทศให้แข็งแกร่ง และเชื่อมโยงการจัดกิจกรรมองค์กรไปสู่การพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืน โดยได้รับความร่วมมือจาก16 องค์กรพันธมิตรชั้นนำ เมื่อวันที่ 16 พ.ค. 2568 ที่ผ่านมา นางนิชาภา ยศวีร์ รองผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บ เปิดเผยว่า แคมเปญ “ยกทีมประชุม รุมรักเมืองไทย ซีซั่น 2” เป็นแคมเปญการตลาดกระตุ้นไมซ์ในประเทศ ที่สอดรับกลยุทธ์ 3S ของทีเส็บในปี 2568 ได้แก่ Stay Longer – Spend

\”ทีเส็บ\”เปิดแคมเปญ ยกทีมประชุมรุมรักเมืองไทยซีซั่น 2 กระตุ้นตลาดไมซ์ในประเทศ Read More »

นครพนม จัดกิจกรรมสร้างความเชื่อมั่นด้านการท่องเที่ยว พร้อมแนะนำแอปพลิเคชัน TPB App แก่นักท่องเที่ยว

วันที่ 19 พ.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 18 พฤษภาคม 2568 เวลา 18.00 น. พันตำรวจโทสุวิทย์ บุญยะเพ็ญ สารวัตรสถานีตำรวจท่องเที่ยว 4 กองกำกับการ 1 กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว 2 พร้อมด้วยสายตรวจประจำวัน ร่วมกับอาจารย์ปิยะพงษ์ นาไชย ประธานกลุ่มอาสาสมัครตำรวจท่องเที่ยว และคณะอาสาสมัครฯ ได้ร่วมกันจัดกิจกรรมประชาสัมพันธ์ส่งเสริมการท่องเที่ยว ณ บริเวณศาลาสมาคมชาวเวียดนาม หอนาฬิกา ถนนคนเดินนครพนม กิจกรรมในครั้งนี้มุ่งเน้นการสร้างความมั่นใจด้านความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยว โดยได้มีการประชาสัมพันธ์ข้อมูลแหล่งท่องเที่ยวในพื้นที่นครพนม พร้อมทั้งแนะนำการใช้งานแอปพลิเคชัน TPB App ซึ่งเป็นช่องทางสำคัญในการรับข้อมูล แจ้งเหตุ และประสานงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวได้อย่างสะดวกและปลอดภัย ภายในงานยังมีการจัดกิจกรรมสันทนาการเพื่อสร้างบรรยากาศที่เป็นมิตรและอบอุ่น โดยมีการแสดงกีตาร์และขับร้องเพลงโดย พ.ต.ท.สุวิทย์ บุญยะเพ็ญ ร่วมกับคณะอาสาสมัครตำรวจท่องเที่ยว ซึ่งได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวและประชาชนทั่วไปที่ร่วมเดินเที่ยวในถนนคนเดินเป็นอย่างมาก กิจกรรมดังกล่าวนับเป็นส่วนหนึ่งของความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคประชาชนในการขับเคลื่อนนครพนมให้เป็นเมืองท่องเที่ยวที่ปลอดภัยและยั่งยืน ตอกย้ำภาพลักษณ์ของนครพนมในฐานะเมืองแห่งวัฒนธรรมและการต้อนรับอย่างอบอุ่น

นครพนม จัดกิจกรรมสร้างความเชื่อมั่นด้านการท่องเที่ยว พร้อมแนะนำแอปพลิเคชัน TPB App แก่นักท่องเที่ยว Read More »

