จังหวัดน่านจับจริงห้ามเผาที่โล่งแจ้ง 2 ราย รายแรก ลุงวัย 63 เผาใบไม้หน้าบ้าน รายที่ 2 เผาใบสักในสวน
เมื่อวันที่ 31 มกราคม 2568 เวลา 10.20 น. ร.ต.อ.ดิเรก เขื่อนเพชร รอง สวป.สภ.เรือง อ.เมืองน่าน จ. น่าน พร้อมสายตรวจ สภ.เรือง ออกตรวจพื้นที่รับผิดชอบ พบนายนิรัญ ไชยพิมาณ ได้ทำการเผากิ่งไม้ใบไม้อยู่บริเวณข้างถนน เป็นเหตุทำให้เกิดฝุ่นควันในลักษณะที่อาจจะทำให้ไม่ปลอดภัยแก่การจราจร จึงเเสดงตัวเข้าจับกุมนายนิรัญฯ พร้อมแจ้งข้อกล่าวหา เผาหรือกระทำด้วยประการใด ๆ ภายในระยะ 500 เมตรจากทางเดินรถเป็นเหตุให้เกิดควันหรือสิ่งอื่นใด ในลักษณะที่อาจทำให้ไม่ปลอดภัยแก่การจราจรในทางเดินรถตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 ม.130,152 นายนิรัญฯ ได้รับสารภาพตลอดข้อกล่าวหาจึงนำตัวมาที่ สภ.เรือง พบ พงส.ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง ต่อไป
จากการที่ จังหวัดน่าน ประกาศมาตรการเข้มงวด ห้ามเผาทุกชนิดในที่โล่ง ตั้งแต่ 1 กุมภาพันธ์ – 30 เมษายน 2568 ยกเว้นกรณีได้รับอนุญาตล่วงหน้าในช่วง 1 กุมภาพันธ์ – 14 มีนาคม 2568 และ 1 – 31 พฤษภาคม 2568 โดยมาตรการนี้ครอบคลุมพื้นที่การเกษตร ป่า และที่โล่งทุกประเภท เพื่อป้องกันปัญหาหมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) ที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม ทั้งนี้ การเผาที่ได้รับอนุญาตต้องอยู่ภายใต้การควบคุมดูแลของเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด
ผู้ฝ่าฝืนอาจถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย โทษสูงสุดปรับ 2,000,000 บาท จำคุกไม่เกิน 20 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามพระราชบัญญัติป่าไม้และอุทยาน นอกจากนี้ จังหวัดได้สั่งการให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบและบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด
รายแรก เกิดขึ้นที่ อำเภอนาหมื่น โดยพ.ต.อ.นิรันดร์ ถูกแผน ผกก.สภ.นาหมื่น,พ.ต.ท.ธวัชชัย คำชื่น รอง ผกกป.สภ.นาหมื่น , พ.ต.ท.ภูริภัทย์ อินแสง สวป.สภ.นาหมื่น ร.ต.ท.พิพัฒน์ กองวัน รอง สว.(ป.)สภ.นาหมื่น ร้อยเวร 20 สายตรวจ พร้อม จนท.สายตรวจ สภ.นาหมื่น ได้จับกุมผู้ต้องหาเผาในที่โล่งเป็นรายแรกของปี เหตุเกิดบริเวณถนนสายรองในเขตบ้านทุ่ง ม.5 ต.นาทะนุง อ.นาหมื่น จ.น่าน โดยผู้ต้องหาเป็นชาย อายุ 63 ปี มีพฤติการณ์เผาเศษวัสดุในพื้นที่โล่งแจ้ง ส่งผลให้เกิดควันและมลพิษ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหาว่ากระทำการให้เกิดควันในลักษณะที่อาจเป็นอันตรายต่อประชาชนและการจราจร ตามมาตรา 130 และ 125 แห่งพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522
ทั้งนี้ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการเปรียบเทียบปรับเป็นเงิน 200 บาท พร้อมดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย