สิ่งแวดล้อม

สงขลา – ศาลจังหวัดสงขลา เลื่อนนัดฟังคำพิพากษา กรณีบุกรุกขุดดินโบราณสถาณเขาน้อยอายุ 1,400 ปี 1 สัปดาห์หลัง “เจ๊อ้อย” 1 ใน 5 จำเลยเบี้ยวนัดอ้างป่วยไม่มาฟังคำพิพากษาแต่ศาลเชื่อเป็นการยื้อเวลาจึงนัดฟังคำพิพากษาอีกครั้งวันที่ 25 ก.พ.นี้   วันนี้(17 ก.พ.68) ที่ ศาลจังหวัดสงขลา กลุ่มภาคประชาชนซึ่งนำโดยนายบรรจง นะแส แกนนำภาคประชาชน นายสมโภช โชติชูช่วง อดีตรองผู้ว่าฯ พร้อมกับกลุ่มประชาชนตบเท้าเข้ารับฟังคำพิพากษากรณีบุกรุกขุดดินพื้นที่โบราณสถานเจดีย์เขาน้อยอายุ 1,400 ปี บริเวณ ต.หัวเขา อำเภอสิงหนครจังหวัดสงขลา โดย คดีนี้มีจำเลยทั้งหมด 5 คน ประกอบด้วย นางณัฐณรันต์ จันทร์สว่าง หรือเจ๊อ้อย พี่สาวนายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นผู้ต้องหาร่วมกับ นายชาญชญา จันทร์สว่าง สามี และนายกอง จันทร์สว่าง บุตรชาย ซึ่งขณะนี้ดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีเมืองสิงหนคร พร้อมคนขับรถแบ๊กโฮอีก 2 คน […]

นายวรญาณ บุญณราช ผู้ว่าราชการจังหวัดบุกดาหาร พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมเพื่อสร้างขวัญและกำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้านการป้องกันไฟป่า ณ จุดสกัดจุดเฝ้าระวังและป้องกันไฟป่า บ้านแก้งช้างเนียม อ.คำชะอี จ.มุกดาหาร โดยมี นายสุริยา คูสกุลรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดมุกดาหาร หัวหน้าเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าภูสีฐาน หัวหน้าสถานีควบคมไฟป่าภูสีฐาน เจ้าหน้าที่ประจำจุดเฝ้าระวังไฟป่า เครือข่ายอาสาสมัครพิทักษ์อุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช (อส.อส.) และเจ้าหน้าที่ในสังกัด ร่วมในกิจกรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดมกดาหาร ได้มอบสิ่งของเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจแก่ผู้ปฏิบัติงาน แก่เจ้าหน้าที่ประจำจุดเฝ้าระวังไฟป่า บ้านแก้งช้างเนียม พร้อมกล่าวให้กำลังใจและขอให้เจ้าหน้าที่ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยให้ชาวบ้านในพื้นที่เข้ามามีส่วนร่วมในการป้องกันไฟป่า เพื่อแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ในพื้นที่ ตรวจติดตามโครงการอนุรักษ์ป้องกันและฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กิจกรรมจัดทำเส้นทางศึกษาธรรมชาติน้ำตกศักดิ์สิทธิ์ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูสีฐาน อ.คำชะอี จ.มุกดาหาร พร้อมเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ ณ ที่ทำการเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูสีฐาน เพื่อสร้างขวัญกำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฎิบัติงานอีกด้วย

