ชมรมผู้ปกครองคนพิการ เดินหน้าโครงการเสริมพลัง สร้างเครือข่ายเข้มแข็งดูแลคนพิการฯและครอบครัว

เชียงราย-ชมรมผู้ปกครองคนพิการทางสติปัญญาเชียงราย เดินหน้าโครงการเสริมพลัง สร้างเครือข่ายเข้มแข็งดูแลคนพิการฯและครอบครัว

วันที่ 14 พ.ค.68 ที่โรงแรมเชียงราย แกรนด์รูม ชมรมผู้ปกครองคนพิการทางสติปัญญาจังหวัดเชียงราย จัดโครงการเสริมพลังศักยภาพ สร้างความเข้มแข็งครอบครัวคนพิการทางสติปัญญาจังหวัดเชียงราย ประจำปี 2568 โดยมีผู้ปกครอง/ผู้ดูแลคนพิการทางสติปัญญาและผู้พิการทางสติปัญญาในพื้นที่จังหวัดเชียงรายเข้าร่วมกิจการกว่า 100 คน

โดยในงานมีกิจกรรมให้ความรู้จากวิทยากรผู้เชี่ยวชาญในหัวข้อ สิทธิประโยชน์และกฎหมายเกี่ยวกับคนพิการ ,แนวทางการบริหารขอรับการช่วยเหลือและการบริหารงานกองทุนฟื้นฟูสมรรถภาพจังหวัดเชียงราย การดูแลและพัฒนาศักยภาพครอบครัวคนพิการ , การจ้างงานคนพิการตามมาตรา 33, 35 โดยวิทยากรผู้เชี่ยวชาญอาทิเช่น นายจรรคกริน ธรรมนุศิริกุล ฃผู้จัดการ Think Hub Group, นายสุชาติ โอวาทวรรณสกุล นายกสมาคมผู้ปกครองคนพิการทางสติปัญญาแห่งประเทศไทย , นายณัฐจักร์ ศรีแก้วเลิศ นักวิชาการแรงงานชำนาญการ ,นางสาวทิพวรรณ ไกลถิ่น อาจารย์จากศูนย์การศึกษาพิเศษจังหวัดเชียงราย และ ดร.ณฐมน แก้วพิทูล ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมและสนับสนุนนวัตกรรมเพื่อสังคม( Thank Hub)

นางสาวยุพิน ก้างยาง ประธานชมรมผู้ปกครองคนพิการทางสติปัญญาจังหวัดเชียงรายกล่าวว่า ชมรมฯได้ดำเนินงานกิจกรรมอย่างต่อเนื่องเข้าสู่ปีที่ 10 แล้ว เพื่อส่งเสริมศักยภาพของผู้ดูแลและคนพิการทางสติปัญญาในพื้นที่ โดยตั้งเป้าเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายใหม่ไม่น้อยกว่า 20 รายต่อปี ซึ่งจนถึงปัจจุบันมีสมาชิกทั้งหมด 194 คน

โดยทุกครั้งที่มีการจัดกิจกรรมเสริมสร้างความเข้มแข็ง สมาชิกชมรมมักเพิ่มขึ้นจากการแนะนำกันปากต่อปาก เนื่องจากผู้เข้าร่วมโครงการได้นำความรู้ไปเผยแพร่ต่อในชุมชน ส่งผลให้เกิดการสมัครสมาชิกใหม่อย่างต่อเนื่อง โครงการนี้จึงมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนการทำงานของชมรมอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น อีกทั้งช่วยให้ผู้พิการและผู้ดูแลได้รับสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ เช่น การปรับสภาพแวดล้อมที่อยู่อาศัย การเข้าถึงกองทุนการจ้างงานตามมาตรา 33 และ 35 รวมถึงการส่งเสริมอาชีพเพื่อเพิ่มรายได้

ชมรมฯยังเน้นการสร้างเครือข่ายที่เข้มแข็งผ่านการรวมกลุ่มและทำกิจกรรมร่วมกัน เพื่อให้เกิดความยั่งยืนในการดูแลและช่วยเหลือคนพิการ โดยหวังให้คนพิการสามารถเข้าถึงสิทธิที่พึงมีอย่างเท่าเทียม และพัฒนาศักยภาพตนเองได้อย่างเต็มที่ ทั้งจากภาครัฐและเอกชนในระยะยาว“ นางยุพิน ประธานชมรมฯ กล่าว