อาชญากรรม

  เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม สืบเนื่องจากนายธีรัชย์ อัตนวานิช อธิบดีกรมศุลกากร นางกิจจาลักษณ์ ศรีนุชศาสตร์ ทปษ.ด้านพัฒนาระบบสิทธิประโยชน์ทางศุลกากร และนาวสาวลลิตา อรรถพิมล ผอ.ศภ.2 มีนโยบายให้เข้มงวดในการตรวจสอบการกระท่าความผิดตามกฎหมายศุลกากรและกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง นายกรณ์ชัย ปัญญาวัฒนพงศ์ นายด่านศุลกากรมุกดาหาร ได้รับข้อมูลว่าจะมีการลักลอบนำยาบ้าเข้ามาในราชอาณาจักรจึงได้สั่งการให้ นายสานุ ศิลปไชย ผู้อํานวยการ ส่วนควบคุมทางศุลกากร และนายปริญญา ผลมั่ง หัวหน้าฝ่ายควบคุมและตรวจสอบทางศุลกากร ร่วมกับ ร้อยทหารพรานที่ 2105 ฉก.ทพ.21 ด่านตรวจสัตว์ป่ามุกดาหาร และ ตชด.234 ทำการตรวจค้นรถบรรทุกต้องสงสัย ยี่ห้ออีซูซุ หมายเลขทะเบียน 70-1187 / 70-1188 นครพนม ขณะแล่นมาจอดที่บริเวณช่องขาเข้าด่านพรมแดนมุกดาหาร สะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 2 (มุกดาหาร-สะหวันนะเขต )พบยาบ้าบรรจุในถุงพลาสติกซุกซ่อนบริเวณที่ใส่ของด้านขวาข้างประตูผู้ขับขี่ รวมจำนวน 372 เม็ด เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวนายปองคุณ แซ่หว่อง อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 325

สระแก้ว – ศาลจังหวัดสระแก้วพิพากษาคดีคดีทนายธรรมราช ฟ้อง \”ต้นอ้อ เป็นหนึ่ง\” กระทำผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ สั่งจำคุก 24 เดือน ไม่รอลงอาญา โดยต้นอ้อฯ ยื่นขอประกันตัวและอุทธรณ์สู้คดีต่อ เมื่อช่วงสายวันที่ 14 พ.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลจังหวัดสระแก้ว ต.ท่าเกษม อ.เมืองสระแก้ว จ.สระแก้ว ได้อ่านคำพิพากษาศาลชั้นต้น คดีที่นายธรรมราช สาระปัญญา หรือ ทนายธรรมราช ยื่นฟ้อง น.ส.ชลิดา พะวงละมาตย์ หรือ \”ต้นอ้อ เป็นหนึ่ง\” กระทำผิด 3 ข้อหา หลังยื่นฟ้อง น.ส.ชลิดา และนายแทนคุณ จิตอิสระ หรือ \”อี้\” อดีตนักการเมืองพรรคดัง ในข้อหากระทำความผิดเกี่ยวกับการนำข้อมูลเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ฯ และข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา เนื่องจากมีการจัดแถลงข่าวว่า เจ้าตัวนำรถดูคาติ (Ducati) ของลูกความไปใช้ ทั้งที่ความจริงมีบันทึก-ข้อตกลงทุกขั้นตอน จนเกิดความเสื่อมเสียชื่อเสียง นั้น โดยผู้พิพากษาประจำศาลจังหวัดสระแก้ว ได้ยกฟ้องในข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา 2

