“สุริยะ”ลงพื้นที่ชาวชัยภูมิวอนเร่งแก้ความปลอดภัยทางถนนระหว่างก่อสร้าง!

ชัยภูมิ – ยังไม่มีความปลอดภัยที่ดีพอ! หลังชาวบ้านในพื้นที่เคยยื่นเรื่องถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเกิดปัญหาทำให้ชาวบ้านเกิดอุบัติเหตุได้รับบาดเจ็บเสียชีวิตมาแล้วหลายรายมาต่อเนื่องมานานกว่า 2 ปี จากปัญหาการดำเนินการโครงการก่อสร้างถนนเส้นทางคมนาคมในพื้นที่ – โครงสร้างพื้นฐานยังไม่มีความปลอดภัยระหว่างก่อสร้างที่ดีพอ!!

\"\"

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 24 พฤษภาคม 2568  นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม พร้อมด้วย ดร.มนพร เจริญศรีรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม และคณะ ลงพื้นที่จังหวัดชัยภูมิ เพื่อรับฟังข้อเสนอแนะเพื่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่ง ณ โรงเรียนคอนสารวิทยาคม อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ โดยมี นายอนันต์ นาคนิยม ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ พร้อมด้วยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(พรรคเพื่อไทย) ส.ส.ในพื้นที่ จ.ชัยภูมิ และ หัวหน้าส่วนราชการ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ตัวแทนประชาชนในพื้นที่ร่วมให้การต้อนรับ

ก่อนที่ทาง นายอนันต์ นาคนิยม ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ ได้กล่าวรายงานว่า จ.ชัยภูมิ มีปัญหาสำคัญด้านการคมนาคม คือ ระบบการขนส่งและโลจิสติกส์ ไม่เอื้อต่อการส่งเสริมกิจกรรมทางเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน และการท่องเที่ยว โดยเส้นทางโครงข่ายคมนาคมสายหลัก 5 สายทางปัจจุบันมีผิวจราจร 4 ช่องจราจรตลอดเส้นทางเพียง 1 สายทาง คือ ทางหลวงหมายเลข 201 เชื่อมต่อกับ อำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา และอำเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น

นอกจากนี้เส้นทางโครงข่ายคมนาคมสายรองที่เชื่อมโยงไปยังอำเภอขนาดใหญ่ และแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ ยังไม่ได้มาตรฐาน ซึ่งทุกภาคส่วนมีความเห็นร่วมกัน ขอรับการสนับสนุนการปรับปรุงและยกระดับมาตรฐานเส้นทางคมนาคม ทั้งถนนสายหลัก และสายรอง ในภารกิจของกรมทางหลวงและกรมทางหลวงชนบท จำนวน 34 สายทาง ระยะทางรวม 457.857 กิโลเมตร และถนนของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย จำนวน 2 สายทาง

ซึ่งนอกจากนี้ได้มีตัวแทนประชาชนในพื้นที่ นายอุทิศ พิมพลีชัย และพี่น้องประชาชนชาวอำเภอหนองบัวระเหว ที่เป็นผู้ใช้เส้นทางถนนได้ขอฝากสื่อมวลชนให้ทาง นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมในการช่วยเร่งกำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการแก้ไขปัญหาการก่อสร้างและความปลอดภัยทางถนนที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างในพื้นที่ จ.ชัยภูมิ ที่เกิดปัญหามาต่อเนื่องมานานกว่า 2 ปีแล้วในการดำเนินการก่อสร้างถนนสาย 225 “นครสวรรค์-ชัยภูมิ” ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างยังไม่แล้วเสร็จในขณะนี้ช่วงรอยต่ออำเภอบ้านเขว้า-อำเภอหนองบัวระเหว-อำเภอภักดีชุมพล จ.ชัยภูมิ

ที่ปัจจุบันตั้งแต่มีการดำเนินการก่อสร้างมาตั้งแต่ปี 2565 มาจนขณะนี้ปี 2568 ใช้เวลามานานกว่า 2 ปีแล้ว ในจุดเส้นทางหลวงแผ่นดิน หมายเลข 225 จากตัวเมืองชัยภูมิ ไปยัง อำเภอภักดีชุมพล เป็นประจำ และยังมีประชาชนเดินทางข้ามจังหวัด จากเพชรบูรณ์ และจังหวัดใกล้เคียงมายังจังหวัดชัยภูมิ ที่ยังเกิดปัญหาในการดำเนินการก่อสร้างโครงการดังกล่าวมาต่อเนื่องจนปัจจุบัน

\"\"

\"\"

\"\" \"\" \"\" \"\" \"\"

\"\"

\"\" \"\" \"\"

“ซึ่งในครั้งนี้ที่ทาง รมว.คมนาคม ที่ได้เดินทางมารับฟังปัญหาในพื้นที่ จ.ชัยภูมิ ที่ชาวชัยภูมิอยากฝากเรื่องไปถึงท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมที่เดินทามา จ.ชัยภูมิ เพื่อรับฟังปัญหาของประชาชนในพื้นที่ และฝากไปถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยกำกับดูแลงานความปลอดภัยทางถนนในการก่อสร้างถนนเส้น 225 ช่วง อ.หนองบัวระเหวไป อ. ภักดีชุมพล ของ จ.ชัยภูมิ ในปัจจุบัน

เนื่องจากเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้งมีผู้เสียชีวิตบาดเจ็บมาแล้วต่อเนื่องหลายรายนับครั้งไม่ถ้วน ซึ่งเรื่องนี้เคยร้องเรียนผู้ที่รับผิดชอบควบคุมก่อสร้างทางหลวงหมายเลข 225 (ทล.225 สายนครรสวรรค์-ชัยภูมิ) ตอน อ.หนองบัวระเหว-อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ ระหว่าง กม.221+135-กม.2+240-กม.236+755 ระยะทาง 12.455 กิโลเมตร (กม.) งบประมาณ 519,667,260 บาท ช่วยปรับปรุงเรื่องมาตรฐาน Road Safery ความปลอดภัยในงานก่อสร้างถนน ซึ่งมีปัญหาด้านป้ายสัญญาณเตือนความปลอดภัย แผงกันตก แบริออร์( Barrier) ไม่เพียงพอ

และ แสงไฟส่องทาง และสัญญาณเตือนเวลา กลางคืน ไม่เพียงพอ เป็นเหตุให้เกิดอุบัติเหตุ อยู่บ่อยครั้ง ตามภาพที่เคยมีสื่อช่องต่างๆ ได้ช่วยนำเสนอทำให้เกิดความเสียหายต่อชีวิต และทรัพย์สินของพี่น้องประชาชนในพื้นที่มาต่อเนื่อง ซึ่งล่าสุดเมื่อก่อนวันที่ รมต.คมนาคม จะเดินทางมาที่ จ.ชัยภูมิ เพียง 1 วัน เมื่อช่วงค่ำวันที่ 22 พ.ค.68 ที่ผ่านมา ก็มีเกิดอุบัติเหตุเส้นทางผ่านอำเภอหนองบัวระเหว จ.ชัยภูมิ ของโครงการดังกล่าว มีรถตกถนนได้รับความเสียหายและประชาชนได้รับบาดเจ็บครั้งล่าสุดมาแล้วอีกด้วย  และเกิดผลกระทบต่อผู้เดินทาง ผ่านถนนสายนี้ของ จ.ชัยภูมิ เนื่องจากงานก่อสร้างขยายถนนทำเป็นช่วงๆ -ผู้ใช้ทางไม่คุ้นชิน จะทำให้เกิดอุบัติเหตุตามมาตลอด และขอให้ทางโครงการ พิจารณาจุดกลับรถที่มีความปลอดภัย และสะดวกต่อการใช้ทางของประชาชน และพิจารณาเรื่องการตัดขาดทางสังคม เนื่องจากการขยายถนน ควรพิจารณา เพิ่มทางข้ามถนน ให้มีความปลอดภัย แก่ประชาชน นักเรียน และผู้สูงอายุ ให้ใช้งานได้สะดวก กว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบันด้วย

ซึ่งด้าน นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจฯ กล่าวว่า การตรวจราชการในพื้นที่จังหวัดชัยภูมิในครั้งนี้ เพื่อรับทราบปัญหาอุปสรรคการคมนาคมขนส่งในพื้นที่และรับฟังข้อเสนอแนะเพื่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานการคมนาคมขนส่ง ให้สามารถรองรับการขยายตัวของเมือง เขตชุมชน และการท่องเที่ยวของจังหวัดชัยภูมิ รวมทั้งเพื่อติดตามความพร้อม ของโครงการที่เสนอขอรับการสนับสนุนงบประมาณจากกระทรวงคมนาคม ในครั้งนี้มีโครงการสำคัญในความรับผิดชอบของกรมทางหลวง ประกอบด้วย

1.โครงการก่อสร้างทางหลวงหมายเลข 2159 ตอน ชัยภูมิ ถึงเกษตรสมบูรณ์ และตอน เกษตรสมบูรณ์ ถึง คอนสาร ปรับปรุงเป็นมาตรฐานทางชั้นพิเศษ ขยาย 4 ช่องจราจร ระยะทางรวมประมาณ 20 กิโลเมตรและมีงานปรับปรุงความปลอดภัยบริเวณทางแยกอันตราย จำนวน 3 แห่ง

2.งานขยายและปรับปรุงความปลอดภัยบริเวณทางแยกอันตรายทางหลวงหมายเลข 2037 ตอน ภูเขียว ถึง เกษตรสมบูรณ์ จังหวัดชัยภูมิ จำนวน 2 แห่ง

3.โครงการก่อสร้างทางหลวงหมายเลข 2484 สาย ทางเลี่ยงเมืองภูเขียวปรับปรุงเป็นมาตรฐานทางชั้นพิเศษ ขยาย 4 ช่องจราจร ระยะทางรวม ประมาณ 27 กิโลเมตร ในส่วนของการดำเนินการรับมอบถนนจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ที่มีความประสงค์จะส่งมอบให้กรมทางหลวงชนบท เพื่อพัฒนาเป็นโครงข่ายทางหลวงชนบทในพื้นที่จังหวัดชัยภูมิ จำนวน 34 สายทาง ระยะทางรวมประมาณ 457 กิโลเมตร ปัจจุบัน อยู่ในขั้นตอนการพิจารณาเกณฑ์ความเหมาะสมของคณะทำงาน ก่อนนำเสนอคณะกรรมการการกระจายอำนาจพิจารณาต่อไป

และสำหรับถนนสายทางเข้าเขื่อนจุฬาภรณ์ และถนนสายทางเข้าเขื่อนห้วยกุ่ม ในพื้นที่อำเภอคอนสาร ระยะทางรวมประมาณ 38 กิโลเมตรที่อยู่ในความรับผิดชอบของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยที่มีความประสงค์จะส่งมอบให้กรมทางหลวงชนบทไปพัฒนาเป็นโครงข่ายทางหลวงชนบท ปัจจุบันแขวงทางหลวงชนบทชัยภูมิ สำนักงานทางหลวงชนบทที่ 5 (นครราชสีมา) ได้เสนอขอบรรจุเป็นโครงข่ายทางหลวงชนบท เพื่อสำนักบำรุงทาง กรมทางหลวงชนบท พิจารณาในการรับมอบถนนทั้ง 2 สายทางแล้ว เพื่อดำเนินการต่อไป