ทวี อภิสกุลชาติ

นครพนม  : จากกรณี น.ส.วลัยลักษณ์ (ขอสงวนสกุล) แม่ของ ด.ญ.แมว วัย 8 ขวบ นักเรียนชั้น ป.3 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน ต.ท่าจำปา อ.ท่าอุเทน นำคลิปและภาพลูกสาวถูกเพื่อนในโรงเรียนโพสต์ลงโลกโซเซียล ระบุว่าลูกรุมทำร้ายหลายครั้ง ใช้ไม้ตีแผ่นหลังมีรอยบาดแผลฟกซ้ำ ทั้งกดน้ำจนสลบ ถ้าเกิดเหตุการณ์นี้เป็นลูกหลานของตนเอง คุณจะรู้สึกอย่างไร ขออย่าให้เรื่องเงียบ ขอเอาเรื่องให้ถึงที่สุดนะคะ ในคลิป ด.ญ.แมวปล่อยโฮสะอึกสะอื้น พูดกับแม่ว่า “เพื่อนที่รุมทำร้าย บอกให้ตนเองไปขอข้าวครู เพื่อนอยากกิน แต่ตนเองไม่ได้ไปขอให้ มีเพื่อนมาหลายคนเกิน โดยมี 3 คนรุมตีอีก 1 คนยืนดู ส่วนที่ศีรษะบริเวณหน้าผากลื่นล้มวันที่ 18 มี.ค.68 ขณะที่แม่พูดกับลูกวัย 8 ขวบว่า “เขาเตะเขาตบไหม หนูรู้ไหมแม่เป็นแม่แท้ๆยังไม่เคยตีหนูเลย แม่เคยตีหนูขนาดนี้ไหม” ขณะที่แม่ถลกหลังเสื้อนักเรียนพร้อมพูดว่า “แบบนี้มันไม่ได้นะคะ ต้องเอาเรื่องให้ถึงที่สุด ไม่ใช่พ่อไม่ใช่แม่ลูกกลัวทำไหม แม่ไม่ได้สอนให้หนูยอมคนนะลูก ถ้าเขาอยากกินทำมั้ยไม่ขอกินเอง” ลูกตอบว่า “เพื่อนไม่กล้า” แม่บอกว่า ทำมั้ยเขาต้องตีหนู

เมื่อเช้าวันที่ 17 มีนาคม กล้องวงจรปิดของวัดศรีมงคลเหนือ ตำบลมุกดาหาร อำเภอเมืองมุกดาหาร จังหวัดมุกดาหาร สามารถจับพฤติกรรมของชายอายุประมาณ 40 ปี เดินเข้ามาภายในบริเวณศาลาหน้ากุฏิเจ้าอาวาส แล้วเห็นว่าไม่มีคนอยู่จึงทำการอุ้มเอาพระพุทธรูปทองสัมฤทธิ์ที่ตั้งไว้บริเวณตู้กระจกขึ้นรถจักรยานยนต์ขับขี่ออกจากวัดไป ต่อมาพระครูวิมลธรรมปคุณ ( เจ้าอธิการอุทิศ อาสโก) เจ้าอาวาส กลับมาจากการบิณฑบาต สังเกตเห็นว่าพระพุทธรูปหายไป จึงได้เปิดกล้องวงจรปิดตรวจสอบพบผู้ต้องสงสัยเป็นชายสวมกางเกงขายาวสีกรมหรือดำ ใส่รองเท้าสวม ใส่เสื้อแขนยาว สีขาวปล่อยชาย สวมหมวกสะพายกระเป๋าสีดำไว้ข้างหน้า ขับขี่รถจักรยานยนต์ อฮนด้าเวฟ สีแดง ทะเบียน กจพ 4 ชื่อจังหวัดไม่ชัดเจน ขับขี่รถจักรยานยนต์ออกจากวัดไป จึงได้ให้นายชินภัทร วริยาศกร ลูกศิษย์วัดเข้าแจ้งความ ต่อ ร.ต.อ. ศุภชัย บุญที ตำแหน่ง รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองมุกดาหาร ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองมุกดาหารได้แกะรอยจากรถจักยานยนต์ที่คนร้ายใช้และไล่ตรวจสอบกล้องตามเส้นทาง ในที่สุดสามารถตามควบคุมตัวชายคนดังกล่าวไว้ได้ และได้นำมาไว้ที่วัดศรีมงคลเหนือ พร้อมกับพระพุทธรูปที่อุ้มไป เมื่อทางเจ้าอาวาสได้พูดคุยสอบถาม พบว่ามีลักษณะอาการคล้ายคนสติไม่สมประกอบจึงได้อโหสิกรรม ไม่ติดใจที่จะดำเนินคดีกับชายคนดังกล่าว อีกต่อไป และมอบพระพุทธรูปคืนให้แก่วัดเหมือนเดิม

