อาชญากรรม

เมื่อเวลาประมาณ 08.20 น. วันที่ 12 พ.ค.68 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่งานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยอบต.หนองหล่มเจ้าหน้าที่กู้ภัยหนองหล่ม สมาคมกู้ภัยลำปาง กู้ภัยสว่างนครลำปาง นำรถอุปกรณ์กู้ภัย เข้าระงับเหตุไฟไหม้บ้านเลขที่ 148 ม.8 ต.หนองหล่ม อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง จากการตรวจสอบ พบว่าต้นเพลิงได้ลุกไหม้บริเวณห้องโถงกลางบ้าน เบื้องต้นพบภายในบ้านมีแม่กับลูกชายอยู่ด้วยกัน 2 คน ทราบชื่อคือ นางทองพันธ์ อายุ 71 ปี และนายพศิน อายุ 45 ปี ตามตัวเปื้อนควันดำ และได้รับบาดเจ็บถูกไฟลวกตามร่างกาย และสำลักควัน เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงได้รีบปฐมพยาบาล และนำส่งขึ้นรถกู้ชีพ รพ.ห้างฉัตรทำส่งรักษาที่โรงพยาบาลทันที ต่อมา ทางร.ต.อ.รุ่งเรืองชัย อุปกาละ รอง สว.(สอบสวน) สภ.ห้างฉัตร เดินทางตรวจสอบ ภายในบ้านพทีวีถูกไฟไหม้ได้รับความเสียหาย 1 นอกจากนี้ยังมีเปลวเพลิงไหม้ฝ้าเพดาน และปลั๊กไฟเป็นบริเวณกว้าง ภายในบ้านมีกลิ่นควันคละคลุ้งไปทั่วบริเวณ สอบถามนายพศินให้การว่าต้นเพิงปลั๊กเสียบโทรทัศน์ภายในบ้านและไฟได้ลุกไหม้ขึ้น คาดว่าเกิดจากปลั๊กไฟที่เก่าและชำรุด ซึ่งตนพยายามดับไฟแต่ไม่สำเร็จ จึงได้พาแม่หนีออกจากบ้านได้ทัน cr.กู้ภัยสว่างนครลำปาง

อุกอาจ สาดกระสุนกลางตลาด หนุ่มชวนเพื่อนไปเคลียร์กับคู่กรณี เรื่องที่อีกฝ่ายมาพังห้อง ซึ่งตอนนั้นมีแม่อยู่ด้านใน โดยนัดกัน ที่ ตลาดนัดแห่งหนึ่งภายในซอยด่านสำโรง ตำบลสำโรงเหนือ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ แล้วเกิดการชกต่อยกัน ก่อนจะเกิดการไล่ยิง จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย เมื่อเวลา 23.30 น. วันที่ 11 พฤษภาคม 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สำโรงเหนือ ได้รับแจ้งเหตุไล่ทำร้ายร่างกายกัน มีผู้ได้รับบาดเจ็บ เกิดกลางตลาดนัดแห่งหนึ่งภายในซอยด่านสำโรง ตำบลสำโรงเหนือ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เดินทางตรวจสอบที่เกิดเหตุ ที่บ้านพักหลังหนึ่ง ท้ายซอยด่านสำโรง 31 พบ นายพงศกร ปัญญาอิ่มแก้ว อายุ 28 ปี ถูกหมวกกันน็อกฟาดหัวแตก และถูกยิงเข้าที่ก้นข้างขวากระสุนฝังใน หลังถูกยิงได้ขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีมาที่บ้าน เจ้าหน้าที่มูลนิธิให้การช่วยเหลือปฐมพยาบาลเบื้องต้นก่อนนำส่งโรงพยาบาลเมืองสมุทรปู่เจ้า และ ในที่เกิดเหตุ พบ นายศุภนที่ แสงราศี อายุ 31 ปี ถูกของแข็งและมีดฟันเข้าที่ศีรษะจนได้รับบาดเจ็บ