แฉกรมโยธาฯยังไม่ส่งสัญญาก่อสร้างให้ สตง.ตรวจสอบ ด้าน สตง.กาฬสินธุ์ฮึ่ม ใครเจตนาประวิงเวลามีโทษตามกฏหมาย เผยเบื้องต้นลงพื้นที่เก็บข้อมูลได้หลักฐานเพียบ ขณะที่ “ฉลาด”ปธ.กมธ.ปปช. แจ้งการสอบทุจริต 7 ชั่วโคตรยังไม่จบรอสรุปเอกสารก่อนส่ง ปปช.ฟัน ย้ำผลรายงานสภาผู้แทนจะเป็นบรรทัดฐานในการป้องกันการทุจริตจากการบริหารงบประมาณส่วนกลางลงสู่ภูมิภาค ทีมข่าวเฉพาะกิจเดลินิวส์ส่วนกลาง เกาะติดปัญหาการก่อสร้างโครงการพัฒนาเมืองกาฬสินธุ์ และโครงการเขื่อนป้องกันตลิ่ง หรือที่ชาวบ้านประณามว่า โครงการ 7 ชั่วโคตร จำนวน 8 โครงการ เป็นงบประมาณของ กรมโยธาธิการและผังเมือง กระทรวงมหาดไทย รวมกว่า 545 ล้านบาท ว่าจ้าง หจก.เฮงนำกิจ จำนวน 6 โครงการ และ หจก.ประชาพัฒน์ จำนวน 2 โครงการ เริ่มทยอยทำสัญญาก่อสร้างระหว่างปี 2562-2564 แต่ทั้งหมดถูกทิ้งงานก่อสร้างและก่อสร้างไม่เสร็จแม้แต่โครงการเดียว ภายหลังถูกเครือข่ายภาคประชาชน เครือข่าย ปปท.และ ธรรมาภิบาลจังหวัดกาฬสินธุ์ ร้องเรียนให้ สตง. – ปปท.- ปปช. รวมถึง กมธ.ปปช.ฯ ตรวจสอบอย่างหนัก ช่วงกลางปี

ปราจีนบุรี – เจ้าหน้าที่พบช้างป่าสีดอโหนก ถูกรถชน ยังเจ็บอยู่ซุกในไร่อ้อย พื้นที่ ต.ลาดตะเคียน อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พบช้างป่าจากเขตอนุรักษ์สัตว์ป่าและพันธุ์พืชเขาอ่างฤาไน อำเภอสนามชัยเขต จังหวัดฉะเชิงเทรา หลบอยู่ในป่าอ้อย เขตรอยต่อหมู่ที่ 7 ตำบลลาดตะเคียน และตำบลเขาไม้แก้ว หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่อนุรักษ์ได้ประสานทีมจิตอาสาเฝ้าระวังช้างป่าเขาไม้แก้วและตำบลลาดตะเคียน ช่วยตรวจสอบช้างป่าตัวดังกล่าว และจากการสำรวจตรวจสอบในป่าอ้อย พบว่า เป็นช้างสีดอโหนก ซึ่งถูกรถชนเมื่อเดือนก่อน มีลักษณะอาการบาดเจ็บบริเวณขา ยืนและนอนอยู่ในป่าอ้อย จากนั้น ทางเจ้าหน้าที่ได้เดินทางเข้าไปยังจุดที่พบช้างซึ่งเป็นจุดแรกเริ่ม ที่ช้างถูกรถชน เมื่อวันที่ 3 ม.ค.68 ที่ผ่านมา ซึ่งเจ้าของไร่อ้อยได้ตัดอ้อย จึงประสานทางเจ้าหน้าที่อนุรักษ์ฯ มาทำการผลักดันช้างป่าออกจากไร่อ้อย เกรงว่า จะได้รับอันตรายจากช่างป่าตัวดังกล่าว กระทั่ง เจ้าหน้าที่อนุรักษ์และจิตอาสาตำบลวังท่าช้าง วังตะเคียน เขาไม้แก้ว ลาดตะเคียน เดินทางไปยังจุดพบช้างในไร่อ้อย จากนั้น ใช้โดนบินสำรวจพบช้างตัวใหญ่อยู่ในป่าอ้อยจริง จากนั้น ช้างได้หนีออกจากป่าอ้อยข้ามถนนสาย 359 และไปหลบอยู่ในป่ายูคาฯ ซึ่งมีอาการบาดเจ็บและไม่เดินไปไหน เจ้าหน้าที่ได้เฝ้าระวังไม่ให้ช้างป่าตัวดังกล่าวย้อนกลับไปที่เดิม แต่จะพยายามให้ช้างหันหน้าไปทางเขตอนุรักษ์ เพื่อง่ายแก่การแกะรอยและติดตามให้กลับเข้าเขตอนุรักษ์

จ.สกลนคร โดย สนง.เกษตรจังหวัดสกลนคร  จัดกิจกรรมเวทีรณรงค์สร้างการรับรู้และการเรียนรู้การเกษตรที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Green Day)   หยุดเผาในพื้นที่การเกษตร  วันที่  14 ก.พ. 2568  เวลา  10.00  น.   นายชูศักดิ์  รู้ยิ่ง ผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร    เป็นประธานเปิดกิจกรรมเวทีรณรงค์สร้างการรับรู้และการเรียนรู้การเกษตรที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Green Day) ภายใต้โครงการส่งเสริมการเกษตรที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568  กิจกรรมส่งเสริมการเกษตรที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม   ณ ศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงบ้านคำข่า ตำบลไร่  อำเภอพรรณานิคม จังหวัดสกลนคร   โดยมี  นายฉลอง อินทนนท์ เกษตรจังหวัดสกลนคร  ในนามของผู้จัดงาน นายยรรยง พรมศร นายอำเภอพรรณานิคม    หัวหน้าส่วนราชการ  องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนันผู้ใหญ่บ้าน  ภาคเอกชน อาสาสมัครเกษตรหมู่บ้าน และชาวอำเภอพรรณานิคม  รวมกิจกรรม สำหรับการจัดเวทีรณรงค์ในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการมีส่วนร่วมของชุมชนเกษตรเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาการเผาในพื้นที่การเกษตรและการใช้ประโยชน์จากวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร ในวันนี้มีเกษตรกร และอาสาสมัครเกษตรเข้าร่วมกิจกรรม จำนวน 300 ราย ซึ่งสำนักงานเกษตรจังหวัดสกลนคร ได้ดำเนินการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงพื้นที่ ร่วมกับผลการทดสอบก่อนเข้าร่วมกิจกรรม

ร้อยเอ็ด…จังหวัดร้อยเอ็ด \”เจ๋ง\” ไถกลบตอซังข้าว เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่น PM2.5 วันนี้( 13 กุมภาพันธ์ 2568 )เวลา 10.00 น. ที่ แปลงนานายผดุง เจริญตา หมู่ที่ 1 บ้านอีโคตร ตำบลศรีโคตร อำเภอจตุรพักตรพิมาน จังหวัดร้อยเอ็ด นายชูศักดิ์ ราชบุรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด พร้อมด้วยนางอัจฉรา ราชบุรี รองนายกเหล่ากาชาดจังหวัดร้อยเอ็ด เปิดกิจกรรมไถกลบตอซัง เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 โดยมี นายมงคล ยี่รัมย์ เกษตรจังหวัดร้อยเอ็ด, นางละอองเพชร พุฒิพัฒน์พานิช ขนายอำเภอจตุรพักตรพิมาน ตลอดจน หัวหน้าส่วนราชการ นักเรียน/นักศึกษา และเกษตรกร เข้าร่วม เนื่องจากสถานการณ์การเผาในพื้นที่การเกษตรของจังหวัดร้อยเอ็ด พบว่า เกษตรกรจะทำการเผาในพื้นที่ทำนา และพื้นที่ปลูกอ้อยเป็นส่วนใหญ่ เพื่อเตรียมการเพาะปลูกในรอบต่อไป ดังนั้นเพื่อให้ เกษตรกรสามารถปรับเปลี่ยนวิธีการผลิตไปสู่ “การทำการเกษตรแบบปลอดการเผา” อำเภอจตุรพักตรพิมาน

