กรรมกรข่าว(ตัวจริง)​ในอุตสาหกรรมสื่อที่ไม่ได้จำกัดเพียง\”นักข่าว\”

          กรรมกรข่าว เปราะบาง สภาพจ้างงานยืดหยุ่นไม่อิสระจริง หากแต่ทำให้ ไร้อำนาจการรวมกลุ่มเจรจาต่อรอง

          โจทย์หนึ่งที่ กรรมกรข่าว (ตัวจริง) ในอุตสาหกรรมสื่อ ที่ไม่ได้จำกัดเพียงนักข่าว แต่รวมทั้งช่างภาพ คนขับรถ กราฟิก โปรดิวเซอร์ รีไรท์เตอร์ ฯลฯ ต้องทำงานหนัก ไม่เป็นเวลา และแน่นอนกระทบสุขภาพกาย/ใจ คือ อำนาจต่อรองของคนเหล่านี้มีน้อย และจะน้อยมากลงไปเรื่อยๆ

          1. รูปแบบการจ้างงานที่ยืดหยุ่น

              เรามีการจ้างงานหลากหลายมาก หลายคนอาจมองบวก แต่หากดูลึกลงไปมันคือมันแยกย่อยสภาพการจ้างงาน จนถึงความสามารถในการรวมตัวต่อรองของคนงานในอุตสาหกรรมนี้ เกิดมีคนงานประจำเรียกร้องอะไร ก็จ่ายงานให้ฟรีแลนช์ หรือเฮาท์โปรดักซ์ชั่นที่รับรายชิ้น ส่วนรูปแบบการจ้าง 2 อย่างหลังไม่ต้องพูดถึงต่อรองไม่ได้ บริษัทไม่คุ้มครองนอกจากค่าจ้างรายชิ้น ความอิสระอาจไม่ใช่อิสระที่แท้จริงเพราะสภาพคือไร้การรวมกลุ่มและอำนาจต่อรอง

              ความหลากหลายนี้แม้แต่องค์กรที่น่าจะเป็นต้นแบบของสื่ออย่างไทยพีบีเอสป็มีการจ้างงานที่หลากหลายมากไม่ว่าจะ สัญญารายปี (อันนี้แย่มาก เครดิตเวลาไปกู้เงินก็ถูกตีอายุงานไม่เกิน 1 ปี ดังนั้นวงเงินก็นอกจากได้น้อยแล้ว ดอกเบี้ยก็โหดด้วย) หรือสวัสดิการรหัส P หรือลูกจ้างโครงการรวมไปถึงพนักงานพัสดุ เป็นต้น แถมไม่สามารถใช้ พ.ร.บ.แรงงานสัมพันธ์ เข้ามาคุ้มครองหรืออำนวยการจัดตั้งสหภาพแรงงานและการเจรจาต่อรองได้อีก อาจต้องแก้ไขให้องค์กรที่มีเป้าหมายสาธารณะประโยชน์สามารถใช้สิทธิตาม พ.ร.บ.แรงงานสัมพันธ์ได้

          2. อัตรารวมกลุ่มเจรจาต่อรองน้อยมาก

              จริงอยู่เรามีสหภาพแรงงานกลางสื่อมวลชนไทย แต่น้อยคนที่จะเป็นสมาชิก ไปจนถึงอัตราดารต่อรองของคนงานสื่อในแต่ละบริษัทนั้นน้อยมาก อยากเชิญชวนให้ทุกท่านเข้าไปสมัครสมาชิกสหภาพแรงงานกลางสื่อมวลชนไทย ผมสนับสนุนให้มีสหภาพเดียวในอุตสาหกรรมนี้ เมื่อเกิดการต่อรองจะได้มีพลังและสามารถยกระดับกันเป็นแผง ช่วยเหลือทรัพยากรต่างๆ กันได้

              จริงอยู่แม้มีสมาคมสื่อฯ แต่การรวมกลุ่มก็มีทั้งระดับผู้บริหารกับคนงานสื่อ ทำให้โอกาสการสร้างอำนาจเจรจาต่อรองสภาพการจ้างงานอาจไม่ได้เท่าองค์กรลักษณะสหภาพแรงงาน

          3. \’สื่อ\’ ในรัฐธรรมนูญ 60 ที่แย่ลงมาก

              จากที่มาดูรัฐธรรมนูญ ในประเด็นสื่อมวลชนและเสรีภาพในการเสนอข่าวสาร เลยลองเอามาแชร์

              3.1. รัฐธรรมนูญ 60 ไม่มีสิ่งที่บัญญัติคุ้มครอง ลูกจ้าง คนทำงานข่าวโดย \”ไม่ตกอยู่ภายใต้อาณัติ\” ของรัฐ หรือเจ้าของกิจการ

              รัฐธรรมนูญ 40 ม.41 ส่วนรัฐธรรมนูญ 50 ม.46 ระบุว่า พนง.หรือลูกจ้างของเอกชนที่ประกอบกิจการหนังสือพิมพ์ วิทยุ โทรทัศน์ มีเสรีภาพในการเสนอข่าวและแสดงความเห็นภายใต้ รธน. โดยไม่ตกอยู่ภายใต้อาณัติของหน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ หรือเจ้าของกิจการนั้น

              3.2 ของปี 50 ระบุไปถึง \’การจัดตั้งองค์กร\’ เพื่อปกป้องสิทธิ เสรีภาพและความเป็นธรรม รวมทั้งมีกลไกการคุ้มครองกันเองขององค์กรวิชาชีพ ส่วนของปี 60 ไม่มี หรืออยู่ตรงไหนวานช่วยบอกหน่อย

ที่มา : เทวฤทธิ์​ มณีฉาย