รองผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน นำคณะร่วมงานบุญช้างแขวงไซยะบุลี กระชับสัมพันธ์ไทย-ลาว
ไซยะบุลี, สปป.ลาว – วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2568 นายบรรจง ขุนเพชร รองผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน นำคณะประกอบด้วย นายประจักร์ ไชยะกิจ ปลัดจังหวัดน่าน ว่าที่ร้อยตรี ณฐพล นพณัฐธนากุล นายอำเภอเฉลิมพระเกียรติ นายจักรพงศ์ ชินบุตร ผู้แทน นายด่านศุลกากรทุ่งช้าง นายอาภรณ์ นิลศิริ ผู้แทนสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดน่าน นายคทายุทธ์ ชูพูล พร้อมทั้งคณะผู้บริหารและพนักงาน บริษัท ไฟฟ้าหงสา จำกัด นางสาวภัทรอัปสร เกิดคง เจ้าหน้าที่สำนักงานจังหวัดน่าน นายไชยรัตน์ รัตสิมวงศ์ นายประสิทธิ์ สองเมืองแก่น ผู้แทนภาคเอกชน เข้าร่วมงานบุญช้าง ณ แขวงไซยะบุลี สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 18-24 กุมภาพันธ์ 2025 โดยมีภาคเอกชน อาทิ บริษัทไฟฟ้าหงสา จำกัด เข้าร่วมงาน เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ไทย-ลาว และร่วมเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 50 ปี การก่อตั้ง สปป.ลาว
งานบุญช้าง หรือ เทศกาลช้าง เป็นงานประจำปีที่จัดขึ้นในแขวงไซยะบุลี เพื่อเฉลิมฉลองและอนุรักษ์ช้าง ซึ่งเป็นสัตว์ที่มีความสำคัญต่อวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของประเทศลาว ภายในงานมีการจัดกิจกรรมหลากหลาย อาทิ ขบวนพาเหรดช้าง การแสดงความสามารถของช้าง พิธีบายศรีสู่ขวัญช้าง และการแสดงทางวัฒนธรรมพื้นบ้านของลาว นอกจากนี้ยังมีการจัดเวทีเสวนาเกี่ยวกับการอนุรักษ์ช้าง และบทบาทของช้างในระบบนิเวศและเศรษฐกิจของชุมชน
นายบรรจง ขุนเพชร รองผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน กล่าวว่า \”การเข้าร่วมงานบุญช้างในครั้งนี้เป็นโอกาสอันดีในการกระชับความสัมพันธ์ระหว่างไทยและลาว อีกทั้งยังช่วยส่งเสริมการอนุรักษ์ช้างและวัฒนธรรมที่มีร่วมกันของสองประเทศ ความร่วมมือด้านวัฒนธรรมเช่นนี้ถือเป็นรากฐานสำคัญที่นำไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนของทั้งสองชาติ\”
ในปีนี้ มีช้างเข้าร่วมงานกว่า 50 เชือก ท่ามกลางนักท่องเที่ยวจากทั้งในและต่างประเทศที่เดินทางมาเยี่ยมชม นอกจากกิจกรรมเชิงวัฒนธรรมแล้ว ยังมีนิทรรศการให้ความรู้เกี่ยวกับการอนุรักษ์ช้างและสิ่งแวดล้อม รวมถึงการแสดงสินค้าพื้นเมืองที่สะท้อนถึงวิถีชีวิตของชุมชนลาว
การมีส่วนร่วมของบริษัทไฟฟ้าหงสา ซึ่งเป็นผู้ดำเนินโครงการด้านพลังงานในแขวงไซยะบุลี สะท้อนให้เห็นถึงบทบาทของภาคเอกชนในการสนับสนุนกิจกรรมทางวัฒนธรรมและสังคมของประเทศลาว ตลอดจนส่งเสริมความร่วมมือด้านพัฒนาอย่างยั่งยืนระหว่างสองประเทศ บริษัทไฟฟ้าหงสายังได้จัดกิจกรรมเพื่อชุมชน อาทิ การให้ความรู้เกี่ยวกับพลังงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และการส่งเสริมอาชีพให้แก่ชาวบ้านในพื้นที่
นอกจากนี้ ความร่วมมือระหว่างรัฐบาลไทยและลาวในการส่งเสริมวัฒนธรรมและการอนุรักษ์ช้างยังขยายไปถึงการพัฒนาด้านการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจากทั้งสองประเทศได้หารือแนวทางในการผลักดันการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ เพื่อให้ช้างสามารถดำรงชีวิตอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม และเป็นประโยชน์ต่อเศรษฐกิจของชุมชน
งานบุญช้าง 2025 ไม่เพียงเป็นเวทีสำคัญสำหรับการสืบสานขนบธรรมเนียมประเพณีของลาว แต่ยังเป็นอีกหนึ่งกลไกที่ช่วยเสริมสร้างมิตรภาพและความร่วมมือระหว่างไทยและลาวให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ความร่วมมือในลักษณะนี้ยังช่วยเสริมสร้างความเข้าใจอันดีระหว่างประชาชนทั้งสองประเทศ และส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาในหลากหลายมิติ ทั้งด้านวัฒนธรรม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อม