สลด พบศพทารกถูกทิ้งด้านหลังห้องเช่าไม่มีชื่อ ท้ายซอยกิ่งแก้ว 28 ถูกตัวเงินตัวทองกัดกินพยานในที่เกิดเหตุเล่าว่า จะไปหาปลาแต่พบเห็นตัวเงินตัวทองพยายามลากร่างของเด็กทารกไปกัดกิน และยังคงวนเวียนอยู่ในบริเวณใกล้เคียง โดยมีความพยามที่จะเข้ามาฉกร่าง เจ้าหน้าที่อาสาต้องคอยยืนถือไม้คอยไล่ไม่ให้ตัวเงินตัวทองตัวนี้   เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 14 พฤษภาคม 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางแก้ว สมุทรปราการ ได้รับแจ้งพบซากศพทารกถูกตัวเงินตัวทองกัดกินบริเวณด้านหลังห้องเช่าไม่มีชื่อ ท้ายซอยกิ่งแก้ว 28 ตำบลราชาเทวะ อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ หลังรับแจ้งพร้อมด้วยเจ้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูเดินเข้าตรวจสอบ ที่เกิดเหตุเป็นพื้นที่ด้านหลังห้องเช่าของแรงงานต่างด้าว มีลักษณะเป็นป่าปรือ พบซากศพทารกเพศชายไม่ทราบชื่อ ถูกทิ้งไว้ในบริเวณดังกล่าว สภาพศพเหลือเพียงศีรษะและใบหน้าเท่านั้น ส่วนล่างของร่างกายคาดว่าถูกตัวเงินตัวทองกัดกิน เนื่องจากพยานในที่เกิดเหตุเล่าว่า พบเห็นตัวเงินตัวทองพยายามลากร่างของเด็กทารก และยังคงวนเวียนอยู่ในบริเวณใกล้เคียง โดยมีความพยามที่จะเข้ามาฉกร่างทารกแรกเกิดรายนี้ไปรับประทานต่อ ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องคอยยืนถือไม้คอยไล่ไม่ให้ตัวเงินตัวทองตัวนี้ ซึ่งคาดว่ามีน้ำหนักไม่ต่ำกว่า 50 กิโลกรัม เข้ามาเอาร่างเด็กทารกลงน้ำไป ชาวบ้านที่พบเห็นเหตุการณ์ได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้เข้าตรวจสอบ โดยเจ้าหน้าที่ได้ทำการกั้นพื้นที่และเฝ้าระวังซากศพทารก เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวเงินตัวทองเข้ามาทำลายหลักฐานเพิ่มเติม ด้านชายชาวต่างด้าว เห็นเหตุการณ์เล่าว่า ตอนนั้นศพของเด็กไม่มีมือแล้ว แต่ตัวยังอยู่ หัวยังอยู่ เจ้าตัวเล่าว่าตอนแรกนอนอยู่ก็คิดว่าปลามันจะขึ้นเพราะฝนมันตกแต่พอดูไปดูมามันไม่ใช่มันเป็นร่างของเด็ก เจ้าตัวเห็นแบบนั้นจึงรีบวิ่งไปตามคนให้มาช่วย นายสิทธิพล โภควรรณวิทย์   เจ้าของห้องเช่าที่เกิดเหตุ

สระแก้ว – ผกก.สภ.คลองลึกลุยแก้ปัญหา ขอให้แก้ไขก่อนถึงขั้นจับปรับจริง เข้าพูดคุยกับผู้ประกอบการถึงการกระทำแบบนี้นั้นมีความผิดทางกฎหมาย เมื่อวันที่ 14 พ.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.อ.ภัทรกร ขาวนวล ผกก.สภ.คลองลึก จ.สระแก้ว มอบหมายให้ พ.ต.ต.ดีรศักดิ์ ดรดี สว.จร.สภ.คลองลึก พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสายตรวจจราจร สภ.คลองลึก ออกทำการรณรงค์ประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการวางสิ่งของ(น้ำดื่ม)กีดขวางการจราจร ทำให้ประชาชนในพื้นที่และนักท่องเที่ยวได้รับความเดือดร้อนอย่างมาก ที่บริเวณข้างถนนศรีเพ็ญ หน้าห้างบิ๊กซี ซึ่งได้เข้าพูดคุยกับผู้ประกอบการถึงการกระทำแบบนี้นั้นมีความผิดทางกฎหมาย โดยได้รับความร่วมมือจากผู้ประกอบการเป็นอย่างดีและพร้อมจะปฏิบัติตามกฎระเบียบของกฎหมายจัดระเบียบจราจร พ.ต.อ.ภัทรกร เผยว่า สืบเนื่องจากที่ผ่านมาตำรวจ สภ.คลองลึก ได้ติดตามและได้รับเรื่องร้องเรียนผ่านทางสื่อออนไลน์ซึ่งรับฟังเสียงสะท้อนทุกเสียงถึงความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน จากเหตุการณ์ที่หลายท่านอาจคิดว่าเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อย เช่นการจอดรถริมถนนอ้างว่าซื้อน้ำยกแพค แต่ในความเป็นจริง มันกลับกลายเป็นเงามืดที่บั่นทอนความปลอดภัยของเพื่อนร่วมทางอย่างไม่รู้ตัว รถที่จอดกีดขวาง บดบังทัศนวิสัย สร้างอันตราย และเป็นชนวนให้เกิดอุบัติเหตุได้ทุกเมื่อ ทั้งที่มันไม่ควรจะเกิดขึ้นเลย แค่เพียงเราตระหนักถึงกันและกันให้มากกว่านี้ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร สภ.คลองลึก ได้ลงพื้นที่ ขอความร่วมมือจากทุกฝ่ายด้วยความสุภาพ ใจเย็น และเต็มไปด้วยความเข้าใจ \”แต่สิ่งที่เราได้รับกลับมา คือ ความเฉยชาและการเพิกเฉย ทางเจ้าหน้าที่ก็ไม่เคยอยากออกใบสั่งเพราะว่าเรารู้ดีว่าเงินทุกบาทที่ต้องจ่ายไป คือเหงื่อแรงงาน ที่หามาเพื่อไว้เลี้ยงดูครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นพี่น้องชาวไทยหรือชาวกัมพูชา เราเห็น เราเข้าใจ แต่เมื่อคำขอร้องไม่เป็นผล

