เชียงราย-ลูกชายกลับบ้านดึกไม่พอใจแม่ กระทืบจนน่วม มีแผลรอยฟกช้ำทั้งตัว
วันที่ 6 มีนาคม 2568 นางวรรณา จะติ อายุ 44 ปี อาศัยอยู่บ้านเอื้ออาทรโครงการ 2 ต.โป่งผา อ.แม่สาย จ.เชียงราย จากที่ได้เข้าไปแจ้งความร้องทุกข์ไว้ที่ สภ.แม่สาย ไว้เมื่อวันนี้ 27 ก.พ. 2568 โดยเกิดเหตุนายนะติชัย จะติ อายุ 20 ปี (ต้น-บุตรชาย) ได้ทำร้ายร่างกาย บีบคอ และชกต่อยบริเวณใบหน้า ศีรษะ และลำตัว เป็นเหตุให้ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งยังรอเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกตัวลูกชายไปให้ปากคำ และดำเนินคดีลูกชายตามหลักฐานตามรูปภาพ
ซึ่งได้เล่าเหตุการณ์ว่า นายต้น (ลูกชาย) จะข้ามไปมาระหว่างเมืองท่าขี้เหล็ก สหภาพเมียนมาร์และจะวนเข้ามาพักอาศัยที่บ้านนางวรรณา ที่บ้านเอื้ออาทรโครงการ 2 แม่สาย ซึ่งนางวรรณามีลูกด้วยกันทั้งหมด 4 คน ออกจากบ้านไปมีครอบครัว ซึ่งเธอได้อาศัยอยู่กับลูกชายคนที่ 4 อายุเพียง 19 ปี และมีนายต้นเป็นลูกคนที่ 3 ยังไม่มีครอบครัว ซึ่งนายต้นหากกลับมาอยู่บ้านก็จะไปเที่ยวกลับบ้านดึก ซึ่งตัวนางวรรณาเองก็ทำงานกลับบ้าน 3-4 ทุ่มเช่นกันทุกวัน ต้องหาเงินเลี้ยงลูกคนเล็ก
ซึ่งพักหลังนายตนกลับบ้านมาดึกดื่มมาด้วย มักจะมาโวยวายให้คนในบ้าน และทำลายข้าวของภายในบ้านเป็นประจำทำให้คนในบ้านหวาดกลัว ไม่กล้าไปมีปากเสียงกับนายต้น ซึ่งล่าสุดนางวรรณาทำงานกลับบ้านมืดค่ำ ได้เปิดประตูเข้าบ้านได้เห็นนายต้นปีนฝ้าเพดานเข้าไปในบ้าน นางวรรณาได้กลับมาเห็นจึงได้ต่อว่าเรื่องกุญแจ ที่เคยให้ไว้แล้วไม่อยากให้ปีนขึ้นบ้าน ทำให้ฝ้าเพดานเสียหาย ทำให้นายต้นเกิดโมโหปรี่เข้าไปชกนางวรรณา จนสะบักสะบอมบอบช้ำไปทั้งตัว จึงได้เข้าไปแจ้งความเอาผิดกับนายต้นลูกชาย
ซึ่งระหว่างรอเจ้าหน้าที่เรียกตัว นางวรรณาได้อยู่อยากหวาดกลัวนายต้นลูกชาย หากเวลากลับบ้านเข้ามามักจะเมาและโมโหด่าคนในบ้านทำให้อยู่อย่างหวดกลัว ซึ่งตนเองอยากจะให้เจ้าหน้าที่ดำเนินคดีกับนายต้นลูกชาย ซึ่งไม่มีใครห้ามปรามได้ ซึ่งในข้อกฎหมาย การทำร้ายร่างกายบุพการี นอกจากมีความผิดตามกฎหมายฐานทำร้ายร่างกายแล้ว ยังถือเป็นเหตุฉกรรจ์ ที่ผู้กระทำความผิดต้องได้รับโทษหนักขึ้นตามกฎหมาย