ทวี อภิสกุลชาติ

เมื่อวันที่ 7 มี.ค 2568 นายศักดิ์สิทธิ์ รัศมี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน บ้านดอนยานางหมู่ 1 ต.นาทราย อ.เมือง จ.นครพนม ได้นำลูกบ้านที่มีบ้านอยู่รอบ ๆ โรงปลูกกัญชา ร้องต่อผู้สื่อข่าว หลังโรงปลูกกัญชา ส่งกลิ่นเหม็นรบกวนและต่างเชื่อกันว่า มีส่วนสำคัญทำให้ชาวบ้านต่างพากันล้มป่วย ทั้งนี้นายศักดิ์สิทธิ์ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านและเป็นแกนนำได้ พาผู้สื่อข่าวเดินสำรวจพื้นที่โดยรอบโรงปลูกกัญชา ที่ก่อสร้างขึ้นเป็นระบบปิด มีการเพาะปลูกต้นกัญชา ภายในห้องที่ปิดทึบ โดยพบว่ามีกลิ่นของช่อดอกกัญชาโชยออกมา ตามที่ถูกกล่าวอ้างจริง แต่เป็นกลิ่นจาง ๆ ไม่รุนแรงถึงขนาดทำให้ผู้ที่สูดดมเข้าไปจะเจ็บป่วยได้ และบางครั้งก็แทบจะไม่ได้กลิ่นเลย ซึ่งนายศักดิ์สิทธิ์ ได้ให้ข้อมูลโต้แย้งเพิ่มเติมว่า ช่วงเวลาประมาณ หกโมงเย็นจนถึงเที่ยงคืน จะเป็นช่วงที่มีกลิ่นค่อนข้างรุนแรงที่สุดและจะค่อยๆเจือจางลงในช่วงกลางวันพร้อมให้ข้อมูลว่า โรงปลูกกัญชาแห่งนี้มีการนำเอาสารเคมี เช่นก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์มาใช้ผลิตกัญชาซึ่งอาจทำให้รั่วไหลจนก่อเกิดอันตรายแก่ชาวบ้านที่อยู่ใกล้ ๆ ได้ นางอุไรวรรณ นาทราย อายุ 66ปี ชาวบ้านดอนยานาง และมีบ้านพักอาศัยในละแวกห่างจากโรงปลูกกัญชา ประมาณ 200 เมตร ได้กล่าวว่าจากที่ผ่านมา ตนเองเป็นผู้ป่วยโรคเบาหวานและความดัน รักษาต่อเนื่องมาตลอดหลายปี แต่ก็เชื่อว่าผลกระทบจากกลิ่นจากโรงปลูกกัญชาที่โชยมาเป็นระยะ ๆ ก็มีส่วนที่ทำให้การเจ็บป่วยของตนไม่ทุเลาลงเท่าที่ควร

เมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2568 เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในโลกออนไลน์ หลังผู้ใช้ Facebook ชื่อ \”ทยาวีย์ อุปเสน\” โพสต์ข้อความเตือนภัยว่ามีรถกระบะตระเวนพยายามฉุดเด็กนักเรียนในพื้นที่อำเภอบ้านแพง จังหวัดนครพนม หลังรับแจ้งเหตุ พ.ต.อ.จีรุฏฐ์ พิมพา ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรบ้านแพง ได้สั่งการให้ชุดสืบสวนเร่งลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงทันที โดยได้สอบปากคำผู้เสียหาย 2 ราย ได้แก่ น.ส.ณิชานันท์ (สงวน​นามสกุล)​ และ ด.ญ.เอ จากการสอบสวนและตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด เจ้าหน้าที่ตำรวจพบรถกระบะต้องสงสัยยี่ห้ออีซูซุ ดีแม็กซ์ สีเทา หมายเลขทะเบียน กค 4595 บึงกาฬ ซึ่งมีนายศราวุฒิ ดูพันดุง อายุ 33 ปี เป็นผู้ครอบครอง ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามตัวนายศราวุฒิ และเพื่อนอีก 2 คน ได้แก่ นายภรพวิษย์ ไชยดวง อายุ 25 ปี และนายการัณยภาส ส้มอ่ำ อายุ 19 ปี มาสอบสวน

นครพนม – จากกรณีหวยอลเวง 12 ล้านบาท ที่เป็นข่าวโด่งดังระหว่าง ร.ต.อ.ฐิติพัฒน์ หรือ \”ผู้กองเข้ม\” อดีต ตชด. วัย 65 ปี กับ \”ยายแหล่\” เจ้าของร้านลาบชื่อดังใน อ.ธาตุพนม จ.นครพนม ที่ตกลงแบ่งเงินรางวัลกันไม่ลงตัว ล่าสุด ผู้กองเข้มได้ตัดสินใจละทางโลก เข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์แล้ว เมื่อวันที่ 7 มีนาคม ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวได้รับรายงานว่า ผู้กองเข้มได้เข้าพิธีอุปสมบทอย่างเงียบๆ ที่วัดหัวบึงทุ่ง อ.ธาตุพนม โดยมีพระครูสุวิมลธรรมสถิต เจ้าคณะอำเภอธาตุพนม เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้รับฉายา \”ฐิติวฑฺฒโน\” และตั้งใจจะจำวัดเป็นเวลา 3 เดือน เพื่อศึกษาพระธรรมวินัยและปฏิบัติธรรมอย่างเคร่งครัด พระเข้มได้เปิดเผยว่า การบวชครั้งนี้เป็นความตั้งใจมานานแล้ว และรู้สึกดีใจที่ได้ทำตามความปรารถนา ส่วนเรื่องราวความขัดแย้งกับยายแหล่ ขอตัดขาดจากโลกภายนอก และไม่ขอพูดถึงอีกต่อไป โดยจะปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมาย \”อาตมาขอใช้เวลา 3 เดือนนี้ อยู่กับพระธรรมวินัยอย่างสงบ เพื่อให้เกิดอานิสงส์แก่ตนเองและครอบครัว\” พระเข้มกล่าว ด้านนายเกรียงไกร ศักดี

