ทวี อภิสกุลชาติ

นครพนม – วันที่ 23 เมษายน 2568 ศูนย์ฝึกทักษะวิชาชีพ มณฑลทหารบกที่ 210 (มทบ.210) ดำเนินโครงการฝึกอบรมวิชาชีพแก่ทหารกองประจำการที่จะปลดประจำการ โดยนำทหารจำนวน 25 นาย เข้ารับการฝึกอบรมในหลักสูตร สาขาช่างไฟฟ้าภายในอาคาร ณ สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 41 นครพนม การฝึกอบรมในครั้งนี้มุ่งเน้นทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ โดยในวันนี้ (23 เม.ย.) ทหารกองประจำการได้ฝึกทักษะจริงในการ เดินสายไฟและติดตั้งอุปกรณ์ไฟฟ้าภายในอาคาร โดยมีวิทยากรผู้เชี่ยวชาญจากสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 41 นครพนม เป็นผู้ถ่ายทอดความรู้และให้คำแนะนำอย่างใกล้ชิด โครงการดังกล่าวจัดขึ้นเพื่อเปิดโอกาสให้ทหารที่กำลังจะปลดประจำการได้เรียนรู้ทักษะอาชีพ เพื่อนำไปใช้ในการประกอบอาชีพอิสระ สร้างรายได้หลังพ้นจากราชการ และยกระดับคุณภาพชีวิตของกำลังพลและครอบครัว นอกจากบทบาทด้านความมั่นคงแล้ว ทหารกองประจำการยังเป็นกำลังสำคัญในการช่วยเหลือประชาชนในยามเกิดภัยพิบัติและภารกิจด้านอื่น ๆ ดังนั้นการเสริมสร้างทักษะอาชีพจึงถือเป็นอีกหนึ่งแนวทางในการพัฒนากำลังพลอย่างยั่งยืน

วันที่ 22 เมษายน 2568 นายวรวิทย์ พิมพนิตย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เป็นประธานเปิดโครงการสานสัมพันธ์ น้อง-พี่ เสริมพลังต้านยาเสพติด รุ่นที่ 4 โดยมี นายณัฐภูมิ อยู่ชัง ผู้อำนวยการสำนักงานคุมประพฤติจังหวัดนครพนม นายแพทย์ปรีดา วรหาร นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครพนม นายฉลาด อ่อนหัวโทน ผู้บัญชาการเรือนจำกลางนครพนม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมกิจกรรมฯ ที่โรงแรมพักพิงอิงโขง ต.อาจสามารถ อ.เมืองนครพนม จ.นครพนม การจัดโครงการครั้งนี้ สำนักงานคุมประพฤติจังหวัดนครพนม ได้รับการจัดสรรงบประมาณจากกรมคุมประพฤติ กระทรวงยุติธรรม ในการจัดโครงการทั้งสิ้น จำนวน 8 รุ่นกำหนดกลุ่มเป้าหมายเป็นผู้ถูกคุมความประพฤติที่มีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติด เข้าร่วมกิจกรรม รุ่นละ 40 คน รวม 320 คน และได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานภาคส่วนราชการต่าง ๆ เช่น แรงงานจังหวัดนครพนม จัดหางานจังหวัดนครพนม ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรนครพนม สาธารณสุขจังหวัดนครพนม สภาอุตสาหกรรม จังหวัดนครพนม เครือข่ายภาคเอกชนและภาคประชาชน ในการมาเป็นวิทยากรให้ความรู้แก่ผู้เข้าร่วมโครงการ นายณัฐภูมิ อยู่ชัง

