[กมธ.ลงพื้นที่หารือกับหน่วยงานเพื่อรับฟังปัญหาการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์]
ในการลงพื้นที่หารือกันวันนี้ร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ผมคิดว่าได้ข้อมูลที่ดีมาก ผมเห็นว่าเราควรดำเนินการทั้ง 2 ขั้นตอน คือ
การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ซึ่งต้องบอกว่าพื้นที่ทำดีแล้วในการควบคุมและปราบปราม แต่ต้องยอมรับว่ามีจุดอ่อนทั้งในเชิงนโยบายและกฎหมาย รวมถึงการขนส่งสิ่งของบางอย่างที่สามารถเอาไปใช้ได้ในแก๊งคอลเซนเตอร์ได้ ไม่ว่าจะเป็นโซล่าเซลล์หรือสตาร์ลิงก์ก็ยังมีการพยายามนำเข้าไปยังฝั่งเมียนมา แต่ก็ต้องชื่นชมว่าหน่วยปฏิบัติมีความพยายามที่จะป้องกันและปราบปรามอย่างเข้มงวด
การแก้ปัญหาระยะยาว วันนี้เราพูดอย่างตรงไปตรงมาว่านอกจากการสั่งการแล้ว ยังควรต้องสนับสนุนในเรื่องของงบประมาณและกำลังพล รวมถึงเทคโนโลยีที่จะต้องเข้ามาใช้ในการทำงาน ซึ่งได้ฝากหน่วยงานทบทวนและเสนอแผนเข้ามาเพื่อให้ทาง กมธ. ได้ทำการศึกษาอย่างรอบด้าน
ในวันนี้ทาง กมธ. ได้โดยสารด้วยเครื่องบินซึ่งก็เจอ หลิว จงอี ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงความมั่นคงสาธารณะแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน และคณะทำงาน แต่นอกจากนี้ เราก็ยังเจอคนที่ไม่เกี่ยวข้องเดินทางเข้ามา ซึ่งก็สอดคล้องกับตัวเลขของทางทหาร และก็ต้องยอมรับว่าในการที่คนต่างชาติเข้ามา ซึ่งหากเขาประสงค์เข้ามาเป็นแก็งคอลเซนเตอร์หรืออาจมีการถูกหลอกนั้น การที่หน่วยทหารจะไปจับเขามันทำไม่ได้ เราจึงต้องมีการทบทวนในเรื่องของฟรีวีซ่า ซึ่งพื้นที่นี้เป็นพื้นที่ชายแดน วันนี้ผมจึงคิดว่า เราอาจจะต้องมีมาตรการขออนุญาตเพื่อที่จะเข้ามาตรงนี้ซึ่งและมองว่าอาจจะต้องมีการทบทวนฟรีวีซ่า อยากน้อยให้มีการแจ้งข้อมูลของคนที่เข้ามาในพื้นที่
[ประชุมหารือกับทุกภาคส่วนและลงพื้นที่สำรวจท่าข้าม]
วันนี้เราได้หารือเรื่องท่าข้าม ซึ่งเป็นการการติดตามผลจากที่การประชุม กมธ. ร่วมกันครั้งก่อนที่กรุงเทพฯ ซึ่งเราประชุมกันเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูบของท่าข้ามที่อาจมีความน่าสงสัยว่าเกี่ยวข้องกับแก๊งคอลเซนเตอร์ เนื่องจากแม่สอดมีท่าข้ามเพราะค่อนข้างจะเยอะประมาณ 59 ท่า ซึ่งแต่ละท่าก็เปิดมานานและยังไม่มีกำหนดปิด ทั้งนี้ ต้องขอบคุณท่านผู้ว่าราชการจังหวัด ซึ่งท่านผู้ว่าฯก็พึ่งมารับตำแหน่งก็มีความพยายามที่จะดำเนินการให้เป็นเอกภาพและมีมาตรการเพื่อไม่ให้ทรัพยากรของประเทศไทยถูกใช้เป็นแหล่งทรัพยากรของแก็งคอลเซนเตอร์
นอกจากนี้ ส่วนหนึ่งก็มารับฟังภาคเอกชนด้วย ซึ่งก็ต้องยอมรับฟังว่าคอลเซ็นเตอร์นั้นมีมานาน ซึ่งเราไม่มีเคยมาตรการป้องกัน ทำให้คอลเซ็นเตอร์ขยายใหญ่โตและเมื่อมาดำเนินการตอนนี้ก็เป็นบทเรียนที่สำคัญว่ามันได้ทิ้งเอาไว้ความเสียหายจนกลายเป็นเรื่องใหญ่โตเพราะ ฉะนั้นวันนี้เราต้องพยายามพูดคุยกันต่อไป