นครพนมคึกคัก เข้าสู่ฤดูฝน ชาวประมงโกยทรัพย์ ปลาแม่น้ำโขงล้นตลาด

วันที่​ 19 พ.ค.68 ที่จังหวัดนครพนม  บรรยากาศสุดคึกคักรับต้นฤดูฝน! ตลาดสดเทศบาลเมืองนครพนมเนืองแน่นไปด้วยชาวประมงที่นำปลาสดๆ หลากชนิดจากแม่น้ำโขงและแม่น้ำสงครามมาวางจำหน่ายกันอย่างไม่ขาดสาย สร้างความครึกครื้นและเม็ดเงินหมุนเวียนในพื้นที่วันละหลายหมื่นบาท ตั้งแต่เช้าตรู่ พ่อค้าแม่ค้าและประชาชนต่างทยอยเดินทางมายังตลาดสดเทศบาลเมืองนครพนม เพื่อจับจ่ายซื้อหาปลาสดใหม่นานาชนิด ไม่ว่าจะเป็นปลากดคัง ปลาโจก​ ปลาค้าวเนื้อหวาน ปลานาง ปลากด​ ปลาปาก ปลากา ปลายอนน่าลิ้มลอง และอีกหลากหลายสายพันธุ์ที่แหวกว่ายในลำน้ำโขงและสงครามในช่วงฤดูน้ำหลากนี้ \”ช่วงนี้ปลามันหลาย อีพ่ออีแม่จับมาขายกันม่วน\” แม่ค้าขายปลาสดรายหนึ่งกล่าวด้วยรอยยิ้ม พร้อมกับชี้ไปยังปลาเนื้ออ่อนตัวสวยที่วางเรียงรายอยู่บนแผง \”ปลาเนื้ออ่อนนี่ขายดีคัก หลายคนมาถามหา ราคาก็ดี กิโลละสามร้อยห้าสิบถึงห้าร้อยบาทเลนทีเดียว ไม่เพียงแต่ชาวนครพนมเท่านั้นที่ตื่นเต้นกับความอุดมสมบูรณ์ของแม่น้ำโขงในช่วงนี้ บรรดาพ่อค้าแม่ค้าจากจังหวัดอื่นๆ ในภาคอีสานก็เดินทางมารับซื้อปลาสดๆ จำนวนมาก เพื่อนำไปจำหน่ายต่อในตลาดต่างๆ ทั่วภูมิภาค ทำให้บรรยากาศการซื้อขายเป็นไปอย่างคึกคักและมีชีวิตชีวา ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ปริมาณน้ำในแม่น้ำโขงและแม่น้ำสงครามที่เพิ่มสูงขึ้นจากการไหลบ่าของน้ำฝนจากจังหวัดสกลนคร ไม่เพียงแต่ส่งผลดีต่อการทำนาปีของเกษตรกรเท่านั้น แต่ยังเป็นสัญญาณแห่งความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรสัตว์น้ำ ทำให้ชาวประมงในพื้นที่สามารถจับปลาได้ง่ายขึ้นและมีรายได้เพิ่มขึ้นเฉลี่ยวันละ 1,000-2,000 บาท \”ดีใจหลายที่หน้าฝนปีนี้มีปลาให้จับเยอะแยะ\” ลุงสมชาย ชาวประมงริมฝั่งแม่น้ำโขงกล่าวด้วยน้ำเสียงสดใส \”เมื่อก่อนต้องออกเรือหาปลานานกว่าจะได้ปลาพอกินพอขาย แต่ช่วงนี้แค่ลงข่ายดักไว้ ไม่ทันข้ามคืนก็ได้ปลาเยอะแล้ว\” ปรากฏการณ์ปลาแม่น้ำโขงล้นตลาดในช่วงต้นฤดูฝนนี้ ไม่เพียงแต่สร้างรายได้ให้กับชาวประมงและพ่อค้าแม่ค้าเท่านั้น แต่ยังเป็นการตอกย้ำถึงความอุดมสมบูรณ์ของแหล่งน้ำธรรมชาติที่หล่อเลี้ยงชีวิตผู้คนในแถบลุ่มน้ำโขง และเป็นภาพสะท้อนถึงวิถีชีวิตที่ผูกพันกับสายน้ำอันเป็นเอกลักษณ์ของชาวนครพนมอย่างแท้จริง  

นครพนมคึกคัก เข้าสู่ฤดูฝน ชาวประมงโกยทรัพย์ ปลาแม่น้ำโขงล้นตลาด Read More »