วันที่ 21 เมษายน 2568 เวลา 10.00 น. ณ วัดม่วงไข่ บ้านนาผือ ตำบลคำพี้ อำเภอนาแก จังหวัดนครพนม ได้เกิดภาพแห่งความร่วมมือและความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่อันน่าประทับใจ เมื่อนายสามารถ อ่อนสองชั้น ปศุสัตว์จังหวัดนครพนม นำทีมกลุ่มส่งเสริมและพัฒนาการปศุสัตว์และสำนักงานปศุสัตว์อำเภอนาแก จัดพิธีอันเป็นมงคล \”ไถ่ชีวิตกระบือ\” ควบคู่ไปกับการส่งมอบกระบือภายใต้ \”โครงการธนาคารโค-กระบือเพื่อเกษตรกร ตามพระราชดำริ\” ให้แก่เกษตรกรในพื้นที่อำเภอนาแก พิธีสำคัญนี้ได้รับเกียรติจากนายชูกัน กุลวงษา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดนครพนม เขต 4 เป็นประธาน พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการระดับอำเภอ และปศุสัตว์อำเภอในโซนใต้ของจังหวัดนครพนมเข้าร่วมเป็นสักขีพยานในการส่งมอบโอกาสและสร้างความหวังให้กับเกษตรกร นายสามารถ อ่อนสองชั้น ปศุสัตว์จังหวัดนครพนม ได้กล่าวรายงานถึงความสำคัญของโครงการฯ ว่าเป็นการน้อมนำแนวพระราชดำริมาปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้ยากไร้ให้มีโอกาสเป็นเจ้าของโค-กระบือ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการประกอบอาชีพเกษตรกรรม อันจะนำไปสู่การพัฒนาคุณภาพชีวิตและความมั่นคงทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน การไถ่ชีวิตกระบือในครั้งนี้ยังเป็นการแสดงออกถึงความเมตตาและส่งเสริมคุณธรรมในสังคมอีกด้วย บรรยากาศภายในงานเต็มไปด้วยความอบอุ่นและรอยยิ้มของเกษตรกรผู้ได้รับมอบกระบือ ซึ่งต่างรู้สึกซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณและขอบคุณทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องที่ได้มอบโอกาสอันล้ำค่านี้ให้แก่พวกเขา โครงการธนาคารโค-กระบือเพื่อเกษตรกร ตามพระราชดำริ นับเป็นอีกหนึ่งโครงการสำคัญที่แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของกรมปศุสัตว์และจังหวัดนครพนมในการพัฒนาภาคการเกษตรและยกระดับชีวิตของเกษตรกรอย่างแท้จริง ด้วยหัวใจที่ \”ทำด้วยใจ ทำให้ไว ทำได้จริง\” ครอบครัวปศุสัตว์จังหวัดนครพนมจึงเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนนโยบายและสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชนเกษตรในพื้นที่ต่อไป  

เมื่อวันที่ 21 เมษายน ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดมุกดาหารว่าสืบเนื่องจากได้เกิดพายุฤดูร้อน ฝนตกและลมกระโชกแรงอย่างมากในพื้นที่อำเภอเมืองมุกดาหาร จังหวัดมุกดาหาร โดยเฉพาะเขตเทศบาลเมืองมุกดาหาร และมีเสาไฟฟ้าของแขวงทางหลวงมุกดาหารหักล้มกลางถนนที่บริเวณโค้งพันล้าน ถนนชยางกูร ตำบลมุกดาหาร เมื่อวันที่ 20 เมษายน ที่ผ่านมา ปรากฏว่าเมื่อไปดูสภาพเสาไฟฟ้าที่หักล้มพบว่าการก่อสร้างฐานตั้งเสามีเพียงเหล็กยึดน๊อตสั้นๆ 4 ตัว สภาพถูกสนิมกัดกร่อน จนถูกประชาชนวิพากษ์วิจารณ์ว่าการก่อสร้างไม่น่าจะได้มาตรฐาน และไม่มีความมั่นคงแข็งแรง และเสาไฟฟ้าต้นอื่นๆ ที่ก่อสร้างในลักษณะเดียวกันก็อาจจะเกิดการหักโค่นได้ทุกเวลาเช่นกัน ซึ่งเป็นงานก่อสร้างที่ไม่ปลอดภัยอันอาจจะก่อให้เกิดอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินของผู้ขับขี่รถยนต์ที่ใช้ถนนดังกล่าวสัญจรไปมา จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบงานก่อสร้างดังกล่าวว่ามีการควบคุมงานและตรวจรับงานอย่างถูกต้องหรือไม่ โดยเร่งด่วนต่อไปด้วย