ส่งไอซ์ทางพัสดุหลายครั้งง่ายดี ครั้งนี้ไม่พ้นสายตาเจ้าหน้าที่

เชียงราย-เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.เมืองเชียงราย ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านดู่ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ส่วนสกัดกั้นการลักลอบลำเลียงยาเสพติด ด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์(AI) ศอ.ปส.ภ.5เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติดตำรวจภูธรจังหวัดเชียงรายเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.ปส 3 บช.ปส ได้สืบทราบว่า มีการลักลอบนำส่งยาเสพติดำทางพัสดุ จึงได้เฝ้าดูพฤติกรรมจนแน่ชัด

เมื่อวานที่ 22 มี.ค. 68 ที่ผ่านมา  เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับรายงานว่า รถฟอร์ด 4 ประตู สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน ขฉ 0754 เชียงราย คันต้องสงสัย ได้วิ่งออกมาจากพื้นที่ ต.แม่ยาว อ.เมือง จ.เชียงราย  จึงได้สะกดตามมาถึงบริเวณถนนกลางเวียง ต.ริมกก อ.เมือง จ.เชียงราย จึงได้เรียกให้จอด  ตรวจพบมีนายสมชัย แอแตะ อายุ 32 ปี เป็นคนขับ และ น.ส.วิมาลา เมธาอธิวัฒน์ อายุ 43 ปี  นั่งมาด้วย  ด้านหลังเบาะท้ายพบกล่องพัสดุ จำนวน 3 กล่องอยู่ด้านหลัง

เจ้าหน้าที่ได้สอบถามผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย ยอมรับสารภาพภายในกล่องเป็นยาเสพติด เตรียมที่จะไปส่งพัสดุในตัวเมืองเชียงราย  โดยได้อ้างว่า รับจ้างให้ไปส่งพัสดุ ขณที่กำลังตรวจค้นรถผู้ต้องหา เจ้าหน้าที่ได้สังเกตเห็นมีรถจักรยานยนต์ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนจอดอยู่บริเวณใกล้เคียงคนขับเป็นชายลักษณะมีพิรุธ จึงได้ตรวจสอบ ทราบชื่อนายจะสอ จะลู อายุ 42 ปี พร้อมยอมรับสารภาพเป็นคนขับจักรยานยนต์ดูต้นทาง  เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวมาที่ สภ.เมืองเชียงรายเพื่อทำการตรวจสอบ

จาการตรวจสอบกล่องพัสดุ พบว่า ภายในบรรจุลักษณะเป็นก้อนสีขาว ห่อหุ้มด้วยถุงพลสติกพิมพ์ลายหน้าเสือ 777 จำนวน 49 ห่อ (ก้อนละประมาณ 1 กก.) รวมน้ำหนักประมาณ 49 กก. จึงได้ใช้ชุดตรวจยาเสพติดมาควิส ผลการตรวจพบเป็นเคตามีน และยังพบปืน 1 กระบอกในกระเป๋านายสมชัย แอแตะ อายุ 32 ปี เป็นคนขับ

จากนั้นได้ทำการตรวจสอบประวัติของทุกคน พบว่ามี น.ส.วิมาลา เมธาอธิวัฒน์ อายุ 43 ปี  เป็นบุคคลตามหมายจับ ของศาลจังหวัดเชียงราย ลงวันที่ 13 ธันวาคม 2567 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์)

จาการสอบถามทราบว่า 3 ผู้ต้องหาได้ส่งลักษณะนี้มาประมาณ 4-5 ครั้ง ซึ่งไม่เคยถูกจับจึงได้ทำอีก เพราะเป็นการส่งง่ายไม่ต้องเสี่ยงวิ่งผ่านด่านไปไกล ซึ่งทางเจ้าหน้าที่อยู่ในระหว่างขยายผลตามหาขบวนการรายนี้ จากนั้นจึงควบคุมตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองเชียงราย เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป