เชียงราย-พม่าเร่งให้รื้อถอนบ้านเรือนที่รุกล้ำ เตรียมเร่งขุดและรื้อถอนควบคู่ไปด้วย ส่วนเงินเยียวยายังต้องรอ และยังไม่มีแผนย้ายไปที่รองรับใหม่
วันที่ 18 มีนาคม 2568 มีรายงาน เมื่อวานที่ผ่านมา นายวรายุทธ ค่อมบุญ นายอำเภอแม่สาย เป็นประธานการประชุมเตรียมดำเนินงาน สร้างแนวป้องกันน้ำท่วมระยะเร่งด่วน โดยมีหัวหน้าส่วนราชการจังหวัดเชียงราย ผู้นำชุมชนส่วนที่เกี่ยวข้อง และประชาชนที่ได้รับผลกระทบ เข้าร่วมประชุม โดยที่ประชุมฯมีประเด็น ความคืบหน้าแผนการดำเนินงานป้องกันน้ำท่วม เร่งด่วน แผนการดำเนินงาน จัดทำแนวป้องกันตลิ่ง แผนการดำเนินการรื้อถอนสิ่งก่อสร้างรุกล้ำเขตเมียนมา 38 จุด การดำเนินการรื้อถอนบิ๊กแบ็ค และนำดินโคลนบริเวณใต้สะพานข้ามแม่น้ำสายแห่งที่ 1
ซึ่งใจความที่สำคัญสำหรับชาวบ้านติดริมแม่น้ำสาย ที่จะได้รับผลกระทบในการรื้อถอน และยังไม่มีแนวทางเยี่ยวยา ซึ่งนายวรายุทธ ค่อมบุญ นายอำเภอแม่สาย กล่าวในที่ประชุมว่า ทางการเมียนมาร์ ได้เร่งให้มีการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างที่อยู่ฝั่งไทย ที่อยู่เขตเมียนมาร์ เร่งให้มีการรื้อถอน เพื่อนดำเนินการขุดลอกลำน้ำสายควบคู่ไปด้วย ซึ่งในส่วนบ้านเรือนประชาชนที่รุกล้ำเข้าเขตเมียนมาร์ หากไม่รื้อถอน ถือว่าผิดกฎหมายประเทศเมียนมาร์ เนื่องจากอยู่ในแผ่นดินเมียนมาร์ จะถูกดำเนินคดีเมียนมาร์ ซึ่งทางนายวรายุทธ ค่อมบุญ นายอำเภอแม่สาย จึงเร่งประชุมให้ผู้นำชุมชน กลับไปอธิบายกับคนในชุมชน ที่ได้รับผลกระทบให้เร่งดำเนินการรื้อถอน หรือให้ไทยทำการรื้อถอน หรือให้ฝ่ายเมียนมาร์รื้อถอนเองในส่วนบ้านเรือนที่ได้รับผลกระทบ จำนวน 843 หลังคาเรือน เงินเยียวยารื้อถอน และย้ายออกนั้น ทราบว่า มีบ้านเรือนประชาชนตลอดริมแม่น้ำสาย ที่ทำผิดรุกล้ำเข้าในสถานที่ราชการ หรือเขตประเทศเพื่อนบ้าน ถือว่ากระทำผิดกฎหมายซึ่งยังไม่มีแนวทางช่วยเหลือจากภาครัฐ แต่ทางด้านนายอำเภอแม่สาย พยายามเร่งช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ที่ได้รับผลกระทบ โดยให้ทางฝ่ายผู้นำชุมชนไปดำเนินทำแผนบ้านเรือนประชาชน เพื่อเสนอไปยังรัฐบาล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ในส่วนที่มีการอ้างอิงถึงสถานีใบยาเวียงพาน สำนักงานยาสูบเชียงราย การยาสูบแห่งประเทศไทย ให้ย้ายประชาชนเข้าไปอยู่อาศัยนั้น ซึ่งยังมีข้อขัดแย้งกับ ครม. ซึ่งสถานีใบยาเวียงพาน จะต้องสร้างให้มีรายได้ เช่น เช่าต้องมีรายได้ให้ทางภาครัฐ ตามมติ ครม.ที่ผ่านมา ซึ่งในส่วนที่จะย้ายประชาชนที่ได้รับผลกระทบ จากการรื้อถอนบ้านเรือนริมแม่น้ำสายนั้น ให้ไปอยู่สถานที่ใหม่นั้นยังไม่มีแผนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แต่อย่างใด