คุณเคยสงสัยไหมว่าเขื่อนขนาดใหญ่ที่กักเก็บน้ำและผลิตกระแสไฟฟ้าให้เราใช้นั้น มีความปลอดภัยแค่ไหน ในวันที่เกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติอย่างแผ่นดินไหว เราจะมั่นใจได้อย่างไรว่าเขื่อนจะยังคงแข็งแรงและทำหน้าที่ของมันต่อไปได้
เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องที่ควรมองข้าม เพราะความปลอดภัยของเขื่อนมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ตระหนักถึงความสำคัญนี้มาโดยตลอด และได้ทุ่มเททรัพยากรและความเชี่ยวชาญอย่างเต็มที่ในการดูแลเขื่อนทุกแห่งให้มีความมั่นคงปลอดภัยสูงสุด
จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวสู่มาตรการความปลอดภัยเขื่อน
ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2568 เหตุการณ์แผ่นดินไหวขนาด 8.2 ที่ประเทศเมียนมา ซึ่งส่งผลกระทบต่อประเทศไทยเป็นวงกว้าง ทำให้ประชาชนได้ตระหนักถึงความสำคัญของการเตรียมพร้อมรับมือกับภัยพิบัติทางธรรมชาติมากยิ่งขึ้น หลังจากเกิดเหตุแผ่นดินไหวดังกล่าว เจ้าหน้าที่เขื่อน กฟผ. ได้เร่งเข้าดำเนินการตรวจสอบเขื่อนทุกเขื่อนด้วยสายตาโดยทันที จากผลการตรวจสอบพบว่า ไม่มีเขื่อนใดได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหวในครั้งนี้ ทุกเขื่อนยังคงมีความมั่นคงปลอดภัย สามารถใช้งานได้ตามวัตถุประสงค์อย่างมีประสิทธิภาพ
การดูแลความปลอดภัยเขื่อนของ กฟผ.
กฟผ. ดำเนินมาตรการด้านความปลอดภัยเขื่อน ตามมาตรฐานสากลของ The International Commission on Large Dams (ICOLD) และ US Bureau of Reclamation (USBR) อย่างครอบคลุมทุกขั้นตอน เพื่อรองรับการเกิดเหตุแผ่นดินไหว เริ่มตั้งแต่ขั้นตอนการออกแบบ การก่อสร้างเขื่อน การใช้งานเขื่อน และการบำรุงรักษา มีการตรวจสอบและเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งมีแผนปฏิบัติการในสถานการณ์ฉุกเฉินด้วย นอกจากนี้เขื่อน กฟผ. ยังได้รับการวิเคราะห์ความมั่นคงเขื่อนต่อแรงกระทำแผ่นดินไหว ตามองค์ความรู้ในปัจจุบัน พบว่าทุกเขื่อนที่อยู่ในเขตแผ่นดินไหวยังสามารถรับแรงกระทำจากแผ่นดินไหวที่เกิดจากรอยเลื่อนที่อยู่ใกล้เคียงได้โดยไม่ทำให้เขื่อนเกิดการพิบัติจนน้ำล้นข้ามสันเขื่อน
เทคโนโลยีล้ำสมัยเพื่อความปลอดภัยที่เหนือกว่า
กฟผ. ยังได้นำเทคโนโลยี Dam Safety Remote Monitoring System (DS-RMS) มาใช้ในการตรวจจับปัจจัยที่มีผลต่อความมั่นคงของเขื่อน DS-RMS เป็นระบบที่ กฟผ. ร่วมกับศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (NECTEC) พัฒนาขึ้น โดยนำเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารมาบูรณาการเข้ากับเครื่องมือตรวจวัดพฤติกรรมเขื่อน ทำให้สามารถติดตามสถานะของเขื่อนได้อย่างใกล้ชิดและแม่นยำ
ระบบนี้สามารถสื่อสารข้อมูลจากเครื่องมือวัดต่าง ๆ แบบอัตโนมัติ ทั้งเครื่องมือวัดพฤติกรรมเขื่อน เครื่องมือวัดแผ่นดินไหว และเครื่องมือด้านน้ำหลาก ไปยังระบบคอมพิวเตอร์แม่ข่าย จากนั้นระบบจะประมวลผลข้อมูลและแจ้งเตือนสถานะความปลอดภัยของเขื่อนผ่านทาง Web Application และ SMS ทำให้เจ้าหน้าที่สามารถรับรู้ข้อมูลและแก้ไขปัญหาได้อย่างทันท่วงที รวมทั้งสามารถแจ้งเตือนประชาชนผ่านทาง Application EGAT ONE ในโทรศัพท์มือถือได้ ทำให้สามารถลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติลงได้มาก
ความมุ่งมั่นเพื่อความปลอดภัยของทุกคน
กฟผ. ไม่ได้มองว่าการดูแลเขื่อนเป็นเพียงหน้าที่ แต่เป็นความรับผิดชอบต่อสังคมและประเทศชาติ เรามุ่งมั่นที่จะพัฒนาการดำเนินงานด้านความปลอดภัยเขื่อนอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เขื่อน กฟผ. มีความมั่นคงปลอดภัย และเพื่อให้ประชาชนชาวไทยมั่นใจได้ว่า กฟผ. มีความพร้อมรับมือกับทุกสถานการณ์
บทความ : ฝ่ายบำรุงรักษาโยธา