อุบัติเหตุ

หนุ่มวัย 25 ปี ขับรถยนต์กระบะตู้ทึบ อ้างมองไม่เห็นแบริเออร์ปูนตรงเกาะกลางถนนจนพุ่งชนเต็มแรงก่อนจะหมุนฟาดเสาไฟส่องสว่าง ที่ตั้งอยู่ริมถนนศรีนครินทร์ ใกล้เคียงห้างแจสศรีนครินทร์ ตำบลสำโรงเหนือ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ เมื่อเวลา 22.50 น. วันที่ 17 มีนาคม 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สำโรงเหนือ ได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถยนต์กระบะตู้ทึบชนเสาไฟส่องสว่าง ริมถนนศรีนครินทร์ ใกล้เคียงห้างแจสศรีนครินทร์ ตำบลสำโรงเหนือ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูเดินทางตรวจสอบที่เกิดเหตุ ในที่เกิดเหตุพบรถยนต์กระบะตู้ทึบ ยี่ห้อ อีซูซุ ดีแมคซ์ สีดำ ทะเบียน 3 ฒฐ 324 กรุงเทพมหานคร จอดข้างอยู่เลนซ้าย ล้อหน้าปีนอยู่บนฟุตบาท สภาพ ตู้ด้านหลังหลุดลงมาหงายท้องอยู่บนถนน ล้อแม็กหน้าหลังฝั่งขวาแตก และหน้าพังยับเยินชนติดอยู่กับเสาไฟส่องสว่างริมถนนจนงอล้มไปพาดอยู่กับสายเคเบิ้ล ภายในรถพบ นายวรพล พุทธพงษ์ อายุ 25 ปี นั่งอยู่เบาะคนขับ มีอาการปวดเจ็บตามร่างกาย เจ้าหน้าที่มูลนิธิให้การช่วยเหลือออกมาจากตัวรถ ก่อนจะตรวจอาการแล้วนำส่งโรงพยาบาล ภาพจากกล้องหน้ารถ จากเฟสบุ๊ค Tsuk […]

สุราษฎร์ธานี-เจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องระดมกำลัง ค้นหานักท่องเที่ยวสูญหายเหตุเพลิงไหม้ห้องเครื่องเรือนำเที่ยว ต่อเนื่องทั้งทางน้ำ ทางอากาศ จากกรณีเกิดเหตุเพลิงไหม้ เรือนำเที่ยว ชื่อเรือ เดวี่ โจนส์ ล็อคเกอร์ ของบริษัท เดวี่ โจนส์ ล็อคเกอร์ จำกัด ที่บริเวณเซาเวท (กองตุ้มกู) ห่างจากเกาะเต่าประมาณ 5-6 ไมล์ทะเล หลังรับแจ้ง ศร.ชล.จังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้ประสานเรือเอกชน และอาสาสมัคร เร่งเข้าช่วยเหลืออพยพนักท่องเที่ยวและลูกเรือ ไปยังเรืออีกลำ ได้อย่างปลอดภัย ก่อนจะตรวจสอบ พบว่ามีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ สูญหายไป 1 คน ซึ่งเรือท่องเที่ยวดังกล่าว มีลูกเรือและนักท่องเที่ยวทั้งหมด 22 คน ดังนี้ คนประจำเรือ จำนวน 2 คน  ครูดำน้ำ จำนวน 2 คน  ผู้ช่วยครูดำน้ำ จำนวน 2 คน  และนักท่องเที่ยว (เรียนดำน้ำ) จำนวน 16 คน  และนักท่องเที่ยวสูญหาย

หนุ่มพิจิตรขี่รถจักรยานยนต์ชนราวสะพานก่อนร่างตกกระแทกพื้นสูงกว่า 10 เมตรเสียชีวิต    เมื่อเวลา 00:30 น.วันที่ 17 มี.ค.68 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ. ชัยพฤกษ์ จ.นนทบุรี พร้อมอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูและทีมกู้ชีพจากโรงพยาบาลปากเกร็ด 2 เดินทางเข้าตรวจสอบหลังจากได้รับแจ้งมีรถจักรยานยนต์ชนขอบราวสะพาน คนขับขี่ตกลงมาด้านล่างได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดบนต่างระดับถนนราชพฤกษ์ตัด ถนนทางหลวงหมายเลข 345 ต.คลองข่อย อ.ปากเกร็ด จึงเร่งเข้าตรวจสอบ    ที่เกิดเหตุเป็นทางโค้งที่อยู่ใต้ต่างระดับราชพฤกษ์พบนายสะสม เสงี่ยมจิต อายุ 28 ปีชาว จ.พิจิตร นอนหมดสติขาซ้ายและข้อมือซ้ายหัก เจ้าหน้าที่ทีมกู้ชีพและกู้ภัยทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้นก่อนเคลื่อนย้ายนำตัวส่งโรงพยาบาลปากเกร็ด 2  ขณะเดียวกันด้านบนต่างระดับ พบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นฟอร์ซ่า สีดำ 4ขด 4019 กทม ล้มตะแคงอยู่ โดยพบร่องรอยการเฉี่ยวชนที่แบริเออร์ขอบสะพานและคราบเลือดติดอยู่ที่เสาเหล็กรวมไปถึงรอยขูดบนพื้นผิวถนนที่มีระยะไถลไปไกลกว่า 20 เมตร ล่าสุด เวลา 03:00 น. รับแจ้งนายสะสม ผู้บาดเจ็บทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในเวลาต่อมา    ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจกล่าวว่าเบื้องต้นได้ทำการบันทึกภาพที่เกิดเหตุไว้ โดยสันนิษฐานว่าผู้บาดเจ็บน่าจะขับขี่รถมาด้วยความเร็วและเกิดเสียหลักพุ่งชนแบริเออร์ราวสะพานก่อนที่ลำตัวจะไปกระแทกกับเสาเหล็กและกระเด็นตกลงไปด้านล่างที่มีความสูงกว่า 10 เมตร

ระทึก!! รถบรรทุกแก๊ส LPG 15 ตัน หรือ 15,000 กิโลกรัม ยางระเบิดไฟลุกท่วมที่ล้อหลังฝั่งซ้าย คนขับพยามชะลอรถเพื่อหยุดรถดับไฟ บริเวณหน้าร้านขายของชำขณะที่คุณยายวัย 75 อยู่ที่ร้านขายของชำยกมือท่วมหัวเรียกหลวงปู่ปานให้ช่วยดับไฟไม่อยากให้มันเกิดการระเบิด ภาพจากกล้องวงจรปิดที่หน้าร้านซ่อมรถจักรยานยนต์แห่งหนึ่งริมถนนสุขุมวิทสายเก่า ตำบลคลองด่าน อำเภอบางบ่อ  จังหวัดสมุทรปราการ ช่วงเวลา 13 นาฬิกา 47 นาที 34 วินาที ของวันที่ 16  มีนาคม บันทึกภาพและเสียงดังตูมสนั่นถนนเอาไว้ได้ จากนั้นไม่ถึงนาทีคนในร้านหันไปเห็นว่ามีรถบรรทุกแก๊ส LPG ขนาดใหญ่ เกิดเพลิงลุกไหม้ที่ล้อหลังฝั่งซ้าย ขณะที่คนขับพยามชะลอรถเพื่อหยุดรถดับไฟ ซึ่งจากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้คนในร้านซ่อมมอไซด์แห่งนี้ต้องตะโกนให้คนร้านรีบหาทางหนีตายออกจากร้านเนื่องจากเพลิงกำลังลุกไหม้อย่างรวดเร็ว ขณะที่ ภาพวงจรปิดอีกมุมที่อยู่ถัดไป จับภาพได้ในขณะที่รถคันดังกล่าวขับมาหยุดที่หน้าร้านขายของชำตรงหน้ากล้อง ก่อนจะเกิดเปลวเพลิงและควันสีดำจำนวนมาก ทำให้คุณยายท่านหนึ่งที่อยู่หน้าร้าน ต้องยกมือภาวนาท่วมหัวขอให้ไฟดับลงโดยเร็ว และทันทีที่รถบรรทุกแก๊สคันนี้จอดนิ่ง ทั้งคนขับและชาวบ้านต่างช่วยกันเอาถังเคมีดับเพลิงไปช่วยกันฉีดดับไฟแต่ก็ไม่เป็นผลจนกรทั่งรถดับเพลิงจากเทศบางตำบลคลองด่าน ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากที่เกิดเหตุมาเดนิทางมาถึงและใช้น้ำฉีดสกัดเพลิง ท่ามกลางความตื่นตะนกตกใจของชาวบ้านในระแวงดังกล่าวเป็นอย่างมาก เจ้าหน้าที่ใช้เวลาประมาณ 30 นาทีจึงควบคุมเพลิงและฉีดน้ำหล่อเลี้ยงลดความร้อนที่ถังบรรจุแก๊ส ซึ่งภายในมีแก๊ส LPG เต็มถัง สอบถาม นาย อาคม แต่งศรี คนขับรถบรรทุกแก๊สคันเกิดเหตุบอกว่า

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 15 มีนาคม 2568 เจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิขุนรัตนาวุธ รับแจ้งว่ามีเหตุรถยนต์ประสบอุบัติเหตุตกลงมาจากมอเตอร์เวย์ M81 กาญจนบุรี-บางใหญ่ มีไฟลุกไหม้และมีผู้บาดเจ็บบริเวณพื้นที่ หมู่ที่ 1 ตำบลสนามแย้ อำเภอท่ามะกา จังหวัดกาญจนบุรี เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบรถเก๋งมาสด้า สีเทาดำ ทะเบียน กาญจนบุรี ตกลงมาที่บริเวณไหล่ทางมอเตอร์เวย์ ฝั่งขาเข้าตัวจังหวัดกาญจนบุรีซึ่งมีความสูง 3.6 เมตร และมีเพลิงกำลังลุกไหม้ตัวรถทั้งคัน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จึงได้รีบแจ้งไปทางองค์การบริหารส่วนตำบลสนามแย้ และ องค์การบริหารส่วนตำบล ยางม่วง เพื่อขอรถดับเพลิงสนับสนุนจำนวนสองคันเข้าระงับเหตุเพลิงไหม้เนื่องจากไฟได้ลุกรามไปยังพงหญ้าเป็นวงกว้างในขณะเดียวกันผู้ขับขี่รถเก๋งมาสด้า ได้วิ่งขึ้นมาขอความช่วยเหลือโดยได้รับบาดเจ็บเป็นแผลฉีกขาดที่มือซ้าย เท้าซ้าย ถลอกตามร่างกาย ต่อมาทราบชื่อคือนายบี (นามสมมุติ) อายุ 29 ปี เจ้าหน้าที่จึงได้รีบนำตัวส่งโรงพยาบาลมะการักษ์เพื่อรักษาอาการบาดเจ็บทันที จากการตรวจสอบในบริเวณจุดเกิดเหตุพบร่องรอยการพุ่งชนการ์ดเรลหรือเหล็กกั้นถนนอย่างแรงจนเพลาล้อหน้าขาดติดกับการ์ดเรล และยังพบชิ้นส่วนตัวรถกระจัดกระจายทั่วบริเวณจุดเกิดเหตุ จากการสอบถามพลเมืองดีที่ลงมาช่วยเหลือ เล่าว่า ตอนนั้นรถคันเกิดขับนำหน้ารถตนเองมาเกือบประมาณ 3-4 กิโลเมตร ก่อนที่รถคันเกิดเหตุจะขับจนพ้นสายตาตนเองไปจนกระทั่งตนเองขับมาถึงใกล้กับจุดเกิดเหตุประมาณ 700 เมตร สังเกตเหตุผู้ชายวิ่งขึ้นมาจากไหล่ทางมาขอความช่วยเหลือตนเองได้ขับเลยไปแล้วจึงได้ถ้อยรถกลับมาช่วยเหลือชายคนดังกล่าว ซึ่งตอนนั้นพบว่ารถของชายคนนี้ได้ประสบอุบัติตกลงไปด้านล่างของมอเตอร์เวย์ ก่อนที่จะรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ให้เข้ามาช่วยเหลือ.

2 หนุ่มวัยเพียง 16 ปีควบรถจักรยานยนต์เสียหลักพุ่งอัดท้ายรถพ่วง 22 ล้อดับ 1 สาหัส 1     เมื่อเวลา 02:00 น.วันที่ 15 มี.ค.68 เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ. บางบัวทอง จ.นนทบุรี พร้อมเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู เดินทางเข้าตรวจสอบหลังจากได้รับแจ้งมีรถจักรยานยนต์พุ่งชนท้ายรถบรรทุกพ่วง 22 ล้อที่จอดอยู่ริมทาง ในที่เกิดเหตุมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต เหตุเกิดถนนทางหลวงหมายเลข 9 (บางปะอิน-บางบัวทอง) ต.ละหาร อ.บางบัวทอง จากนั้นจึงประสานแพทย์จากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ตรวจสอบ    ที่เกิดเหตุพบร่างของนายทีปกร  อายุ 16 ปีนอนเสียชีวิตอยู่กลางถนนสภาพศพศรีษะเปืด ขาหักและยังมีผู้บาดเจ็บคือนายจิรพงศ์  อายุ 16 ปี(คนซ้อนท้าย) ขาซ้ายหักผิดรูปยังมีสติตอบรู้เรื่อง  ขณะเดียวกันพบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่น เวฟ สีน้ำเงิน-ดำ ทะเบียน  7ขฉ 8972 กทม สภาพหน้ารถพังเสียหายยับเยินไถลไปติดอยู่กับแบริเออร์ริมถนน ส่วนคู่กรณีเป็นรถบรรทุกพ่วง 22 ล้อยี่ห้อ อีซูซุ ทะเบียนส่วนหัว