ในส่วนของการลงพื้นที่ท่าข้าม ต้องเรียนตามตรงว่า ที่ผ่านมาผมได้รับแจ้งจากภาคประชาสังคมเกี่ยวกับปัญหาของท่าข้ามมาพอสมควร ซึ่งมีข้อมูลว่ามีการลักลอบใช้ท่าข้ามหลัง 6 โมงเย็นและอาจมีการแอบส่งน้ำมันซึ่งเป็นสิ่งที่น่าเป็นห่วงต่อไป และวันนี้ ทาง สมช. ก็ได้มาร่วมลงพื้นที่เพื่อรับฟังข้อมูลกับเราด้วย เพื่อนำข้อมูลไปพิจารณาต่อไป
[การดำเนินการออกหมายจับตัวการสำคัญ]
วันนี้ผมถือว่าหม่องชิตตู่เป็นเบอร์สำคัญ เพราะควบคุมพื้นที่เมียวดี อย่างเมืองชเวก๊กโกมีพื้นที่กว้างเป็นหมื่นไร่ เชื่อว่าตัวเลขของคนที่อาจเกี่ยวข้องกับแก๊งสแกมเมอร์ในชเวก๊กโกและเคเคปาร์คอาจถึงหลักแสนคน ดังนั้นถ้าเราเห็นข้อมูลว่ามีการส่งตัวคนหลักร้อยหลักพันอาจจะเป็นตัวเลขที่น้อยมาก และเราก็ได้ข้อมูลมาเพิ่มเติมว่ามันมีความพยายามหลบหนีจากชายแดนเข้าลึกไปเรื่อยๆ เช่นไปเมืองพะอาน ดังนั้น การร่วมมือกับเมียนมาอาจไม่เพียงพอ ต้องมีมิติอื่นๆ เพื่อจะปราบปรามเข้มข้นต่อไปด้วย
ส่วนข้อมูลจากทางการจีนมีรายชื่อนั้น ต้องยอมรับว่าข้อมูลมีความสำคัญในการปราบแก๊งคอลเซนเตอร์ แต่ก็ไม่สามารถปราบได้ทั้งหมด ตัวอย่างเช่น คีย์แมนสำคัญของเคเคปาร์ค นั่นคือ วันค๊กคอย เป็นมาเฟียระดับโลก เป็นที่ต้องการตัวของหลายประเทศ แต่ต้องยอมรับว่าการจะไปจับกุมเขาก็ไม่ใช่เรื่องง่าย หรือหม่องชิตตู่ ไม่ใช่แค่ให้พื้นที่เช่าแต่เป็นคนร่วมลงทุนในชเวก๊กโกด้วย ดังนั้นตนจึงบอกว่าเขาเป็นอาชญากรรายสำคัญที่เราต้องไปจัดการ และยังมีอีกหลายรายชื่อที่เราต้องปฏิบัติการนำไปสู่การถอนรากถอนโคนอย่างจริงจังให้ได้
[การคัดกรองเหยื่อที่ถูกหลอกไปทำงาน]
สำหรับบรรดาผู้ที่ถูกส่งตัวมายังประเทศไทย มีมากกว่าร้อยละ 90 ที่บอกว่าเป็นการเดินทางไปทำงานโดยสมัครใจ ซึ่งยังไม่อยากสรุป เพราะเราก็ได้ข้อมูลมาว่าบางส่วนได้รับการช่วยเหลือมาแล้ว แต่สุดท้ายตัดสินใจไม่ข้ามกลับมาไทย และไปร่วมกับกองกำลังชาติพันธุ์ แต่เราไม่มีทางรู้เลยเพราะมีปัญหาด้านการคัดกรองในเชิงคุณภาพและประสิทธิภาพ มีข้อจำกัดเรื่องภาษา เพราะเพียงแค่ภาษาอังกฤษกับจีนยังไม่พอ ต้องมีภาษาอื่นๆ เข้ามาเพิ่ม ยังมีเรื่องข้อจำกัดสถานทูตที่บางประเทศไม่ได้ตั้งในประเทศไทย ซึ่งก็ทราบว่าทางกระทรวงต่างประเทศจะช่วยประสานและดำเนินการแก้ไขปัญหานี้ และยังมีข้อจำกัดทางด้านปริมาณว่าหากต้องส่งมาไทยหลักพันหลักหมื่น เราต้องการคนทำงานคัดกรองมากขนาดไหน นี่คือข้อจำกัด จึงยังไม่อยากสรุปว่าใครเกี่ยวข้องกับแก๊งคอลเซนเตอร์สัดส่วนเท่าใด ดังนั้นเราต้องมีประสิทธิภาพในการคัดกรอง จะได้ทราบที่มาที่ไปทั้งหมดว่าตัวการใหญ่คือใครบ้าง ก็จะสามารถปราบปรามได้อย่างมีประสิทธิภาพ
จากการลงพื้นที่วันนี้ เราเห็นแนวโน้มที่ดีขึ้น แต่ตัวชี้วัดในการแก้ปัญหายังสรุปไม่ได้ แต่สถานการณ์ที่เกิดขึ้นก็เป็นตัวบ่งชี้ว่าสถานภาพของพวกคอลเซนเตอร์มันอาจจะไม่เหมือนเดิม เริ่มมีการย้ายกองกำลังแสดงให้เห็นว่ามาตรการมีประสิทธิภาพ ซึ่งเราก็ต้องชื่นชมหน่วยปฏิบัติและเราก็เห็นความพยายามและประสิทธิภาพของหน่วยราชการมากขึ้น ซึ่งตรงนี้จะเป็นบทเรียนที่สำคัญเพื่อปราบปรามแก็งคอลเซนเตอร์และป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดขึ้นในอนาคตอีกต่อไป
ที่มา : Rangsiman Rome – รังสิมันต์ โรม