จากกรณีที่สืบสวนภาค 8 ได้รับแจ้งจากนักท่องเที่ยวสัญชาติออสเตรเลีย ว่า ถูกเพื่อนร่วมชาติ ร่วมกันปล้นทรัพย์เป็นเงินสด และ เงินคริปโตถึง 2 ครั้ง รวมมูลค่ากว่า 21 ล้านบาท แถมยังถูกติดตามข่มขู่ โดยคนก่อเหตุเป็นหัวหน้าแก๊งกลุ่มมาเฟียในออสเตรเลีย เกรงว่าจะเกิดความไม่ปลอดภัย โดยผู้เสียหายระบุว่า ครั้งแรกมีคนร้าย 4 คน นำโดยนายบิลลี่, ร่วมกันบุกไปที่บ้านพักวิลล่าแห่งหนึ่งในพื้นที่ สภ.ฉลอง จว.ภูเก็ต บังคับ ข่มขู่โดยใช้อาวุธปืน ให้ผู้เสียหายโอนเงินเข้าบัญชี นายบิลลี่ 2 ล้านบาท และเอาเงินสดไปเพิ่มเติมอีกเป็นเงินร่วม 10.5 ล้านบาท และข่มขู่ไม่ให้แจ้งความ จนเมื่อปลายเดือน มกราคม 2568 ผู้เสียหายได้พักอยู่ที่เกาะสมุย นายบิลลี่ ส่งคนไทยกลุ่มหนึ่งไปติดตามผู้เสียหาย และบังคับให้โอนเหรียญบิตคอย จำนวน 2.8 เหรียญไปให้นายบิลลี่ อีก รวม 2 ครั้งคิดเป็นค่าเสียหายประมาณ 21 ล้านบาท กระทั่งวันที่ 9 เม.ย.ที่ผ่านมา ตอนนี้ตำรวจสืบสวนภาค 8

สระแก้ว – เจ้าหน้าที่ด่านตรวจร่วมยาเสพติดและสิ่งผิดกฎหมาย รวบสาววัย 23 ปี เดินทางไปหาเพื่อนฝั่งปอยเปต ถูกจับกุมหลังซุกยาเคขณะข้ามชายแดนคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว  เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 14 พ.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ทหารพรานกองร้อยทหารพรานที่ 1201 ชุดควบคุมกรมทหารพรานที่ 12 และ ฉก.อรัญประเทศ กองกำลังบูรพา  จัดกำลังพลปฏิบัติหน้าที่ บริเวณด่านตรวจร่วมยาเสพติดและสิ่งผิดกฎหมาย จุดตรวจ อ.20 พิกัด TA 347117 บ.คลองลึก ต.อรัญประเทศ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว โดยได้ตรวจพบหญิงต้องสงสัย จำนวน 1 คน ท่าทางมีพิรุธ จึงเรียกให้หยุดเพื่อทำการตรวจสอบ จากการตรวจสอบเบื้องต้น โดย อส.ทพ.ญ.ปภาดา ล้อมกระโทก ผู้ตรวจ ได้ตรวจพบยาเสพติด บรรจุอยู่ในถุงพลาสติกสีใสขนาดเล็ก ชนิดรูดกดปิด-เปิด จำนวน 1 ถุง ซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋าสะพายข้างสีดำ ทางกองร้อย ทพ.1201 จึงได้นำตัว

วันนี้ 14 พ.ค.68​ เวลา 15.00​ น.พล.ต.ต.ภูปัญญ์ญา​ นวตระกูลพิสุทธิ์​ ผบก.ภ.จว.ลำปาง​ พ.ต.อ.กฤษดา​ พันธ์​เกษม, พ.ต.อ.คมสันต์ สอาดล้วน รอง ผบก.ภ.จว.ลำปาง นายนเรศวร์ฤทธิ์ อุบลศรี นายอำเภอห้างฉัตร พ.ต.อ.ไพโรจน์​ ทองขาว​ ผกก.สส.ภ.จว.ลำปาง พ.ต.อ.ประภาส อุบลศรี ผกก.สภ.ห้างฉัตร พ.ต.ท.ธนา คำยศ รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.ห้างฉัตร​ พ.ต.ท.พรวสันต์​ คำปินโต้​ รอง​ ผกก.สส.สภ.ห้างฉัตร พ.ต.ท.นพดล อัตถะกาศ สว.สส.สภ.ห้างฉัตร​ พร้อมชุดสืบสวน​ ภ.5, สืบสวน​ภ.จว.ลำปาง​ และสืบสวน​สภ.ห้างฉัตร​ ได้นำตัวนายแบ้งค์ (นามสมมติ) อายุ 30 ปี และ 2.​นายอิงค์ (นามสมมติ) อายุ 31 ปี ข้อหา \”ร่วมกันทำให้เสียทรัพย์,ให้ผู้อื่นกู้ยืมเงินโดยเรียกดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด,ประกอบสินเชื่อส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาต,ทวงหนี้โดยผิดกฎหมาย,ทำให้ปรากฎด้วยถ้อยคำใด ๆ ซึ่งข้อความภาพหรือรูปรอยใด ๆ

ทหารหน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า กองกำลังสุรสีห์ สนธิกำลังตำรวจและฝ่ายปกครอง สกัดจับขบวนการลักลอบขนแรงงานข้ามชาติผิดกฎหมาย จำนวน 26 คน อัดแน่นในรถกระบะตู้ทึบ หวังตบตาเจ้าหน้าที่นำส่งเข้าทำงานในจังหวัดชลบุรี (14 พ.ค.68) ที่บริเวณจุดตรวจร่วมสามแยกทองผาภูมิ ต.ท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี ภายหลังได้รับแจ้งจากแหล่งข่าวว่าจะมีการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายผ่านเส้นทางดังกล่าวพล.ต.อัษฎาวุธ ปันยารชุน ผู้บัญชาการกองพลหารราบที่ 9 ในฐานะ ผู้บัญชาการกองกำลังสุรสีห์ ได้สั่งการให้ พ.อ.พรรณศักย์ เพรียวพานิช ผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 29 ในฐานะ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า นำกำลังพลร่วมกับ ร้อย ตชด.135 และ สภ.ทองผาภูมิ ตั้งจุดตรวจ กระทั่งเวลา 07.30 น. เจ้าหน้าที่พบรถกระบะตู้ทึบลักษณะต้องสงสัย จึงเรียกตรวจ พบชายอายุ 47 ปี เป็นผู้ขับขี่ และหญิง อายุ 37 ปี โดยสารมาด้วยจากการตรวจสอบท้ายกระบะ พบแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมา จำนวน 26 คน อัดกันอยู่ในตู้ทึบ โดยไม่สามารถแสดงเอกสารประจำตัวได้ สอบสวนเบื้องต้นคนขับให้การว่า

พังงา-ตำรวจเมืองพังงาให้ความรู้การป้องกันอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสำหรับผู้สูงอายุ เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2568 ที่คันทรีวิว รีสอร์ต ตำบลสองแพรก อำเภอเมืองพังงา จังหวัดพังงา พันตำรวจเอก วีระพงศ์ รักขิโต ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองพังงา เป็นวิทยากรบรรยายในหัวข้อ “การป้องกันอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสำหรับผู้สูงอายุ” ให้แก่ผู้เข้าร่วมอบรมเชิงปฏิบัติการ การพัฒนาอาสาสมัคร ของสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จังหวัดพังงา การบรรยายในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจ และการตระหนักรู้เกี่ยวกับภัยคุกคามทางเทคโนโลยีที่ส่งผลกระทบต่อกลุ่มผู้สูงอายุ ตลอดจนส่งเสริมบทบาทของอาสาสมัครในการช่วยเหลือและปกป้องสังคมจากอาชญากรรมออนไลน์ในรูปแบบต่างๆบรรยากาศในงานเป็นไปด้วยความสนใจและมีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นอย่างสร้างสรรค์ ผู้เข้าร่วมอบรมได้ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี และสามารถนำความรู้ที่ได้รับไปประยุกต์ใช้ในการดำเนินชีวิตและการปฏิบัติหน้าที่ในฐานะอาสาสมัครได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งในปัจจุบันสำนักงานตำรวจแห่งชาติพบว่ามีกลุ่มมิจฉาชีพที่มีเป้าหมายเป็น “กลุ่มผู้สูงอายุ” เนื่องจากเป็นวัยที่มีทรัพย์สิน และเงินออมจำนวนมาก ขาดการป้องกันตนเอง และขาดความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับเทคโนโลยี การอบรมในครั้งนี้ จะช่วยให้กลุ่มผู้สูงอายุได้รู้ถึงภัยออนไลน์ในรูปแบบต่างๆจะได้รู้ทันไม่ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพต่อไป