ชาวนาหนีข้าวถูกหันมาปลูกดาวเรืองส่งขาย กลับได้แค่ดอกละ 10 สตางค์​

ชาวนาหนีข้าวถูกหันมาปลูกดาวเรืองส่งขาย กลับได้แค่ดอกละ 10 สตางค์​ หวังได้เงินใช้หนี้ แต่กลับได้หนี้เพิ่มมาอีกก้อน วอนรัฐ​ช่วยดูแลราคาสินค้าเกษตรทุกวันนี้ต่ำลงทุกอย่าง        เวลา 08.00 น. วันที่ 19 พฤษภาคม25.68 ที่ จังหวัด​อุทัยธานี​ ผู้​สื่อข่าว​ได้รับทราบความเดือดร้อน​ของเกษตร รายหนึ่งในพื้นที่ หมู่ 1 บ้านหนองขุนทอง ตำบล​หนองนางนวล อำเภอ​หนองฉาง​ จ.อุทัยธานีได้เปิดเผยเรื่องราวสุดเศร้าใจของคนทำอาชีพเกษตรกร หลังหนีราคาข้าวที่ตกต่ำทำแล้วไม่คุ้มทุน หันมาปลูกดอกดาวเรืองส่งขาย หวังมีเงินใช้ลืมตาอ้าปาก​ แต่สุดท้ายไม่เป็นอย่างหวัง หลังราคาดาวเรืองรับซื้อต่ำสุดเพียงดอกละ 10 สตางค์​เท่านั้น รวมแล้ว 100 ดอก จะได้เงินแค่ 10 บาทเท่านั้น ทำให้ขาดทุนหนักซ้ำเติม​ ตัดสินใจยอมแพ้ไม่ขอสู้ทำต่อ ปล่อยดาวเรืองที่เหลือทิ้งยกสวน โดย นางสำเริง อินทนู อายุ 50 ปี เล่าว่า ก่อนหน้านี้ตนเองนั้นประกอบอาชีพทำนา แต่ด้วยราคาข้าวที่ถูกลงมากทำให้ไม่คุ้มทุน เลยตัดสินใจลองเปลี่ยนมาปลูกดอกดาวเรืองส่งขาย เพราะเห็นว่ามีเกษตรกรในหมู่บ้านหลายรายที่ปลูกแล้วได้เงินดี แต่สุดท้ายราคาดอกดาวเรืองกลับถูกยิ่งกว่าข้าว โดยตนเองได้ในเนื้อที่ 1 ไร่

ชาวนาหนีข้าวถูกหันมาปลูกดาวเรืองส่งขาย กลับได้แค่ดอกละ 10 สตางค์​ Read More »

นครสวรรค์สุดโหด\”ฆ่ายัดถัง\”ทิ้งอ่างเก็บน้ำ

  สุดโหด ฆาตกรรมยัดถัง 200 ลิตรทิ้งอ่างเก็บน้ำห้วยใหญ่ อ.ไพศาลี จ.นครสวรรค์ พบร่างชายไทย วัย 50 ปี ถูกยิงหน้าอก ไม่พบเอกสารชี้ตัวบุคคล ตำรวจเร่งแกะรอยล่าคนร้าย   นครสวรรค์-เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 18 พ.ค. 68 ร.ต.อ.เจริญ สำคัญ ร้อยเวร สภ.ตะคร้อ อ.ไพศาลี จ.นครสวรรค์ ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่ามีถังน้ำ 200 ลิตร ลอยขึ้นมาที่อ่างเก็บน้ำห้วยใหญ่ หมู่ 7 ตำบลตะคร้อ อำเภอไพศาลี จังหวัดนครสวรรค์ จึงรายงานผู้บังคับบัญชาพร้อมเดินทางเข้าพื้นที่กับมูลนิธิกู้ภัยร่วมใจเข้าตรวจสอบ  เมื่อไปถึงได้นำถังสีฟ้าที่ส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้งขึ้นจากอ่างเก็บน้ำเพื่อตรวจสอบ เมื่อเปิดถังออกมาถึงกับผงะ พบร่างชายไทย อายุประมาณ 50 ปี ใส่เสื้อสีเขียว กางเกงสีดำอยู่ในถุงปุ๋ย จากการเปิดเผยของนายมนู  พิมพา เจ้าหน้าที่มูลนิธิกู้ภัยร่มไทร สาขานครสวรรค์ เปิดเผยว่าจากการตรวจสอบร่างกาย พบมีบาดแผลลักษณะคล้ายถูกอาวุธปืนยิงที่บริเวณหน้าอกด้านซ้าย  มีบาดแผลฉีกขาดบริเวณศีรษะ และมีรอยสักพระรามแผลงศรที่กลางหลัง  ไม่พบเอกสารชี้ตัวบุคคล

นครสวรรค์สุดโหด\”ฆ่ายัดถัง\”ทิ้งอ่างเก็บน้ำ Read More »

กาญจนบุรี ทนายรณรงค์พร้อมพ่อดีเจเตเต้ เข้าขอบคุณตำรวจเร่งติดตามคดี แจ้งข้อหาเพิ่มฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองและปิดบังอำพราง

จากเหตุการณ์เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้พบร่างของดีเจเตเต้ที่บนเขาในพื้นที่บ้านนานางหรอก หมู่ 3 ตำบลลาดหญ้า อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี ตามที่ได้นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น กระทั่งเมื่อเวลา 20.00 น. วันเดียวกันทางทนายรณรงค์ แก้วเพชร พร้อมด้วยพ่อและญาติของดีเจเตเต้ เดินทางเข้าขอบคุณเจ้าหน้าที่สถานีตำรวจภูธรเมืองกาญจนบุรี ที่ดำเนินการอย่างรวดเร็ว และได้แจ้งความเพิ่มเติมในข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และปิดบังซ่อนเร้นอำพรางสาเหตุการตาย ด้านพ่อของดีเจเตเต้ เปิดใจว่า มาที่นี่เพื่อตามหาลูกชายที่ถูกอุ้มหายไป และต้องการหลักฐานยืนยันว่าลูกยังมีชีวิตหรือไม่ ซึ่งวันนี้ได้เห็นร่างลูกชายเป็นครั้งสุดท้าย และขอขอบคุณตำรวจที่ใช้เวลาเพียง 5-6 วันในการติดตามจนทราบความจริง ขั้นตอนต่อไป จะดำเนินการชันสูตรศพ และนำศพไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่บ้านหนองกระทุ่ม ก่อนจะส่งลูกชายไปสู่ภพภูมิที่ดีต่อไป.

กาญจนบุรี ทนายรณรงค์พร้อมพ่อดีเจเตเต้ เข้าขอบคุณตำรวจเร่งติดตามคดี แจ้งข้อหาเพิ่มฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองและปิดบังอำพราง Read More »

เหมืองหินเก่าถ้ำทองหลาง “สวิตเซอร์แลนด์เมืองไทย”มนต์เสน่ห์แห่งธรรมชาติกลางขุนเขา

พังงา-เหมืองหินเก่าถ้ำทองหลาง “สวิตเซอร์แลนด์เมืองไทย”มนต์เสน่ห์แห่งธรรมชาติกลางขุนเขา ท่ามกลางขุนเขาเขียวขจีของอำเภอทับปุด จังหวัดพังงา ซ่อนตัวอยู่ของสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ที่กำลังถูกพูดถึงกันอย่างกว้างขวาง  “เหมืองหินเก่าถ้ำทองหลาง” หรือที่ใครหลายคนยกให้เป็น “สวิตเซอร์แลนด์เมืองไทย” ด้วยทิวทัศน์สุดตระการตาและความงดงามที่ธรรมชาติรังสรรค์ขึ้นอย่างน่าอัศจรรย์ ในอดีตพื้นที่แห่งนี้เคยเป็นเหมืองหินมาก่อน แต่เมื่อหมดอายุสัมปทานการทำเหมืองยุติลง ธรรมชาติก็ค่อยๆ ฟื้นฟูตนเอง กลายเป็นทะเลสาบขนาดใหญ่ที่มีน้ำใสสีฟ้าอมเขียวล้อมรอบด้านหนึ่งด้วยภูเขาหินปูนสูงตระหง่าน และอีกด้านเป็นป่าสนที่ปลูกเรียงรายเป็นแนวยาวอย่างมีระเบียบ สร้างบรรยากาศราวกับอยู่ต่างประเทศ โดยเฉพะเมื่อแสงแดดยามเช้าสะท้อนผ่านผิวน้ำ เกิดเป็นประกายระยิบระยับ ตัดกับฉากหลังของภูเขาเขียวและหมอกบางๆ ยิ่งเสริมให้ที่นี่มีเสน่ห์ดึงดูดใจนักท่องเที่ยวที่หลงใหลในธรรมชาติ การถ่ายภาพ และการผจญภัย ทำให้แต่ละวันโดยเฉพาะช่วงวันหยุดจะมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ แวะเวียนมาเที่ยวชมถ่ายรูปเช็กอินกันเป็นจำนวนมาก แม้สถานที่แห่งนี้ยังไม่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมอย่างเป็นทางการ และอยู่ระหว่างการพัฒนาเพื่อเป็น “ป่านันทนาการ” ที่จะสร้างรายได้ให้แก่ชุมชนในอนาคต แต่ก็มีผู้คนจำนวนมากเริ่มแวะเวียนมาถ่ายรูปและสัมผัสบรรยากาศ สำหรับใครที่กำลังมองหาจุดหมายใหม่ๆ ที่สงบ งดงาม และยังคงความเป็นธรรมชาติแท้ๆ ไม่ควรพลาดที่จะจับตาดู “เหมืองหินเก่าถ้ำทองหลาง” ไว้ในลิสต์ เพราะที่นี่อาจกลายเป็นเพชรเม็ดงามแห่งใหม่ของการท่องเที่ยวไทยในเร็วๆ นี้

เหมืองหินเก่าถ้ำทองหลาง “สวิตเซอร์แลนด์เมืองไทย”มนต์เสน่ห์แห่งธรรมชาติกลางขุนเขา Read More »