แมงอีนูนกับแกล้มชั้นเลิศ 1 ปี ออก 1 ครั้ง

เชียงราย-ออกแล้วแมงอีนูน ใกล้เข้าสู่ฤดูฝน แมงอีนูนจะพบมากตามต้นไม้ ชาวบ้านพากันเก็บมาประกอบอาหาร และพลาดไม่ได้นำไปเป็นกับแกล้มชั้นเลิศ

วันที่ 7 พ.ค.2568 ช่วงเข้าสู่ฤดูฝนแมงอีนูนจะมีจำนวนมากให้ชาวบ้านได้เก็บไปรับประทาน  ซึ่งแมลงชนิดนี้ 1 ปีมี 1 ครั้ง ที่ชาวบ้านจะพากันไปเก็บทาน หรือนำไปขายตาม ท้องตลาดสร้างรายได้ให้กับชาวบ้านในช่วงที่แมงอีนูนออก  แมงอีนูนเป็นแมลงปีกแข็ง ปีกมีสีน้ำตาลสีน้ำตาลดำ ตัวอ้วนสั้น ขนาดประมาณ  15 มิลลิเมตร ซึ่งจะชอบเกาะตามใบไม้กัดกินใบไม้ ถือได้ว่าเป็นศัตรูพืช

ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังบ้านเวียงแก้ว ม.5 ต.ศรีดอลมูล อ.เชียงแสน จ.เชียงราย ได้ไปพบกับนางตาล ปันอินทร์ดี อาบุ 54 ปี และนายอ้น ปันอินทร์ดี อายุ 56 ปี ซึ่งสองผัวเมียทุกปีถึงฤดู จะพากันออกเก็บแมงอีนูนไปขายตามท้องตลอด และมีมากก็จะนำไปขายให้พ่อค้าแม่ค้ารับไปขายอีกทอด  นางตาล เผยว่า ช่วงหัวค่ำจะพาลูกหลาน พร้อมสามี นำที่ใสแมงอีนูน และที่ดักจับ เป็นขวดพลาสติน้ำอัดลม 2 ขาด นำมาทำเป็นที่ดักจับแมงอีนูน  ซึ่งไปหาแมงอีนูนไม่ใกล้จากบ้านเท่าไร หาตามสวน ตามต้นไม้ข้างทางก็จะมีอยู่เต็มต้น ใช้เวลาหัวค่ำไปจนถึงประมาณเที่ยงคืนก็กลับบ้าน เก็บใส่ภาชนะและนำใบไม้ที่แมงอีนูนชอบกินใส่ลงไปด้วย เพื่อให้มันกินไม่ตาย เช้ามาจึงเอาไปขายตามตลาดกิโลกรัมละ 250 บาท และมีพ่อค้าแม่ค้ามารับไปขายอีกที่ ราคาตามท้องตลาดกิโลกรัมละ 300 บาท หรือขีดละ 30 บาท  ซึ่งสร้างรายได้ให้กับครอบครัวคนละ 200-300 บาทต่อวัน

แมงอีนูนสามารถไปเก็บได้ทุกวัน และจะกลับไปที่ต้นไม้เดิมที่เก็บไปแล้ว แมงนูนก็จะมีโผล่มาเกาะที่เดิมเต็มต้นไม้ ซึ่งไปอีกวันก็จะได้ปริมาณเท่าเดิม หรือบางวันก็จะมีมากกว่า ซึ่งปีนี้ป่าไม้ถูกทำลายไปมาก ทำให้แมงอีนูนหายากขึ้น เนื่องจากถูกไฟเผาไหม้ตัวอ่อนไปหมด  แมงอีนูนส่วนใหญ่คนนิยมนำไปทอดคั่วเกลือ จะทำให้มีรสชาติ มัน-กรอบ-เค็ม นิยมไปกินกับข้าวร้อน หรือสำหรับคอสุรา ไม่พลาดที่จะซื้อไปคั่วทำเป็นกับแกล้มคู่กัน