นครพนม – สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดนครพนม (ตม.จว.นครพนม) ร่วมกับหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ เดินหน้าปราบปรามการลักลอบนำเข้าสินค้าผิดกฎหมายอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดตรวจยึดบุหรี่ต่างประเทศลักลอบนำเข้ากว่า 41 คอตตอน ที่จุดผ่อนปรนการค้า อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2568 เวลาประมาณ 08.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ ตม.จว.นครพนม ร่วมกับหน่วยงานความมั่นคง ได้เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบการนำเข้าสินค้าบริเวณจุดผ่อนปรนการค้า อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม ขณะปฏิบัติหน้าที่ เจ้าหน้าที่พบตะกร้าสินค้าต้องสงสัยวางทิ้งไว้ริมแม่น้ำโขง เมื่อตรวจสอบพบว่าเป็นบุหรี่ต่างประเทศลักลอบนำเข้า จำนวน 41 คอตตอน ประกอบด้วย บุหรี่ยี่ห้อ JN RED จำนวน 25 คอตตอน, บุหรี่ยี่ห้อ JN GREEN จำนวน 15 คอตตอน และบุหรี่ยี่ห้อ JN BLUE จำนวน 1 คอตตอน เนื่องจากไม่มีผู้ใดแสดงตัวเป็นเจ้าของสินค้า เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการตรวจยึดบุหรี่ทั้งหมด และนำส่ง สภ.ท่าอุเทน เพื่อสืบสวนหาผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

นครพนม – สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดนครพนม (ตม.จว.นครพนม) ยังคงเข้มงวดกวดขันการเดินทางเข้า-ออกราชอาณาจักรของคนต่างด้าวอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2568 เวลาประมาณ 10.00 น. เจ้าหน้าที่ได้จับกุม นายทัด สะดา ชาวลาว ที่จุดตรวจสะพานมิตรภาพแห่งที่ 3 ต.อาจสามารถ อ.เมือง จ.นครพนม การจับกุมครั้งนี้เป็นผลมาจากการปฏิบัติงานร่วมกันของชุดสืบสวนฯ และงานตรวจบุคคลและพาหนะ ที่ได้เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบการเดินทางเข้า-ออกราชอาณาจักร จนกระทั่งพบว่า นายทัด สะดา ได้อยู่ในราชอาณาจักรไทยเกินกว่ากำหนดอนุญาตถึง 52 วัน เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อกล่าวหา \”เป็นคนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรเกินกว่ากำหนดอนุญาต\” และนำตัวส่ง สภ.เมืองนครพนม เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป พ.ต.อ.ภัทรพงศ์ อินวรรณา ผกก.ตม.จว.นครพนม กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้เป็นการแสดงให้เห็นถึงความเข้มงวดในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ ตม.จว.นครพนม ที่พร้อมจะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยและความมั่นคงของประเทศ \”ขอเตือนไปยังคนต่างด้าวที่อยู่ในราชอาณาจักรไทย ให้ปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด อย่าคิดที่จะอยู่เกินกำหนดอนุญาต เพราะเจ้าหน้าที่ของเราจะตรวจสอบอย่างเข้มงวด และหากพบการกระทำผิด จะถูกจับกุมดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างแน่นอน\” พ.ต.อ.ภัทรพงศ์ กล่าว ทั้งนี้ สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดนครพนม ขอความร่วมมือจากประชาชน หากพบเห็นการกระทำผิดกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับคนต่างด้าว