January 2025

สมุทรสาคร – สองคู่รักสาวชาวมหาชัย จดทะเบียนสมรสเท่าเทียมรายแรกของอำเภอเมืองฯ ผู้ว่าฯ-นายอำเภอ ร่วมยินดี เผยครองรักกันมา 30 ปี เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 23 ม.ค. 2568 สำนักทะเบียนอำเภอเมืองสมุทรสาคร ได้จัดกิจกรรม DOPA – Day One “ตีฆ้องชัย ให้ทุกความรัก 878 อำเภอทั่วไทย” ณ ที่ว่าการอำเภอเมืองสมุทรสาคร หลังจากที่ พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ 24) พ.ศ. 2567 หรือ “กฎหมายสมรสเท่าเทียม” ผ่านการเห็นชอบและประกาศในราชกิจจานุเบกษา โดยเริ่มมีผลใช้บังคับในวันนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญที่สะท้อนถึงความเท่าเทียมและการยอมรับความหลากหลายในสังคมไทย โดยมีการประดับประดาสถานที่ด้วยธงสีรุ้ง หรือธงไพรด์ อันเป็นสัญลักษณ์ตัวแทนของกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศ หรือ LGBTQI+ พร้อมจุดถ่ายรูปบริเวณด้านหน้าที่ว่าการอำเภอฯ เพื่อต้อนรับคู่รักที่จะเข้ามาจดทะเบียนสมรสเท่าเทียมในวันแรก สำหรับคู่รักรายแรกที่ได้จดทะเบียนสมรสเท่าเทียมของอำเภอเมืองสมุทรสาคร คือ น.ส.ชุติมา สงวน หรือแป้ง อายุ 44 ปี อาชีพทนายความ

พระนครศรีอยุธยา-ได้เวลาป้าวัย 75 ปีประกาศสมรสเท่าเทียมคู่ชีวิตวัย 45 ปี หลังใช้ชีวิตร่วมกันมานาน ผู้ว่าฯร่วมยินดีทุกคู่รัก ได้เวลาประกาศให้โลกรู้ไปเลยว่าเรารักกัน ไม่ว่าจะมีเพศสภาพอย่างไร ล้วนมีความรักที่บริสุทธิ์ ไม่มีอะไรมากีดกั้นอีกแล้ว ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา หลายอำเภอต่างจัดกิจกรรมเชิญชวน และร่วมยินดีกับทุกคู่รักที่มาจดทะเบียนสมรสเท่าเทียม ห้างสรรพสินค้าชื่อดังก็จัดกิจกรรมสมรสเท่าเทียม  มีคู่รักส่วนใหญ่เป็นชายกับชาย มาขอจดทะเบียนตั้งแต่เช้าหลายคู่ และหลายคู่ก็ไม่อยากที่จะให้สัมภาษณ์ ขอเป็นเรื่องส่วนตัว ที่อำเภอนครหลวง นายธนเดช นาภีร์ กับ นายเกียรติศักดิ์ เศรษฐมาตย์ อาชีพค้าขายอยู่กินด้วยกันมานานก็ว่า 10 ปี บอกว่ารอวันนี้มานานแล้ว ดีใจมากที่ได้จดทะเบียนสมรสเท่าเทียม จะตั้งใจทำมาหากินสร้างเนื้อสร้างตัว ที่อำเภอมหาราช นายตรีชญา  เรืองฉาย ควงแขนมากับนายชัยเดช   เหล่ารอด อาชีพ ร้านบีเบิร์ดเวดดิ้งเมคอัพ และพนักงานส่งของบริษัท คบกัน 8ปี 4เดือน ดีใจได้สมรสกันเสียที ที่อำเภอพระนครศรีอยุธยา นายอำเภอหญิงอมรรัตน์ กรึงไกร ก็ร่วมแสดงความยินดีกับผู้ที่มาจดทะเบียนสมรสเท่าเทียม โดยเฉพาะที่ทำให้หลายคนยิ้มและร่วมยินดีมากคือคุณป้าวัย 75 ปี กับสาวใหญ่วัย 45 ปี ซึ่งบอกเพียงว่าคบหาและรักกันมานาน ไม่ค่อยได้บอกกับใคร

คู่รัก LGBTQIAN+ นั่งรถไฟขบวน Royal Blossom มาจดทะเบียนสมรสเท่าเทียมที่หัวหิน พร้อมจัดขบวนขันหมากต้อนรับ 23 คู่รักอย่างอบอุ่น และโรแมนติก วันนี้(วันที่ 23 มกราคม 2568) ที่สถานีรถไฟหัวหิน (อาคารใหม่) จ.ประจวบฯ บรรดาคู่รักรวม 6 คู่ นั่งรถไฟขบวน Royal Blossom ออกจากสถานีหัวลำโพง มาที่สถานีรถไฟหัวหิน เพื่อจดทะเบียนสมรสเท่าเทียมครั้งแรกในประเทศไทย ร่วมกับคู่รักอีก 17 คู่ รวมทั้งหมด 23 คู่ ในงาน “Hua Hin Grand Inter Pride 2025” เฉลิมฉลองการประกาศใช้กฎหมายสมรสเท่าเทียม มอบโอกาสให้คู่รัก LGBTQIAN+ จดทะเบียนสมรสพร้อมกัน 23 คู่ โดยมีการจัดขบวนกลองยาวต้อนรับอย่างคึกคัก เพื่อเดินทางมามาสมทบกับคู่รักอีก 17 คู่ ที่เดินทางมาล่วงหน้า เพื่อร่วมขบวนแห่ขันหมากมายังสถานที่จัดงาน  ณ หัวหิน คอนเวนชั่น เซ็นเตอร์