ด่วน!! ลูกส.ส.คนดังโวยห้ามถ่ายรูปในหน่วยเลือกตั้ง หลังจากนั้น 20 นาทีส่งสมุน 7 คนบุกหน่วยเลือกตั้งทำร้ายตำรวจประจำหน่วยคู่กรณี เมื่อช่วงบ่ายวันนี้ (11 พ.ค. 68)  ณ หน่วยเลือกตั้ง ที่ 7 หมู่ 2 พะวง มีรายงานเหตุป่วนภายในหน่วยเลือกตั้ง เทศบาลตำบลพะวง ต่อมาทราบชื่อผู้ได้รับบาดเจ็บคือ ด.ต.นิสาธิต คงเทพ ขณะนี้ได้รับบาดเจ็บรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลสงขลา ล่าสุด ร.ต.อ.สมนึก กุลมณี ผู้อำนวยการสำนักงานการเลือกตั้งประจำจังหวัดสงขลา ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง ที่เกิดขึ้น พร้อมเปิดเผยว่า หลังจากได้รับรายงาน ทราบว่า มีผู้มาใช้สิทธิ์คนหนึ่งซึ่งเป็นลูกนักการเมืองคนดังและมีผู้ติดตามเข้าไปถ่ายรูป จากนั้นมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปห้ามปรามเนื่องจากผิดกฎหมายเลือกตั้งก็สร้างความไม่พอใจให้กับตัวผู้มาใช้สิทธิ์เท่านั้นและต่อว่าเจ้าหน้าที่และโวยวายจากนั้นประธานหน่วยฯจึงได้ห้ามปราม คนดังซึ่งเป็นลูกชายของนักการเมืองใหญ่ได้เข้ามาใช้สิทธิ์เลือกตั้งบริเวณหน่วยเลือกตั้งที่เจ็ดหมู่ 2 ตำบลพ:วง อำเภอเมืองจังหวัดสงขลาขณะมีการใช้สิทธิ์ได้ให้คนสนิทเข้ามาถ่ายภาพภายในผู้หาเลือกตั้งแต่โดนเจ้าหน้าที่ตำรวจห้ามปรามเนื่องจากผิดกฎหมายเลือกตั้ง หลังจากนั้นประมาณ 20 นาทีมีกลุ่มวัยรุ่นใช้รถกระบะประมาณ 3 คัน มีผู้ก่อเหตุจำนวน 7 ราย เข้ามารุมทำร้ายตำรวจตชด. คู่กรณีได้รับบาดเจ็บโดยได้รับรายงานว่าไม่มีอาวุธและใช้เก้าอี้ในการชกต่อยทุบตีตำรวจ คู่กรณีจนบาดเจ็บบริเวณดวงตาและที่ข้อมือ   นอกจากนี้ผู้อำนวยการประจำสำนักงานคณะกรรมการเลือกตั้งจังหวัดสงขลายังเปิดเผยอีกว่าโดยเบื้องต้น ทราบกลุ่มผู้กระทำความผิดและอยู่ระหว่างประสานงานติดต่อมอบตัว และขณะนี้ตั้งข้อหาเลย เนื่องจากเจ้าหน้าที่ตชด.อยู่ระหว่างปฎิบัติหน้าที่

ตร.ตรังปูพรมล่า นั่งยางโหด 4 ศพ คนงานกลางสวนปาล์ม ก่อนชิงรถหนีลอยนวล เผยพฤติกรรมสุดโหด ยิง 3ศพแล้วเผา ผงะพบอีก 1 ศพ เผาฝังนานร่วมเดือน คาดปมขัดแย้งผลประโยชน์ เหตุเป็นพื้นที่เสี่ยงโจรขโมยปาล์มอาละวาด เมื่อเวลา 01.00 น. ของวันที่ 11 พ.ค.2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สิเกา อ.สิเกา จ.ตรัง รับแจ้งเหตุฆ่าเผานั่งยางภายในสวนปาล์มน้ำมัน ในพื้นที่หมู่ที่ 1 ต.กะลาเส อ.สิเกา จ.ตรัง จึงรุดเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ เมื่อถึงที่เกิดเหตุซึ่งเป็นสวนปาล์มน้ำมันเปลี่ยวและเดินทางด้วยความยากลำบาก หากลึกไปจากถนนตรัง-สิเกา ไปตามถนนลูกรังกว่า 5 กม. สภาพเป็นสวนปาล์มรกทึบ พบควันไฟพวยพุ่งขึ้นมาจากร่องสวนปาล์มความลึกประมาณ 2 เมตร และต้องผงะเมื่อพบกับเศษยางรถยนต์นับ 10เส้น ไหม้ดำเป็นตอตะโกเหลือเพียงเส้นลวดภายในยาง และพบชื้นส่วนคล้ายเศษเนื้อและอวัยวะมนุษย์ปะปนอยู่แล้วไหม้ดำไปแล้วเกือบทั้งหมด เจ้าหน้าที่ตำรวจ กองพิสูจน์หลักฐาน และหน่วยกู้ภัยได้ เข้าเก็บชิ้นส่วน พบร่างมนุษย์ในกองเถ้าถ่านจำนวน 3 ร่าง จึงนำส่งชันสูตรเพื่อหาร่องรอยหลักฐานที่เกี่ยวข้องตามกระบวนการกฎหมายต่อไป ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีดังกล่าวเป็นเหตุสะเทือนขวัญ

สระแก้ว – เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว ร่วมกับ ตำรวจ เข้าควบคุมตัวหนุ่มคลั่งยา หลังจากแม่แท้ ๆ แจ้งว่า ลูกชายคลั่ง ใช้มีดทำร้าย โร่แจ้งความให้เจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือ  เมื่อวันที่ 10 พ.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสุนทร มูเนาวาเราะ นายอำเภอตาพระยา และผู้บังคับกองร้อยอาสารักษาดินแดนอำเภอตาพระยา ที่ 4 อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว ได้มอบหมายให้ปลัดอำเภอตาพระยา และสมาชิกกองร้อยอาสารักษาดินแดนอำเภอตาพระยา ที่ 4 บูรณาการกำลังร่วมกับ ผู้ใหญ่บ้าน , ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ,ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน ม.2 ต.โคคลาน กู้ชีพ อบต.โคคลาน และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ตาพระยา เข้าควบคุมตัวหนุ่มคลั่งยาใช้มีดทำร้ายแม่ ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ได้เข้านำชาย ซึ่งมีประวัติรักษาจิตเวช แต่มีการขาดการทานยาไประยะหนึ่ง โดยไม่ยอมเดินทางไปเข้าพบแพทย์ตามนัด รวมทั้งมีพฤติกรรมทำร้ายร่างกายและด่าทอคนในครอบครัว โดยเฉพาะแม่ ซึ่งล่าสุด ได้เกิดอาการคลั่งใช้มีดทำร้ายแม่ เจ้าหน้าที่จึงเข้าไปควบคุมตัว และนำตัวมาสอบสวนและทำบันทึกจับกุม หลังจากนั้นได้ดำเนินการส่งตัวชายรายดังกล่าว

ราชบุรี   ในวันนี้ ( 10 พ.ค.68 ) ร.ต.อ.ชัชวาลย์   จันทะวงษ์   ร้อยเวรสภ.โพธาราม  จ.ราชบุรี  ได้รับแจ้งมาว่ามีคนร้ายเข้ามาก่อเหตุงัดตู้กดน้ำของหมู่บ้านในพื้นที่ ม.5 ต.เจ็ดเสมียน อ.โพธาราม และกล้องวงจรปิดจับภาพคนร้ายไว้ชัดเจน จึงลงพื้นที่ไปตรวจสอบพร้อมชุดสืบสวน ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวนี้เกิดขึ้นเมื่อเวลา 02.10 น. ของวันที่ 9 พ.ค.68  ตู้กดน้ำที่ถูกงัดนั้นเป็นตู้กดน้ำของกองทุนหมู่บ้านพบว่าที่บริเวณหูช้าง คนร้ายได้ใช้คีมบิดหูช้างเสียหาย และจากการไล่ตรวจสอบภาพในกล้องวงจรปิด   พบคนร้ายเป็นชายและหญิงอุ้มลูกน้อยมาด้วย ได้ขับรถจักรยานยนต์ลักษณะคล้ายยี่ห้อ ฮอนด้าเวฟ สีดำแดง ฝ่ายชายสวมหมวกแก็ปสีดำ อายุประมาณ 30-35 ปี ใส่แมสก์สีขาวปิดบังใบหน้า สวมใส่เสื้อยืดสีขาวลายทาง กางเกงยีนส์ขายาว สะพายกระเป๋า ได้ลงมาก่อเหตุ ส่วนฝ่ายหญิงนั้นอายุไม่เกิน 30 ปีสวมใส่เสื้อคลุมปิดหัวสวมใส่แมสก์สีขาว อุ้มลูกน้อยนั่งคร่อมอยู่บนรถจักรยานยนต์ ซึ่งคนร้ายได้ใช้คีมหักหูช้างใช้เวลาประมาณ 3 นาทีก่อนจะเปิดตู้ได้และคว้ากล่องใส่เหรียญภายในมีเงินเหรียญอยู่ประมาณ 500-600 บาท และรีบขี่รถขับหลบหนีไป โดยมุ่งหน้ามาทาง ต.คลองข่อย อ.โพธาราม  ซึ่งเจ้หน้าที่ชุดสืบสวนได้ไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้น และไปพบคนร้ายจอดที่บริเวณตู้กดน้ำหน้าวัดมณีโชติ  ม.5  ต.คลองข่อย

