หนุ่มป่วยจิตหนีออกโรงพยาบาล แอบขับรถพ่อหนีขับไปชนบ้าน

เชียงราย-จากกรณีเมื่อหัวค่ำของวันที่ 3 มีนาคม 68 เวลาประมาณ 19.20 น. ได้มีหนุ่มป่วยด้านสมอง ได้ขับรถยนต์กระบะอีซูซุสีบรอนซ์เงิน ทะเบียน บย 5887 เชียงราย ท้ายกระบะเป็นตู้ทึบได้ขับไปชนเสาบ้าน ของชาวบ้านที่บ้านห้วยปูพัฒนา ม.8 ต.ดอยฮาง อ.เมือง จ.เชียงราย และยังพบว่าที่ข้อมือมีสายลัดของโรงพยาบาล ชื่อนายเอกณัฎฐ์ อายุ 25 ปี  หลังจากชนเสาบ้าน ของชาวบ้าน ทางนายบารมี ปรีชาชาติตระกุล สท.ทต.ดอยฮาง ได้เข้ามาพูดคุยกับนายเอกณัฎฐ์  ขณะที่สอบถามพบว่า พูดคุยไม่รู้เรื่องคล้ายคนป่วยทางสมอง จึงได้พาไปพักอาศัย บ้านในบริเวณหมู่บ้าน พร้อมกับโพสต์ลงกลุ่มสาธารณะ ติดตามหาผู้ปกครอง หรือญาติของผู้ป่วย มารับตัว และชดใช้ค่าเสียหา

ต่อมาวันที่ 4 มีนาคม 2568 เวลาประมาณ 10.00 น. ที่จุดเกิดเหตุ หมู่บ้านห้วยปูพัฒนา ม.8 พบว่า เป็นหมู่บ้านที่ห่างไกลจากตัวเมืองเชียงราย เป็นหมู่บ้านชาวลาหู่อยู่ในดอย  ขณะไปที่จุดเกิดเหตุได้พบว่าเป็นบ้านของนายสมบัติ รักชาติ ซึ่งเวลาเกิดเหตุนายสมบัติ ไม่ได้อยู่บ้าน มีแต่เพียงลูกสาว 2 คน นอนอยู่บนบ้าน ซึ่งทางลูกสาวของนายสมบัติตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่คิดว่า จะมีเหตุการณ์แบบนี้ในหมู่บ้านป่าเขา

ขณะเดียวกัน ด้านนายไชยพงษ์ อายุ 56 ปี พ่อค้าขายของเร่ พร้อมด้วยภรรยา หลังทราบ มีการโพสต์ในโซเชียลตามหาเจ้าของรถ และให้มารับคนขับกลับ นายไชยพงษ์จึงได้พากัน มาตามหาลูกชาย ที่หมู่บ้านห้วยปูพัฒนา ม.8 พบว่าเป็นหมู่บ้านที่ห่างไกล จากบ้านตนเองอาศัยอยู่ ที่บ้านสันป่าก่อ อ.เมือง จ.เชียงราย  ซึ่งได้เล่าว่า ในวันที่ 4 มีนาคม นายเอกณัฎฐ์ (ลูกชาย) เอามอเตอร์ไซค์ไปล้ม ทางกู้ภัยได้นำตัวส่งโรงพยาบาล  และขณะที่นายไชยพงษ์ทำความสะอาดในห้องนายเอกณัฎฐ (ลูกชาย)   นายเอกณัฎฐลูกชาย คาดว่าจะหนีออกมาจากโรงพยาบาลมา นั่งอยู่ที่บ้าน ทางนายไชยพงษ์คิดว่าหลังจากทำความสะอาดเสร็จจะเข้าไปจ่ายเงินที่โรงพยาบาล แต่จู่ ๆ นายเอกณัฏฐได้คว้ากุญแจ ขับรถยนต์กระบะของพ่อออกไป พ่อและแม่รีบออกไปตามหาแต่ไม่พบ จึงได้ไปแจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองเชียงรายไว้ หวันกลัวลูกชายที่ป่วยทางด้านสมองจะไปก่อเหตุอะไร  จนมาทราบอีกที่ลูกชายขับรถไปชนบ้านชาวบ้านที่บ้านห้วยปูพัฒนา จึงได้มาตาม  ซึ่งก่อนเกิดเหตุลูกชายไม่ได้ทานยา ทำให้ป่วยด้านสมองกำเริบ

ขณะเดียวกันทางนายบารมี ปรีชาชาติตระกุล สท.ทต.ดอยฮาง ได้ไปรับตัวนายเอกณัฎฐ ที่ฝากชาวบ้านไว้ ขณะมาถึงยังมีอาการผู้จาเหมือนจะรู้เรื่อง แต่ก็ไม่รู้เรื่อง โดยภายในคอแขวนพระเต็มคอ พบว่าเป็นพระของพ่อ ซึ่งนายเอกณัฎฐ์ ก็ได้ไปขอโทษนายสมบัติ พร้อมจะขอชดใช้ ซึ่งทางพ่อและแม่นายเอกณัฎฐ หลังจากนี้จะนำลูกชายไปหาที่รักษาตัว หากปล่อยแบบนี้จะต้องไปก่อความวุ่นวายให้กับชาวบ้าน