ราชบุรี   ในวันนี้( 23 ม.ค.68 ) นายพุทธพงษ์  สุริยะสิงห์ รองผู้ว่าราชการ จ.ราชบุรี เป็นประธานเปิดกิจกรรม Kick Off  การจดทะเบียนสมรสเท่าเทียม  ที่บริเวณหน้าที่ว่าการอำเภอโพธาราม   โดยมีนายศุภชัย ครุฑดำ นายอำเภอโพธาราม พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนให้การต้อนรับ การจัดงานนี้เพื่อสร้างความประทับใจแก่คู่รักที่มาร่วมงานในครั้งนี้ เริ่มจากการจัดขบวนแห่ขันหมากด้วยขบวนกลองยาว  หัวหมู  ต้นกล้วยและต้นอ้อย   แห่จากถนนเส้นหลังอำเภอ เข้ามายังที่ว่าการอำเภอ เพื่อมานำคู่รักที่ตั้งใจจะมาจดทะเบียนสมรสเท่าเทียม   ได้รับใบทะเบียนสมรส จากรองผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี และนายอำเภอโพธาราม ที่ร่วมเป็นสักขีพยาน ที่สำคัญในงานคู่รักทุกคู่จะได้ตุ๊กตาซึ่งเป็นของดีอำเภอโพธาราม เป็นตุ๊กตาหมูเด้งผ้าพันคอสีรุ้ง พร้อมมอบที่พักสุดโรแมนติกให้พักกัน 1 คืนด้วย นอกจากนั้นยังได้ลุ้นชิงทองคำอีก 1รางวัล ซึ่งคู่รักต่างรู้สึกยินดีที่มีกฎหมายฉบับนี้ เพราะอยู่กินด้วยกันแล้วก็อยากให้มีกฎหมายรับรองในสิทธิต่างๆที่ควรมีควรได้เหมือนๆกัน       จากการสอบถามน.ส.มนัญญารัตน์ ประดับแก้ว อายุ  59  ปี ควงแขน น.ส.ปีใหม่ จันทา  อายุ 55  ปี ชาวอำเภอโพธาราม  มาจดทะเบียนสมรส  ก็บอกว่ารู้สึกดีใจที่สังคมเปิดโอกาสให้  ตนคบกันมาตั้งแต่ปี 2530

ภูเก็ต เกิดเหตุช้างหลุดจากปางช้าง ชาวบ้านผวา แจ้งเจ้าหน้าที่ตร.และควาญเร่งตามไปควบคุมสถานการณ์ คาดตกใจเสียงแตรรถ สุดท้ายพากลับปางปลอดภัย วันที่ 23 ม.ค. 68 พ.ต.ต.กิตติพงศ์ หนูเพ็ง สว.(สอบสวน) สภ.เชิงทะเล จ.ภูเก็ต ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า มีช้างหลุดออกจากปางช้าง และได้เดินไปตามเส้นทาง ตั้งแต่ซอยเชิงทะเลซอย 3 ถึงโรงเรียนเชิงทะเลวิทยาคม ต.เชิงทะเล อ.ถลาง โดยมีขาเหล็กนั่งร้านสวมอยู่ที่คอ เป็นเหตุให้รถที่สัญจรอยู่ในทางได้รับความเสียหาย จึงได้รวบรวมข้อมูลของผู้รับผิดชอบส่งให้ พ.ต.อ.วีระพงศ์ รักขิโต ผกก.สภ.เชิงทะเล ทราบ ก่อนสั่งการเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสายตรวจเข้าตรวจสอบ เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย โดยให้ผู้เสียหายมาแจ้งความร้องทุกข์ ตรวจสอบในเบื้องต้นพบว่า มีกระจกรถยนต์ได้รับความเสียหายจำนวน 1 คัน ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิตแต่อย่างใด ในเวลาต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ประสานควาญช้างเข้าดำเนินการสามารถคุมตัวช้างเชือกดังกล่าวกลับปางช้างเป็นที่เรียบร้อย ต่อมา สภ.เชิงทะเลจังหวัดภูเก็ต เผยแพร่ภาพวิดีโอขณะตามหาช้าง 1 เชือกหลุดจากปางช้างเชิงทะเล ซอย 3 เดินมาตามทางออกเชิงทะเล ซอย 4 และได้เข้าไปภายในโรงเรียนเชิงทะเลวิทยาคม จากนั้นควาญช้าง และผู้ที่เกี่ยวข้องได้ประสานสัตวแพทย์ เพื่อดำเนินการยิงยาสลบ หรือดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง