เชียงราย-ตายผ่อนส่งโดยไม่รู้ตัว หากไม่แก้ไขลูกหลานจะตามไป ผลกระทบทั้งร่างกายและห่วงโซ่อาหาร จะอยู่กันอย่างไง
วันที่ 28 พ.ค.2568 ที่บริเวณขัวศิปะ ต.บ้านดู่ อ.เมือง จ.เชียงราย เครือข่ายปกป้องแม่น้ำกก.แม่น้ำสาย แม่น้ำรวก แม่น้ำโขง ต้านไม่เอาเหมืองแร่ ในเมียนมาที่ปล่อยสารพิษสารปนเปื้อนไหลลงสู่แม่น้ำกก และแม่น้ำสาย แม่น้ำโขงทำลายระบบนิเวศทางน้ำ ห่างโซอาหารคนลุ่มแม่น้ำ กก.แม่น้ำสาย แม่น้ำรวก รวมไปถึงแม่น้ำโขงสายเลือดใหญ่ อีกทั้งสารที่ปนเปื้อนมากับน้ำ คนที่สัมผัสระยะยาว จะก่อเกิดเป็นมะเร็งในร่างกาย ซึ่งทั้งหมดเป็นสารพิษปล่อยลงสู่แม่น้ำ และล่าสุดนักวิชาการตั้งข้อสังเกตว่า ไม่เพียงแต่มีสารหนูสารโลหะต่าง ๆ พบว่าการเปิดหน้าดิน เหมือนเป็นการถลุงหาแร่แรร์เอิร์ท ซึ่งเป็นแร่ที่หายาก
ด้าน อาจารย์เตือนใจ ดีเทศน์ อดีตสมาชิกวุฒิสภา อดีตกรรมการสิทธิมนุษย์ชนแห่งชาติ ผู้ได้รับรางวาลสิ่งแวดล้อมโกล์ดแมนุษย์ ค.ศ. 1994 ได้เผยว่า ซึ่งน้ำท่วมเมื่อเดือนกันยายน 2567 ที่ผ่านมายังไม่มีใครทราบว่าน้ำโคลนมีสารปนเปื้อนที่มาจากเหมืองแร่ในพม่า กระทั่งต้นปีมา ทราบว่ามีสารหนูสารพิษไหลมากับน้ำท่วม และล่าสุดพบว่ามีแร่แรร์เอิร์ท กัมมันตภาพครังสี ทำลายล้างทุกอย่าง เกี่ยวกับร่างกาย และอาหารมนุษย์ ซึ่งถือได้ว่ากลุ่มทำเหมืองแร่ในพม่าเป็นอาชญากรของโลก อย่างเลือดเย็น ซึ่งส่งผลกระทบไปทั่ว ล่าสุดได้มีเกษตรกรสอบถาม จะใช้น้ำในแม่น้ำกก รดพืชการเกษตรได้ไหม ขณะที่รัฐบาลบอกห้ามสัมผัสน้ำโขง ทำให้ประชาชนสับสนในเรื่องใช้น้ำ ขณะเดียวกันหากผลระยาว อาจต้องเปลี่ยนทิศทางการใช้น้ำแหล่งอื่น
ด้าน ครูตี๋ รักษ์เชียงของปกป้องแม่น้ำโขง ได้เผยว่า ซึ่งขณะที่แม่น้ำได้รับสารปนเปื้อนจากสารหนู สารพิษเหล่านี้ ส่งผลกระทบแม่น้ำหลายสาย ร่วมไปถึงแม่น้ำโขง ซึ่งหากอนาคตปลาในแม่น้ำที่ได้สารปนเปื้อน จะติดเชื้อและรุกลามไปทั่ว ในวันข้างหน้าอาจจะรับมือไม่ได้ และจะติดเชื้อเป็นวงกว้างรุกล่ามไปทั่วซึ่งถือเป็นเรื่องใหญ่ รัฐบาลต้องให้ความสำคัญ ซึ่งทราบว่าปลาที่อยู่ในน้ำติดเชื้อ ซึ่งไม่ทราบว่าติดเชื้ออะไร ส่วนใหญ่เป็นปลาแค้ขนาดตัวเล็ก ซึ่งเริ่มทราบว่าปลาติดเชื้อเมื่อปี 2567 และทราบข้อมูลลเพิ่มมากขึ้นปลาติดเชื้อ 2568 มีมากขึ้น
ด้าน ดร.สืบสกุล กิจนุกร สำนักวิชานวตกรรมสังคม มฟล. ได้กล่าวว่า ตอนนี้ต้องเร่งออกมาต้านรณรงค์ไม่เอาเหมืองแร่ทองคำในพม่า ที่มาทำร้ายชีวิตและห่วงโซ่อาหารของพี่น้องที่ใช้แม่น้ำกก แม่น้ำสาย แม่น้ำรวก แม่น้ำโขง ซึ่งจะมีการจัดเดินขบวนในวันที่ 5 มิ.ย. ซึ่งตรงกับวันสิ่งแวดล้อมโลก เพื่อยื่นหนังสื่อให้ประเทศที่มีส่วนเกี่ยวข้อง และที่พลาดไม่ได้คือรัฐบาลจีน (พี่ใหญ่) ซึ่งเมือวานที่ผ่านมาทาง นายประเสริฐ จันทรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ประธานคณะอนุกรรมการการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาคุณภาพน้ำ ได้ลงพื้นที่มาทำงาน แต่ที่ขาดไปคือรัฐบาลไทยต้องไปคุยกับรัฐบ้านจีนพี่ใหญ่ที่ใครๆก็ต้องเกรงใจ อีกทั้งเหมืองแร่แรร์เอิร์ท เป็นเหมืองแร่ทุนจีน และส่งกลับจีน และนำมาผลิตสินค้าเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม แต่กลับมาส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมไทยด้วย ซึ่งทราบกันดีว่าตอนนี้ทุนจีนได้ไปถลุงแร่แรร์เอิร์ท ในรัฐกะฉิ่น สร้างความเดือดร้อนให้กับชาวรัฐกะฉิ่นในตอนนี้ ซึ่งอยากให้รัฐบาลมีความจริงจังเจรจามากกว่านี้ เพราะสารพิษไหลลงสู่แม่น้ำทุกวัน ไม่รอการเจรจาเหมือนที่ผ่านมา แต่ต้องมากกว่าเดิม โดยเฉพาะจีน ตามที่รัฐบาลมีแนวคิดจะสร้างฝ่าย ซึ่งประชาชนนักวิชาการมองไม่เห็นด้วย ถือว่าเป็นการแก้ไขปัญหาไม่จบ จะสิ้นเปลืองงบประมาณโดยไม่ใช้เหตุ และจะมีปัญหาตามมาอีก ว่าจะเอาตะกอนพิษไปทิ้งที่ไหน อีกทั้งรัฐบาลพูดถึงแต่เรื่องจะทำฝ่ายที่น้ำกก แต่ไม่พูดถึงแม่น้ำสาย แม่น้ำรวก แม่น้ำโขง มันคืออะไรดูแล้วไม่มีแผนชัดเจน อีกทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ห้ามกินปลาในน้ำ ห้ามใช้น้ำ นี้ก็ถือว่าในน้ำมีสารพิษขณะเดียวกัน ในวันที่ 5 มิ.ย.ทางขรัวศิลปะได้เตรียมปลาแค้ ทำจากไม้สัก เป็นการแสดงเชิงสัญญาลักษณ์ โดยจะให้ประชาชนมาร่วมระบายสีและเขียนข้อความฝากผ่านไปถึงผู้ใหญ่บ้านเมืองให้ทราบ พร้อมกับเดินขบวนไปยื่นหนังสือที่ศาลากลางจังหวัดเชียงราย