กระบะขนคนงานจับกุ้งกุลาดำ ขับตัดหน้ารถไฟ ก่อนพุ่งชนสนั่น ร่างกระเด็นกระจัดกระจาย ตายคาที่ 4 ศพ เจ็บระนาวอีก 6 ราย ขณะที่คนขับกระบะไร้อาการบาดเจ็บ เผยกำลังเดินทางไปรับจ้างจับกุ้งในพื้นที่ จ.กระบี่  อ้างไม่เห็น ไม่ได้ยินเสียงสัญญาณเตือน ตำรวจคุมตัวตรวจพบฉี่ม่วง เจ้าตัวยอมรับเสพยานรก ก่อนแจ้ง 2 ข้อหาหนัก กำนันเรียกร้องให้มีแผงและราวกั้นป้องกันเกิดอุบัติเหตุ เมื่อเวลาประมาณ 14.30 น. วันที่ 13 มี.ค.68 พ.ต.ท.ผจญ เนียมรินทร์ รอง ผกก. (สอบสวน) สภ.กันตัง ได้รับแจ้งเหตุรถไฟ พุ่งชนเข้ากับรถยนต์กระบะ บริเวณจุดตัดถนน พื้นที่ หมู่ 2 บ้านพรุใหญ่ ต.บางหมาก อ.กันตัง จ.ตรัง มีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุจำนวน 4 ราย บาดเจ็บอีก 6 ราย หลังเกิดเหตุจึงเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พ.ต.อ.ประดิษฐ ชัยพล ผกก.สภ.กันตัง นายสนั่น

จักรยานยนต์ พุ่งชนท้ายรถกระบะผู้รับเหมาที่ปิดการจราจร ชายหนุ่มวัย 31 ปีเสียชีวิต      เมื่อเวลา 23:00 น.วันที่ 12 มี.ค.68 เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ. ชัยพฤกษ์ จ.นนทบุรี พร้อมเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูเดินทางเข้าตรวจสอบหลังจากได้รับแจ้งมีรถจักรยานยนต์พุ่งชนท้ายรถยนต์กระบะของเจ้าที่งานก่อสร้าง เหตุเกิดบนสะพาน พระราม 4 ขาออก ต.บางตะไนย์ อ.ปากเกร็ด จากนั้นจึงประสานแพทย์เวรจากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ร่วมตรวจสอบ     ที่เกิดเหตุในช่องเลนซ้ายพบร่างของนายวุฒิชาติ ปินะถา อายุ 31 ปี นอนเสียชีวิตข้างรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่นฟอร์ซ่า สีน้ำตาลทะเบียน 6ขก 9599 กทม โดยสภาพหน้ารถพังเสียหายยับเยิน ส่วนคู่กรณีเป็นรถยนต์กระบะ ยี่ห้อ ฟอร์ด สีน้ำเงิน ทะเบียน บว 9626 ลพบุรี สภาพด้านท้ายถูกชนพังเสียหาย ซึ่งเป็นรถของเจ้าหน้าที่ผู้รับเหมางานติดตั้งป้ายของกรมทางหลวง     นายปัญญะกิจ ศรีสุวรรณ อายุ

ช่างชุ่ย !! หนุ่ม วัย 31 ปี ร้องสื่อ หลังรถได้รับความเสียหายแม็กซ์แตกยางระเบิด เนื่องจากความมักง่ายของทีมช่างขุดเจาะพื้นถนน คลิปจากกล้องหน้า-หลังของรถยนต์ ขณะขับผ่านช่วงที่มีแผ่นเหล็กปิดพื้นถนนและมีเสียงดังขึ้น จากนั้นรถขับเข้าชิดซ้าย เมื่อลงมาดูพบแม็กซ์ทะลุ ยางระแตก สร้างความเสียหายกว่าหมื่นบาท จึงวอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ไข ก่อนสร้างความเสียหายกับผู้ใช้เส้นทางไปมากกว่านี้ เมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 12 มีนาคม 2568 นายศิวณัฐ เลิศสถาพรสุข อายุ 31 ปี หอบหลักฐานเป็นคลิปจากกล้องหน้าและกล้องหลังรถยนต์ SUV ของตนเอง พร้อมภาพถ่ายความเสียหายที่ได้รับจากความมักง่ายของทีมช่างขุดเจาะพื้นถนน ทำให้ล้อแม็กซ์ทะลุ ยางแตกเป็นรูขนาดใหญ่ สร้างความเสียหายต่อทรัพย์สินและทำให้เกิดความหวาดกลัวทุกครั้งที่ต้องขับรถอยู่บนถนนสุขุมวิท นายศิวณัฐ เลิศสถาพรสุข กล่าวว่า เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 3 มีนาคม ที่ผ่านมา ตนขับรถยนต์ไปทำงาน ขณะขับอยู่บนถนนสุขุมวิท กม.34 ขาเข้าจังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งมีการก่อสร้างขุดเจาะผิวพื้นถนนแล้วนำเหล็กแผ่นใหญ่มาปิดทับเอาไว้ จู่ ๆ ได้ยินเสียงดังขึ้น 2 ครั้ง จากนั้นแรงดันลมยางลดลงอย่างรวดเร็ว ตนจึงรีบขับรถชิดซ้ายเปิดไฟฉุกเฉิน เมื่อลงมาดูพบว่ายางแตกเป็นแผลขนาดใหญ่และแม็กซ์ถูกเจาะเป็นรูกว้าง

เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 12 มีนาคม 2568 ร.ต.อ.จรัญ กระจ่างแจ่ม ร้อยเวร สภ.ท่ามะกา รับแจ้งว่ามีรถเก๋งตกคลองมีคนติดภายในบริเวณถนนเลียบคันคลองชลประทาน หมู่ที่ 6 ตำบลดอนชะเอม อำเภอท่ามะกา จังหวัดกาญจนบุรี จึงได้รีบประสานขอกำลังสนับสนุนจากมูลนิธิขุนรัตนาวุธ เข้าช่วยเหลือทันทีไปถึงที่เกิดเหตุพบรถเก๋งยี่ห้อฮอนด้า แจ๊ส สีเทาตกอยู่ในคลองชลประทาน โดยทางนายจิรายุ จำปาไทย กำนันตำบลท่ามะกา พร้อมกับพลเมืองดีที่ขับรถผ่านมาเจอเหตุการณ์พอดี ได้พยายามลงไปช่วยโดยการทุบกระจกจนคนขับหลุดออกมาได้ก่อนที่จะใช้เชือกโยนให้คนขับรถดังกล่าวจับแล้วดึงขึ้นมา ต่อมาทราบชื่อ คือ นายบี (นามสมมุติ) อายุ 36 ปี ส่วนภรรยาวัยอายุ 33 ปี พร้อมด้วยลูกสาววัย 6 เดือน ติดอยู่ภายในรถก่อนที่รถจะจมหายไปกับสายน้ำ ต่อมาทางเจ้าหน้าที่นักประดาน้ำทีมสายธารมูลนิธิขุนรัตนาวุธ ได้งมรถขึ้นมาจากน้ำโดยใช้เวลาไม่นาน พบว่าด้านในเบาะหลังพบร่างผู้เสียชีวิตสองรายคือภรรยาและลูกสาว ด้านในยังพบข้าวของเครื่องใช้ทั้งของเล่นตุ๊กตา กระติกน้ำ และกระเป๋าเสื้อผ้าอีกจำนวนหนึ่ง ส่วนสภาพรถพังยับเยินทั้งคันจากการสอบเพื่อนของนายบี (นามสมมุติ) บอกว่า ผู้ตายมีงานที่ต้องเดินทางมาประชุมที่จังหวัดกาญจนบุรี แล้วได้เดินทางมากับครอบครัวพ่อแม่ลูก ซึ่งทางคณะที่เดินทางมาก่อนก็ไปอีกเส้นทางหนึ่งแต่ผู้ตายไม่รู้มาเส้นเลียบคลองชลประทานได้ยังไง ส่วนสาเหตุน่าจะไม่ชินทางเพราะผู้ตายไม่เคยมาถนนเส้นนี้เลย เพราะขับมาดี ๆ