ทวี อภิสกุลชาติ

นครพนม ครูเล่านาที ไอ้โม่งถือมีดสั้น บุกถึงบ้านเรียกเด็กมาเอาขนม ขณะผกก.ท่าอุเทน สั่งชุดสืบลงพื้นที่ เร่งแกะรอยจากกล้องวงจรปิด หาเบาะแสแก๊งตระเวนลักเด็กแล้ว กรณีมีเหตุการณ์มีกลุ่มคนร้ายออกตระเวนลักเด็ก โดยใช้รถกระบะขับมาจอดหน้ารั้วโรงเรียนบ้านพะทาย ต.พะทาย อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม โดยภายในรถมีชายต้องสงสัย 3 คนพยายามเรียกเด็กนักเรียนให้ไปรับขนมหวานและน้ำหวาน ซึ่งไม่ใช่ผู้ปกครองของนักเรียน แต่เด็กไหวทันวิ่งหนีได้ ผู้ปกครองหวั่นเกรงว่าจะเป็นคนร้ายแก๊งลักเด็ก สร้างความหวาดผวาให้กับผู้ปกครองและครูในพื้นที่ จนมีการแชร์เรื่องราวต่อๆกันอย่างกว้างขวางในโลกออนไลน์ ขณะที่ สพป.เขต 2 นครพนม ร่อนหนังสือแจ้งเตือนภัยโรงเรียนทุกแห่งในสังกัด ตามที่เสอข่าวไปแล้วนั้น ความคืบหน้าล่าสุด วันที่ 20 ก.พ.2568 น.ส.อรอุมา ครูประจำชั้น ป.4 โรงเรียนบ้านพะทาย เปิดเผยว่า ตนเองเป็นครูประจำชั้น ด.ช.ฟุต (นามสมมุติ) วันเกิดเหตุเด็กเล่าให้ฟังว่ามีคนร้าย 3 คนสวมหมวกไอ้โม่ง ขับรถกระบะสีขาวไล่ตามรถจักรยานไฟฟ้าของตน ขณะมาถึงถนนใหญ่รถกระบะของคนร้ายเกิดเสียหลักตกหล่มเนื่องจากมีการขุกดินเพื่อฝังท่อระปา ด.ช.ฟุต จึงขับรถผ่านลานรับซื้อยางพารา แล้วเลี้ยวรถเข้าบ้านปรากฏว่าคนร้ายเลี้ยวรถแล่นตามหลังและติดตามไปถึงบ้าน คนร้ายมากัน 3 คนต่างสวมหมวกไอ้โม่ง สวมใส่เสื้อสีดา ส่วนรถกระบะเป็นรถ 4 ประตูสีขาว มีป้ายทะเบียนแต่ถูกปิดไว้ […]

วันที่ 19 ก.พ.2568 จากกรณีมีเหตุการณ์แก๊งลักเด็ก ใช้รถกระบะขับมาจอดหน้ารั้วโรงเรียนบ้านพะทาย ต.พะทาย อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม พบชายต้องสงสัย 3 คนมาเรียกนักเรียนให้ไปรับขนมหวานและน้ำหวาน ซึ่งไม่ใช่ผู้ปกครองของนักเรียน หวั่นเกรงว่าจะเป็นคนร้ายแก๊งลักเด็ก สร้างความหวาดผวาให้กับผู้ปกครองและครูในพื้นที่ จนมีกระแสข่าวสะพัดในโลกออนไลน์ ด.ช.น้อย (นามสมุติ) อายุ 10 ปี นักเรียนชั้น ป.4 โรงเรียนบ้านพะทาย เล่าว่า ขณะเกิดเหตุเวลา 12.00 น. วันที่ 17 ก.พ.2568 (วานนี้) ขณะขับรถจักรยานไฟฟ้าออกจากโรงเรียนเพื่อมากินข้าวเที่ยงที่บ้านพัก บ.โนนสวรรค์ ต.พะทาย อ.ท่าอุเทน ห่างจากสวนยางพาราฯและโรงเรียนราว 1 กิโลเมตรเศษ พบชาย 3 คนขับรถยนต์กระบะสีขาว มาจอดขณะจะไปสวนยางฯของผู้เป็นยาย แต่ไม่พบยาย อยู่คนเดียวจึงหวาดกลัว ด.ช.น้อย กล่าวต่อว่า หลังไม่พบยาย ขณะจะไปซื้อกับข้าวมากินเที่ยง ต่อมาคนร้าย 3 คนสวมหมวกไอ้โม่งคล้ายคนกรีดยางไม่ใช่คนแถวนี้เดินลงจากรถ จึงหวาดกลัวรีบวิ่งไปหลบบนบ้านชั้น 2 ตามลำพัง หลบอยู่ราว

เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ต.ท.เจษฎากร ไชยศรีหา สว.สส. สภ.นิคมคำสร้อย จ.มุกดาหาร และ ร.ต.อ.ธนากร ปาวะพรม สืบทราบว่า มีการลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าในพื้นที่ อ.นิคมคำสร้อย จึงได้รายงาน พ.ต.อ.พิชญ์วุฒิ โพธิ์จันทร์ ผกก.สภ.นิคมคำสร้อย และ พ.ต.ท.อนุพงศ์ ศรีสุข รอง ผกก.สส. ทราบ และได้รวบรวมข้อมูลเพื่อขออนุมัติหมายค้นเข้าทำการตรวจค้นบ้านเป้าหมาย โดยได้สนธิกำลังกับนายธีรวัฒน์ หมีคำ ปลัดอำเภอนิคมคำสร้อย และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองเข้าทำ การตรวจค้นบ้านเลขที่ 30 ม.11 ต.นิคมคำสร้อย อ.นิคมคำสร้อย โดย ร.ต.ท.โยฤทธิ์ แสนสุข ได้แสดงตัวเป็นผู้มีชื่อตามหมายค้นให้นาง บุญทรง ปัททุม ผู้ครอบครองสถานที่ และเป็นมารดาของผู้ต้องหา และผู้ต้องหาทราบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ จากนั้นได้ แสดงหมายค้นพร้อมทั้งอ่านให้ฟัง และให้นางบุญทรง ตรวจดูอีกครั้งจนเป็นที่พอใจ ซึ่งนางบุญทรง ยินยอมให้เจ้าหน้าที่ทำการตรวจค้นได้ด้วยความสมัครใจ ผลการตรวจค้นที่บริเวณห้องร้านตัดผม พบพ็อตบุหรี่ไฟฟ้าชนิดเปลี่ยนหัวบรรจุยาได้จำนวน 125 ชิ้น และบุหรี่ไฟฟ้าแบบใช้แล้วทิ้งจำนวน 191

วันที่ 18 ก.พ.2568 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปตรวจสอบที่บ้านเลขที่ 94 บ้านโพนงาม หมู่ 3 ต.นาทราย อ.เมือง จ.นครพนม หลังกำแพงห้องน้ำล้มทับชายเสียชีวิต พบนางตุลา โพคาพาณิชย์ อายุ 64 ปี และนางนิพาพร โพคาพาณิชย์ อายุ 40 ปี แม่และภรรยา พร้อมญาติพี่น้องกำลังช่วยกันจัดงานศพนายพีรพล โพคาพาณิชย์ ลูกชายและสามี ท่ามกลางความเศร้าสลด พร้อมพบซากที่ห้องน้ำเก่าพังล้มครืนทะลายลงเป็นซากอิฐ นางตุลา เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุช่วง 09.20 น.ลูกชายคนโตคือนายพีรพล ใช้ค้อนตียาว 1 ฟุตทุบฝาผนังห้องน้ำเก่ากว้าง 2 เมตร ยาว 2 เมตร สูง 2.5 เมตร เพื่อจะนัดให้รถบรรทุกนำดินลูกรังมาถมในวันนี้เพื่อให้หลังบ้านสูงขึ้น เพราะน้ำท่วมขัง  โดยลงมือทุบตั้งแต่ช่วง 7 โมงเช้านานร่วม 2 ชั่วโมง หวังจะให้แม่ใช้ห้องน้ำใหม่ที่สร้างเสร็จแล้วอยู่ใกล้กัน แม่ผู้ตาย กล่าวต่อว่า ขณะตนทำงานครัวอยู่ใกล้กันลูกชายทุบฝาผนังห้องน้ำข้างบ้านฝั่งซ้าย