เมื่อเวลา 01.00 น. วันที่ 10 พฤษภาคม นาวาโท รุ่งเรือง มาสุทธิ หัวหน้าสถานีเรือมุกดาหาร หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง (นรข.)ได้รับแจ้งว่าจะมีการลักลอบนำเข้าสินค้าหนีภาษี(กระเทียมแห้ง)จากแขวงสะหวันนะเขต สปป.ลาว ข้ามแม่น้ำโขงมาขึ้นฝั่งที่บริเวณใกล้กับเขื่อนป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำโขงหน้าตลาดอินโดจีน เขตเทศบาลเมืองมุกดาหาร อำเภอเมือง จังหวัดมุกดาหาร ห่างจากสถานีเรือมุกดาหารประมาณ 1 กิโลเมตร จึงได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ออกซุ่มบริเวณพื้นที่ ที่ได้รับแจ้งดังกล่าว กระทั่งเวลาต่อมาเจ้าหน้าที่ตรวจพบเรือต้องสงสัยจำนวน 1 ลำ แล่นมาจากฝั่ง สปป.ลาว ข้ามมายังฝั่งประเทศไทย จากนั้นได้มีกลุ่มชายฉกรรจ์เข้าไปช่วยกันยกกระสอบกระเทียมแห้งขึ้นมาจากลำเรือและนำเข้าไปไว้ในบ้านเลขที่ 5/4 ถนนสำราญชายโขงใต้ ริมฝั่งแม่น้ำโขง เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวเข้าตรวจสอบ และสามารถควบคุมตัวกลุ่มชายฉกรรจ์ดังกล่าวไว้ได้ 4 คน ส่วนคนขับเรือเมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ก็ได้ขับเรือแล่นกลับไปฝั่ง สปป.ลาว จากการตรวจสอบพบกระเทียมแห้งอยู่บริเวณริมตลิ่งแม่น้ำโขงจำนวน 6 กระสอบ ในบ้านเลขที่ 5/4 จำนวน 3 กระสอบ รถจักรยานยนต์ของกลุ่มชายฉกรรจ์จำนวน 2 คัน ประกอบด้วย ฮอนด้า เวฟ 125 i หมายเลขทะเบียน

เจ้าของกิจการรถแบคโฮเช่า เสียชีวิตปริศนาในป่ารกร้าง     เมื่อเวลา 20:30 น.วันที่ 9 พ.ค.68 เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ. บางกรวย จ.นนทบุรี พร้อมเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูเดินทางเข้าตรวจสอบหลังจากได้รับแจ้งมีคนพบผู้เสียชีวิตมาแล้วหลายวัน ภายในป่ารกร้าง บริเวณหมู่ 1 ต.มหาสวัสดิ์ อ.บางกรวย จากนั้นจึงประสานแพทย์เวรจากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ร่วมตรวจสอบ     ที่เกิดเหตุเป็นแคมป์พักคนงานบริเวณหลังกำแพงซึ่งเป็นป่ารกร้าง พบร่างของนายปรีชา ซอเสียง อายุ 40 ปีชาว จ.น่าน เจ้าของกิจการรถแบคโฮเช่าสภาพศพเสียชีวิตมาแล้วหลายวัน สวมเสื้อยืดสีดำ  ท่อนล่างสวมเพียงกางเกงในตัวเดียว ส่งกลิ่นเหม็นโชยไปทั่วบริเวณโดยทราบว่า ผู้เสียชีวิตพักอาศัยอยู่ที่แคมป์พักคนงานก่อสร้างห่างจากจุดที่พบศพประมาณ 30 เมตร ทางแพทย์เวรตรวจสอบเบื้องต้นไม่พบบาดแผลหรือร่องรอยการถูกทำร้ายเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 3 วัน    น.ส.อุทุมพร ธงหิมะ อายุ 40 ปี ภรรยาของผู้เสียชีวิตกล่าวว่าปกติ อยู่ด้วยกันทุกวันโดยล่าสุดช่วงเย็นของวันที่ 5 หลังจากเลิกงานเจ้าตัวบอกว่าปวดขาจะรีบกลับบ้านก็ได้ขับรถคนละคันแยกกันกลับบ้านพัก ตนเองกับถึงที่พักก่อนแต่ก็ไม่พบเห็นนายปรีชา จนกระทั่งวันที่ 6 ขณะที่ตนเองอยู่ข้างนอกนายปรีชา ได้โทรหาตนเจ้าตัวบอกว่าอยู่ที่บ้านพักแต่เมื่อตนเองกลับมาถึงกับไม่พบ พบแต่ร่องรอยของอาหารที่กินวางไว้ ซึ่งหลังจากนั้นก็ไม่พบตัวและไม่สามารถติดต่อได้อีกเลยจนกระทั่งมาพบเป็นศพในวันนี้ 