เพชรบูรณ์ – ไฟป่าลุกโหมหนัก! เผาพื้นที่ป่าภูโปด-ภูทับเบิก 80 ไร่ วันที่ 13 กุมภาพันธ์ สถานการณ์ไฟป่าใน จ.เพชรบูรณ์ ยังคงรุนแรง ล่าสุดเกิดไฟไหม้บริเวณป่าภูโปด ริมทางขึ้นภูทับเบิก ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาค้อ หมู่ 6 บ้านภูโปด ต.บ้านเนิน อ.หล่มเก่า โดยไฟลุกลาม 2 รอบ ตั้งแต่ค่ำวันที่ 12 กุมภาพันธ์ จนถึงช่วงเย็นวันนี้ (13 ก.พ.) เจ้าหน้าที่พิทักษ์อุทยานฯ เขาค้อที่ 2 น้ำเพียงดิน และชาวบ้านสามารถควบคุมเพลิงได้ พบว่าไฟเผาผลาญพื้นที่ป่าในอุทยานฯ ราว 40 ไร่ และป่าชุมชนรอยต่ออีก 40 ไร่ นายอลงกรณ์ เมืองแวง หัวหน้าหน่วยพิทักษ์อุทยานฯ เขาค้อที่ 2 (ดอยน้ำเพียงดิน) เปิดเผยว่า ไฟเริ่มปะทุครั้งแรกช่วงค่ำวานนี้ เจ้าหน้าที่และชาวบ้านช่วยกันดับจนควบคุมได้ แต่ช่วงตี 2 ไฟปะทุขึ้นมาอีกครั้งจนถึงช่วงเช้า ทางหน่วยฯ ต้องเร่งระดมกำลังเข้าไปดับ

วันนีัที่ 13 กุมภาพันธ์ 2568 ที่ ห้องประชุมชั้น 3 ที่ว่าการอำเภอเมือง จังหวัดลำปาง พลตรี วิชาญ ศรีภัทรางกูร ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 32 มอบหมายให้ พันเอก กวิน ยาวิชัย รองผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 32 ร่วมลงนามความร่วมมือ การป้องกันเเก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควัน เเละฝุ่นละอองขนาดเล็ก ในการนี้มี นายธนารัฐ สายเทพ นายอำเภอเมืองลำปาง ร่วมต้อนรับและร่วมลงนามความร่วมมือ พร้อมด้วย นายอำเภอแม่เมาะ , ผู้อำนวยการสำนักบริการพื้นที่อนุรักษ์ที่ 13 สาขาลำปาง, ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 3 (ลำปาง), ผู้อำนวยการสักนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดลำปาง, หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขลางค์บรรพต, ผู้อำนวยการสำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 2 และส่วนเกี่ยวข้องร่วมกิจกรรม นับเป็นการบูรณาการ เสริมสร้างความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และ PM 2.5 ผ่านกระบวนการขับเคลื่อนกลไกระดับท้องถิ่น เกิดการพัฒนาความร่วมมือระหว่างภาคประชาชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านการบริหารจัดการไฟป่าและหมอกควัน อีกทั้งแก้ไขมลพิษทางอากาศอย่างมีประสิทธิภาพ นำไปสู่กรพัฒนาในมิติอื่น ๆ ให้เกิดความยั่งยืน