วันนี้ (18 ก.พ.) ที่ศาลจังหวัดนครพนม ศาลได้อ่านคำพิพากษาคดีหมิ่นประมาทกรณี นายศุภชัย โพธิ์สุ อดีตรองประธานสภาผู้แทนราษฎร น.ส.ศุภพานี โพธิ์สุ และ ผศ.ดร.ธนบวร สิริคุณากรกุล ร่วมกันเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายษิทรา เบี้ยบังเกิด กับ นางช่อฉัตร โตชูวงศ์ เป็นจำเลยในความผิดฐาน \”หมิ่นประมาทโดยการโฆษณา\” พร้อมเรียกค่าเสียหาย คดีนี้ สืบเนื่องจาก นายศุภชัย พร้อมพวก เป็นโจทย์ยื่นฟ้อง นายษิทรา หรือทนายตั้ม และ น.ส.ช่อฉัตร นักธุรกิจน้ำยางพารา ในความผิดฐาน \”หมิ่นประมาทโดยการโฆษณา\” โดยคำฟ้องระบุพฤติกรรมสรุปว่า จำเลยทั้ง 2 แถลงข่าว โดยมีเนื้อหาข้อความอันเป็นเท็จ บิดเบือนข้อเท็จจริงและมีเจตนาใส่ร้ายโจทย์ทั้ง 3 ให้เสียหาย อีกทั้งยังทำให้เกิดความเสียหายในเรื่องอื่นๆ อีกหลายเรื่อง ทั้งนี้ คำพิพากษาศาลได้สั่งจำคุกจำเลยทั้ง 2 เป็นเวลา 1 ปี 4 เดือน โดยโทษจำคุกไม่รอลงอาญา และสั่งให้ทั้งคู่ชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทย์ทั้ง 3

วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2568 ที่ห้องประชุมพระธาตุพนม ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดนครพนม นายปราชญา อุ่นเพชรวรากร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ร่วมลงนามบันทึกในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ระหว่าง สำนักงานจังหวัดนครพนม การประปาส่วนภูมิภาค สาขานครพนม สาขาธาตุพนม สาขาบ้านแพง และสาขาศรีสงคราม การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดนครพนม และนายอำเภอทั้ง 12 อำเภอ ตามโครงการน้ำดื่มสะอาดบริการประชาชนเพื่อส่งเสริมคุณภาพชีวิตประชาชนให้ดีขึ้น โดยร่วมกันดำเนินการในการพัฒนาระบบน้ำดื่มให้สะอาดและปลอดภัยสำหรับประชาชน โดยมีการติดตั้งจุดบริการน้ำดื่มสะอาดในชุมชนและพื้นที่ต่าง ๆ เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชน ในพื้นที่นำร่อง 7 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองนครพนม ธาตุพนม นาแก ท่าอุเทน บ้านแพง ปลาปาก และอำเภอศรีสงคราม ซึ่งโครงการน้ำดื่มสะอาดบริการประชาชนเพื่อส่งเสริมคุณภาพชีวิตประชาชนให้ดีขึ้น เป็นหนึ่งในนโยบายของกระทรวงมหาดไทย ตามที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ที่มอบนโยบายส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน โดยเน้นย้ำ 5 นโยบายสำคัญ คือ การจัดระเบียบสังคม ปราบปรามผู้มีอิทธิพล, การป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด, การสร้างอาชีพ