วานนี้วันนี้ 9 พ.ค. 68 เวลาประมาณ 16.45 น.โดยการอำนวยการสั่งการของ พล.ต.ต.ภูมิปัญญ์ญา นวตระกูลพิสุทธิ์​ ผบก.ภ.จว.ลำปาง ,พ.ต.อ.กฤษดา พันธ์เกษม รอง ผบก.ฯ​,​ ​พ.ต.อ.คมสันต์​ สอาดล้วน รอง ผบก.ฯ​,​พ.ต.อ.ไพโรจน์ ทองขาว ผกก.กก.สส.ฯ​​ ได้สั่งการให้ จนท.ตร. กก.สส.ภ.จว.ลำปางนำโดย พ.ต.ต.นิคม กันทะวงศ์ สว.กก.สส.ภ.จว.ลำปาง , ร.ต.อ.ทนงศักดิ์ ไกลถิ่น รอง สว.กก.สส.ภ.จว.ลำปาง พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจกก.สส.ภ.จว.ลำปาง ชป.1และชป.2 ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ กก.ตชด.33 และ สภ.เมืองลำปางร่วมกัน ตรวจยึดกระเป๋าเดินทางด้านในมีบุหรี่ไฟฟ้าพร้อมน้ำยาสำเร็จรูปชนิดใช้แล้วทิ้งยี่ห้อ M zero ผลิตในประเทศจีน(Made in China) ซุกซ่อนอยู่ รวมทั้งหมด จำนวน 1,800 ชิ้น ราคาขาย ณ ปัจุบัน ชิ้นละประมาณ 1,000 บาท

เชียงราย-วัยรุ่นอยากได้แว่นฟรี ทำทีลองสวมแว่นเข้าออก พอแม่ค้าเผลอหยิบใส่กระเป๋า ทำทีชักมือถือเข้าออก สุดท้ายไม่รอดสายตาแม่ค้าตามไปเอาคืนได้ วันที่ 9 พ.ค.2568เวลาประมาณ 15.30 น.ได้มีชายวัยรุ่น 2 คน คนที่หนึ่งสวมเสื้อแขนยาวเขียว สวมเมสก์ปิดบังใบหน้า และที่ศีรษะด้านซ้ายมีผ้าปิดแผล เดินมาดูแว่นตาที่แผงร้านแว่นตาแฟชั่น 60 บาท (ห้างสีเขียวแห่งหนึ่งในเชียงราย) ชาววัยรุ่นคนดังกล่าว พยายามลองสวมแว่นตากรองแสง  ซึ่งตอนนั้นน้องกิ่ง (เจ้าของร้าน) ไปเข้าห้องน้ำ เมื่อชายวัยรุ่นเสื้อสีเขียวไม่เห็นเจ้าของร้าน ได้หยิบแว่นตากรองแสงใส่กระเป๋าไป 1 อันแล้วเดินไปข้างร้าน  ในมือเอาแว่นใส่กระเป๋าแล้วทำเป็นแกล้งหยิบโทรศัพท์เข้าออก  คิดว่ากล้องวงจรปิดอาจจะจับภาพไม่ได้  ต่อมามีเพื่อนสวมเสื้อแขนยาวสีดำเดิน ได้มาทักข้างร้าน คุยกันแล้วเดินมาหน้าร้านดูแว่น อีกครั้ง เมื่อคุณกิ่งเจ้าของร้านออกมาจากห้องน้ำ เห็นมีลูกค้าจึงรีบเข้ามาขาย ละหว่างนั้นชายวัยรุ่นเสื้อสีเขียว ได้หยิบแว่นลองสวมใส่เข้าออก ส่วนคุณกิ่งพยายามยืนมองอยู่ เพราะที่ร้านแว่นตายหายเป็นประจำ ซึ่งวันรุ่นเสื้อแขนยาวสีดำได้ตกลงซื้อแว่นราคา 60 บาท  ซึ่งระหว่างที่คุณกิ่งเอาแว่นใส่ถุง และรับเงิน ได้สังเกตเห็นชายวัยรุ่นเสื้อสีเขียว ในมือแกล้งจับโทรศัพท์มาเล่น  แต่ใต้โทรศัพท์มือถือ  จับแว่นเตรียมเอาไป   ชายเสื้อสีดำซื้อเสร็จได้เรียกชายเสื้อสีเขียวกลับ  แต่คุณกิ่งได้เห็นชายเสื้อเขียวแล้วถือแว่นติดมือไป  คุณกิ่งรู้จึงวิ่งตามไป แต่ชายเสื้อเขียวบอกง่าย ๆ ลืมหยิบติดมือมา