วันที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2568 ณ บ้านหนองเดิ่น ตำบลบ้านผึ้ง อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม ชาวบ้านต่างพากันแตกตื่นกับเหตุการณ์สุดประหลาด เมื่อมีกิ้งก่ายักษ์ขนาดมหึมาปรากฏตัวขึ้นกลางทุ่งนาบริเวณริมรั้วท้ายหมู่บ้าน สร้างความฮือฮาให้กับผู้ที่พบเห็นเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคุณยายวัย 89 ปีในหมู่บ้านออกมาเปิดเผยว่า ตลอดชีวิตที่ผ่านมาไม่เคยพบเห็นสัตว์ประหลาดเช่นนี้มาก่อน นายประยงค์ เดชสอน อายุ 48 ปี ผู้ที่พบกิ้งก่ายักษ์เป็นคนแรก เล่าว่า ในขณะที่เขากำลังนั่งพักผ่อนอยู่ที่บ้านในช่วงเที่ยงของวันที่ 6 มีนาคม เขาเหลือบไปเห็นสิ่งผิดปกติเคลื่อนไหวอยู่บริเวณริมรั้ว เมื่อเข้าไปตรวจสอบใกล้ๆ ก็ต้องตกตะลึงกับภาพที่เห็น เมื่อพบว่ามันคือสัตว์ประหลาดขนาดใหญ่ที่ไม่เคยเห็นมาก่อน เขาจึงรีบเรียกเพื่อนบ้านมาช่วยกันจับ และนำมันมาไว้ที่บ้าน กิ้งก่ายักษ์ตัวดังกล่าวมีความยาวถึง 1.60 เมตร น้ำหนัก 6.3 กิโลกรัม มีหางยาว 1 เมตร และมีลายคล้ายกับจระเข้ ที่น่าแปลกคือขาหน้าด้านซ้ายของมันกุดด้วน ทำให้ชาวบ้านต่างพากันสงสัยว่ามันเป็นสัตว์เลี้ยงของใครที่หลุดออกมาหรือไม่ ข่าวการปรากฏตัวของกิ้งก่ายักษ์แพร่กระจายไปอย่างรวดเร็ว ทำให้ชาวบ้านจากทั่วทุกสารทิศต่างพากันแห่มาชมด้วยความตื่นเต้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งบรรดาเซียนหวยที่ต่างพากันจดจ้องหมายเลขบ้านของนายประยงค์ ซึ่งก็คือบ้านเลขที่ 91 หมู่ 9 เพื่อนำไปเสี่ยงโชคในงวดวันที่ 16 มีนาคมที่จะถึงนี้

นครพนม – เมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2568 ร.ต.อ.วิชาญ โสมศรี รองสารวัตรป้องกันและปราบปราม สภ.เมืองนครพนม รับแจ้งเหตุชายพยายามกระโดดน้ำโขงฆ่าตัวตาย บริเวณหน้าโรงเรียนเซนโยเซฟ ถนนสุนทรวิจิตร อ.เมืองนครพนม จึงนำกำลังเจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือ ที่เกิดเหตุพบ นายนพดล ชูอารมณ์ อายุ 46 ปี ชาวบ้าน บ.โนนขาม ต.นาทราย อ.เมืองนครพนม ลอยคออยู่กลางแม่น้ำโขง เจ้าหน้าที่รีบลงไปช่วยนำร่างขึ้นฝั่งได้อย่างปลอดภัย พบว่าผู้ก่อเหตุอยู่ในอาการมึนเมาและบ่นพึมพำด้วยความน้อยใจ นายนพดลเปิดเผยว่า หนีออกจากบ้านมา 2 วัน ไปอาศัยอยู่ที่บ้านเพื่อน ในชุมชนน้อยใต้ เขตเทศบาลนครพนม ก่อนเกิดเหตุ ได้นั่งดื่มสุรากับเพื่อนตั้งแต่ช่วงเช้า จากนั้นเริ่มคิดมากเรื่องอดีตภรรยาที่เลิกรากันไปนาน 4 ปี และยังน้อยใจพี่สาวของตนเอง จึงตัดสินใจขับรถจักรยานยนต์ไปจอด บริเวณศาลาหน้าโรงเรียนเซนโยเซฟ ก่อนเดินลงไปยังริมตลิ่งเพื่อปลิดชีพตัวเอง โชคดีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสายตรวจ เดินทางมาถึงทันเวลา และเข้าช่วยเหลือนายนพดล ก่อนจะจมน้ำไปมากกว่านี้ จากนั้นได้พาตัวขึ้นรถสายตรวจ นำส่งกลับบ้านพักที่บ้านโนนขามอย่างปลอดภัย เจ้าหน้าที่ฝากเตือนประชาชนให้ดูแลจิตใจตนเอง และหากมีปัญหาควรหาทางปรึกษาคนใกล้ชิดหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อป้องกันเหตุเศร้าสลดที่อาจเกิดขึ้น