น้ำกก.พ่นพิษ พ่อค้าแม่ค้าระงมโล่งไม่มีลูกค้า เซ่นสารหนูพม่า

เชียงราย-พ่อค้าแม่ค้าขายอาหาร ทำซุ้มริมแม่น้ำกก.ร้องระงมไม่มีลูกค้า ส่วนคนเล่นน้ำระแวงผวาไม่กล้ามาเที่ยวเล่นน้ำกก. ทำให้ซบเซาสงกรานต์ปีนี้

วันที่ 12 เมษายน 2568 จากสถานการณ์น้ำกก.เชียงราย พบสารปนเปื้อน โดยเฉพาะสารหนู ทำให้ประชาชนตื่นตัว ไม่เล่นน้ำสงกรานต์ในแม่น้ำกก.และแม่น้ำสาย จากต้นน้ำไหลมาจากประเทศเมียนมา  เกิดจากการทำเหมืองแร่ทองคำของชาวจีน ที่ชำระล้างน้ำเสียลงสู่แม่น้ำทำให้แม่น้ำมีสารปนเปื้อนมาด้วย ซึ่งหน่วยงานจังหวัดเชียงราย ได้ตรวจพบมีการปนเปื้อนทำให้นักท่องเที่ยว ที่จะลงเล่นน้ำคล้ายร้อนแม่น้ำกก.และแม่น้ำสาย พึงระวังหลีกเลี่ยงไปสัมผัส หันไปเล่นตามถนนแหล่งเล่นน้ำในตัวเมือง

ขณะเดียวกัน  ทุกปีกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าจะสร้างซุ้มด้วยไม่ไผ่ชั่วคราวตามแหล่งน้ำกกและแม่น้ำสาย มีอาหารเครื่องดื่มจำหน่าย ให้นักท่องเที่ยวเล่นน้ำและนั่งทานอาหาร คลายร้อน กับปีนี้ทางการได้แจ้งเตือนประชาชน และประชาสัมพันธ์เสียงตามสายชุมชน  ที่ติดกับแม่น้ำกกห้ามลงเล่นน้ำระวังสัมผัสสารปนเปื้อน สารหนูในแม่น้ำ ทำให้นักท่องเที่ยวไม่กล้าเล่นน้ำ และไม่มาทานอาหาร ทำให้แม่ค้าพอค้าที่ลงทุนไปแล้ว ต่างถอนใจ

บริเวณสะพานโยนกนคร บ้านสันธาตุ ม.4 ต.โยนก อ.เชียงแสน จ.เชียงราย ซึ่งเป็นสถานที่เล่นน้ำกกทุกปี มีแม่น้ำกกไหลผ่านบริเวณดังกล่าว ก่อนลงสู่แม่น้ำโขง ซึ่งทุกปีเหล่าพ่อค้าแม่ค้า ทำซุ้มจำหน่ายอาหาร นั่งแช่น้ำคล้ายร้อนไปด้วย แต่ปีนีเงียบเหงาสงบ ไม่มีนักท่องเที่ยว บางร้านได้ปิดเก็บของกลับ ทำให้เงินลงทุนปล่อยสูญกันไปเลย มีบางร้านก็ทนอยู่ รอดูอีก 2-3 วันไม่มีลูกค้าก็เก็บ  ซึ่งกระทะยังไม่ได้ลงเตาทำอาหารให้ลูกค้า ร้านที่ขายปิ้งย่างยังไม่ได้ติดไฟปิ้งย่างให้ลูกค้าเลย แต่ละซุ้มโล่งไม่มีลูกค้า เมื่อทราบข่าวในน้ำมีสารปนเปื้อนจึงไม่มาเที่ยว แต่ทางพ่อค้าแม่ค้า พยายามปรับ ได้นำน้ำสะอาดมาเตรียมไว้ให้ลูกค้าที่เล่นน้ำเสร็จ สามารถมาชำระล้างน้ำสะอาด ที่เตรียมไว้ให้คลายกังวล

ด้านนายกิตติพงษ์ พิชัยยา (พ่อค้า) ได้เผย อยากจะให้รัฐบาลเข้ามาช่วยเหลือผู้ประกอบการ ร่วมกับหน่วยงานท้องถิ่นที่ได้ผลกระทบจากน้ำกก อยากให้เร่งแก้ไขประสานไปทางเมียนมาร์อย่างเด็ดขาด ในเรื่องการทำเหมืองแร่ปล่อยน้ำมีสารปนเปื้อนลงสู่แม่น้ำ ทำให้คนท้ายน้ำต้องได้รับผลกระทบ ซึ่งตอนนี้ประชาชนมีความระแวง ทั้งเรื่องสัตว์น้ำในแม่น้ำกกที่นำมาบริโภค สัตว์น้ำที่มาขายไม่ทราบว่ามาจากแหล่งน้ำใด ทำให้ระแวงกันไปหมด  ซึ่งหากปีหน้ารัฐบาลไม่มีมาตรการแก้ไข ประชาชนที่ทำมาหากินกับแหล่งน้ำกกจะต้องลำบากเป็นลูกโซ่

นายกิตติพงษ์ พิชัยยา (พ่อค้า) ยังกล่าวอีกว่า ตามหลักตั้งแต่ช่วงต้นเดือนเมษาของทุกปีจะมีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวจำนวนมาก แต่มาช่วงนี้ปาเข้าไปวันที่ 12-13 ยังไม่มีนักท่องเที่ยว คาดว่ายังไงก็ขาดทุน ทุกคนต่างลงทุนไปหลักแสน ปีนี้ขอให้ได้ทุนคืนก็พอใจ ไม่หวังจะได้กำไร