  ตรัง อุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม ออกประกาศพบแมงกะพรุนพิษ แพร่กระจายในพื้นที่เกาะกระดาน เกาะมุกด์ (ถ้ำมรกต) เกาะเมง และหาดหยงหลิง เตือนนักท่องเที่ยวและประชาชนให้ระวังอย่าไปสัมผัส                    อุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม จังหวัดตรัง ได้ออกประกาศพบแมงกะพรุนพิษ แพร่กระจายในพื้นที่เกาะกระดาน เกาะมุกด์ (ถ้ำมรกต) เกาะเมง และหาดหยงหลิง ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลชื่อดังของจังหวัดตรัง ขณะที่เจ้าหน้าที่จากศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลอันดามันตอนล่าง (ศวอล.) ได้ทำการลงพื้นที่เพื่อเก็บตัวอย่างแล้ว พบว่า เป็นกลุ่มแมงกะพรุนไฟ สกุล (Pelagia sp.) ดังนั้น อุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม จังหวัดตรัง จึงแจ้งเตือนนักท่องเที่ยวและประชาชนทั่วไปให้ได้รับทราบ พร้อมแนะนำให้ควรหลีกเลี่ยงการลงเล่นน้ำในบริเวณที่พบเห็น และไม่สัมผัสแมงกะพรุนพิษเหล่านี้ เพราะหากสัมผัสจะมีอาการปวดแสบปวดร้อน แต่ไม่อันตรายถึงชีวิต โดยให้บรรเทาพิษเบื้องต้น ด้วยการราดน้ำส้มสายชูบริเวณที่สัมผัส อย่างน้อย 30 วินาที แต่หากอาการไม่ดีขึ้น ควรนำตัวส่งโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน Cr.คลิป-ภาพ ทิพย์อุสา จันทกุล

ชัยภูมิ – เกิดไฟไหม้ป่า-ลอบเผาไร่อ้อย ยังขยายวงกว้างพุ่งไม่หยุดรวบดำเนินแล้วใกล้ทะลุ 100 คดี เพียงแค่ช่วงยังไม่ถึงเดือนที่ผ่านมา ล่าสุด นอภ.ระดมทุกหน่วยงานในพื้นที่ออกมาช่วยกันดับไฟไหม้ไร่อ้อยเสียหายจำนวนมากนับร้อยไร่ใช้เวลานานข้ามคืนกว่าจะควบคุมไฟไหม้ให้สงบลงได้! ( 13 ก.พ.68 ) ขณะที่ จ.ชัยภูมิ มีรายงานในช่วงกลางดึกที่ผ่านมา โดยว่าที่เรือตรี ธราธิป  พหลภิญโญ นายอำเภอบำเหน็จณรงค์ จังหวัดชัยภูมิ พร้อมด้วยกำนันผู้ใหญ่บ้าน และชุดเคลื่อนที่เร็วประจำตำบล และเจ้าหน้าที่ อบต.โคกเริงรมณ์ พากันเร่งลงพื้นที่เพื่อควบคุมสถานการณ์การดับไฟไหม้ไร่อ้อย ในพื้นที่บ้านโคกต่ำ ม.9 ต.โคกเริงรมย์ อ.บำเหน็จณรงค์ จ.ชัยภูมิ ซึ่งในที่เกิดเหตุพบไฟกำลังลุกลามไหม้ไร่อ้อยเป็นวงกว้าง จำนวนหลายแปลง จึงเร่งประสาน ขอกำลังเสริมจากรถดับเพลิง ในพื้นที่ตำบลใกล้พื้นที่มาช่วยฉีดน้ำดับไฟอีกจำนวนมากกว่า 10 คัน ทำให้เกิดฝุ่นคล้ายหิมะดำปลิวว่อนกระจายปกคลุมไปทั่วหมู่บ้านเป็นจำนวนมาก ซึ่งทางเจ้าหน้าที่รถน้ำเร่งระดมกำลังช่วยกันสกัดไฟป่าเป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากมีลมกรรโชกแรง และทำให้ไฟลุกลามเข้าไปไร่อ้อยขยายวงกว้างไม่หยุดอย่างต่อเนื่อง จนท้องฟ้าแดงฉาน มองเห็นภาพเปลวเพลิงกำลังลุกไหม้ไร่อ้อยปลิวขึ้นสูง เกิดเขม่าควันไฟจากการเผาไร่อ้อย ปลิวไปไกลหลายกิโลเมตร ซึ่งต้องใช้เวลานานกว่า 3 ชั่วโมง จนถึงเวลาประมาณ 01.00 น.ของวันนี้(13ก.พ.68)จึงควบคุมไฟไหม้ไร่อ้อยไว้ได้ในเบื้องต้น และพบมีพื้นที่ถูกไฟไหม้ไร่อ้อยเสียหายครั้งนี้แล้วมากกว่า 100 ไร่