ตามหา “เจ๊แก้ว”เจ้าของแผงทุเรียนตลาดดังสุราษฎร์ หายตัวปริศนาพร้อมทองคำใส่ติดตัว 20 บาท

สุราษฎร์ธานี-เจ้าหน้าที่เร่งตามหา “เจ๊แก้ว” เจ้าของแผงทุเรียน หายตัวพร้อมทองคำใส่ติดตัว 20 บาทเงินสด 1 แสน  ตลอดเส้นทางไม่มีวงจรปิด ส่วนกล้องเทศบาลกำลังปรับปรุงเอาสายไฟฟ้าลงดินและถอนเสาไฟฟ้าออกจากพื้นที่ จึงถอดระบบกล้องออกทั้งหมด พบมือถือ 2 เครื่องแบ็ตหมดอยู่ที่แผง สามีคาดหายตัวระหว่าง ขับ จยย.ไปหาของกินระหว่างรอรถมาส่งทุเรียน

จากกรณีที่ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสุราษฎร์ธานีได้รับแจ้งจากนายพงศ์พันธ์ (พงศ์) แซ่ตั้น อายุ 44  ปี สามี นางสุจิตรา (เจ๊แก้ว) กุลจันทร์ อายุ 43 ปี  เจ้าของแผงทุเรียนรายใหญ่ในตลาดโพธิ์หวาย เขตเทศบาลนครสุราษฎร์ธานี ว่า ได้หายตัวไปขณะขับรถจักรยานยนต์ออกจากแผงในตลาดโพธิ์หวาย เมื่อเวลาประมาณ 19.40 น.ของวันเสาร์ที่ 17 พ.ค.ที่ผ่านมา  ทางครอบครัวไม่สามารถติดต่อได้จนถึงปัจจุบัน

\"\"

ล่าสุดเช้าวันนี้ (19 พ.ค.68) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่แผงขายส่งทุเรียนในตลาดโพธิ์หวาย พบกับ นายพงศ์พันธ์ (พงศ์) แซ่ตั้น สามีเจ๊แก้ว โดยนายพงศ์ บอกว่า ขณะเกิดเหตุตนเดินทางไปซื้อทุเรียนที่จังหวัดจันทบุรี แต่ก็ติดต่อกับภรรยาตลอด ก่อนเกิดเหตุเวลาประมาณ 18.00 น.ภรรยาขับรถจักรยานยนต์ไปห้างบิ๊กซี เพื่อโอนเงินค่าซื้อทุเรียนจำนวนกว่า 2 แสนบาท จากนั้นก็ขับจักรยานยนต์กลับมาที่แผงเพื่อรอลูกค้าที่เดินทางมาจากจังหวัดพังงาเพื่อมาส่งทุเรียน 1 คันรถกระบะ

จนกระทั่ง ประมาณ เกือบ 2 ทุ่มตนได้รับโทรศัพท์จากลูกค้าว่าแผงปิด ภรรยาไม่อยู่ที่แผง ขอให้ตนติดต่อให้ ตนก็พยายามโทรศัพท์แต่ติดต่อไม่ได้  จึงให้ญาติของภรรยามาดูที่แผงเกรงว่าจะเกิดอันตรายกับภรรยา  แต่เมื่อญาติมาดูก็ไม่พบใคร ตนจึงรีบขับรถกลับจากจังหวัดจันทบุรี เมื่อมาถึงก็เข้าแจ้งความต่อตำรวจทันที

\"\"

นายพงศ์ยืนยันว่าเรื่องการหายตัวไม่ใช่เรื่องของชู้สาวแน่นอน แต่คาดว่าน่าคนร้ายน่าจะประสงค์ต่อทรัพย์สินที่ภรรยาใส่อยู่ และคาดว่าน่าจะเป็นการวางแผนไว้ก่อนหน้านี ตนคาดว่าขณะที่ภรรยานั่งรอลูกค้าอยู่ที่แผงที่ลูกค้าจะนำทุเรียนมาส่งในเวลา 19.30 น.แต่ก่อนลูกค้าจะมาถึงคาดว่าภรรยาน่าจะขับรถจักรยานยนต์ออกไปหาซื้อของกิน และอาจจะถูกคนร้ายประกบเอาตัวไป ในช่วงที่ขับรถไปหาของกิน ส่วนโทรศัพท์ทั้ง 2 เครื่องที่ในเบื้องต้นแจ้งว่าหายไปนั้น ต่อมาค้นพบอยู่ในร้านโดยทั้ง 2 เครื่องแบตเตอรี่หมด และในร้านยังพบเงินที่เตรียมไว้จ่ายค่าทุเรียนอีกหลายแสนบาท

ขณะนี้ยังไม่มีการติดต่อหรือทราบข่าวของภรรยาเลย ทุกคนในครอบครัวเป็นห่วงมาก วิงวอนทางตำรวจเร่งคลี่คลายและวอนชาวโซเซียลและประชาชนที่พบเบาะแสช่วยแจ้งทางตำรวจด้วย

ในขณะที่ชุดสืบสวน สภ.เมืองสุราษฎร์ธานียังคงไล่ตรวจกล้องวงจรปิดของเอกชนในบริเวณใกล้เคียง ส่วนกล้องวงจรปิดของเทศบาลนครสุราษฎร์ไม่สามารถตรวจดูได้เนื่องจาก ทางเทศบาลกำลังปรับปรุงเอาสายไฟฟ้าลงดินและถอนเสาไฟฟ้าออกจากพื้นที่ จึงถอดระบบกล้องออกทั้งหมด.

\"\"