“สมาร์ทกริด” เสิร์ฟไฟฟ้าส่งมอบความมั่นคงและวิถีชีวิตใหม่สู่เมืองแม่ฮ่องสอน

           ‘แม่ฮ่องสอน’ เมืองที่เปี่ยมด้วยมนต์สเน่ห์ความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติที่รายล้อมด้วยภูเขาสลับซับซ้อน ลำธาร ต้นไม้ ทุ่งนาเขียวขจี และแหล่งวัฒนธรรมอันมีเอกลักษณ์ ทั้งกลุ่มชาติพันธุ์ไทใหญ่ และปกาเกอะญอ ทำให้แม่ฮ่องสอนกลายเป็นจุดหมายปลายทางในฝันของนักท่องเที่ยวทั่วโลก แต่ด้วยสภาพภูมิประเทศที่เป็นป่าเขานี้เอง ทำให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย หรือ กฟผ. ไม่สามารถก่อสร้างเสาส่งไฟฟ้าแรงสูงเพื่อส่งจ่ายไฟฟ้าได้ ทำให้เกิดปัญหาไฟตกไฟดับบ่อยครั้ง นำมาสู่การพัฒนา ‘โครงการนำร่องการพัฒนาสมาร์ทกริด’ หรือ ‘โครงการพัฒนาโครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะที่ตำบลผาบ่อง อำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน’ เพื่อสร้างความมั่นคงพลังงานให้กับเมืองแม่ฮ่องสอน พร้อมกับการเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของชุมชน ยกระดับคุณภาพชีวิต และขับเคลื่อนพัฒนาเมืองแม่ฮ่องสอนสู่เมืองท่องเที่ยวสีเขียวด้วยเทคโนโลยีพลังงานอัจฉริยะ จนได้รับ รางวัลรัฐวิสาหกิจดีเด่น ประจำปี 2567 ประเภท การดำเนินงานอย่างรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมดีเด่น มาอย่างสมภาคภูมิ

           ลบภาพจำ ‘ไฟตกไฟดับ’ ที่แม่ฮ่องสอน ด้วย ‘โครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะที่ตำบลผาบ่อง’

           ในช่วงฤดูฝนของ จ.แม่ฮ่องสอน มักมีฝนตกหนัก และมีต้นไม้ใหญ่หักโค่นล้มทับเสาส่งไฟฟ้าแรงสูงได้รับความเสียหาย ส่งผลให้พลังงานไฟฟ้าที่วิ่งผ่านมาตามสายจาก จ.เชียงใหม่ มุ่งตรงสู่แม่ฮ่องสอนดับขาดหายไป นี่คือภาพของภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนทำให้แม่ฮ่องสอนครองแชมป์จังหวัดที่ประสบปัญหาไฟตกไฟดับมากที่สุดในประเทศไทยมาโดยตลอด แม้พื้นที่แห่งนี้จะมีแหล่งผลิตไฟฟ้าในพื้นที่อย่างโรงไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนแม่สะงาของกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน ที่ผลิตไฟฟ้าได้เต็มที่ 4-6 เมกะวัตต์ เสริมด้วยโรงไฟฟ้าเซลแสงอาทิตย์ผาบ่อง ของ กฟผ. อีก 0.5 เมกะวัตต์ และโรงไฟฟ้าดีเซลผาบ่อง 4.4 เมกะวัตต์ ไว้เดินเครื่องยามเกิดเหตุฉุกเฉิน แต่ทว่าตัวเมืองของแม่ฮ่องสอนนั้นมีความต้องการใช้ไฟถึง 10-12 เมกะวัตต์ ซึ่งเรียกได้ว่าหากแหล่งผลิตไฟฟ้าไหนขาดหายไปก็สามารถเกิดไฟดับได้ทันที และนี่คือจุดเริ่มต้นสำคัญที่นำมาสู่การพัฒนาโครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะที่ตำบลผาบ่อง เพื่อขับเคลื่อนความมั่นคงพลังงาน ส่งเสริมการท่องเที่ยว พัฒนาคุณภาพชีวิตชุมชน โดยความร่วมมือของ กฟผ. จังหวัดแม่ฮ่องสอน กระทรวงพลังงาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันขับเคลื่อนการพัฒนาโครงการ ผ่านยุทธศาสตร์ 4 ด้าน คือ ‘SMART ENERGY’ ที่จะสร้างแหล่งไฟฟ้าสำรองเพื่อรักษาความมั่นคงระบบไฟฟ้าให้กับเมืองแม่ฮ่องสอน ในกรณีที่สายส่งไฟฟ้าจากเชียงใหม่เกิดปัญหาขัดข้องฉุกเฉิน ‘SMART SYSTEM’ พัฒนาระบบควบคุมและจัดการพลังงานไฟฟ้าเพื่อรองรับความต้องการใช้ไฟฟ้าของจังหวัด ‘SMART CITY’ ส่งเสริมการท่องเที่ยวสีเขียวด้วยเทคโนโลยีการจัดการพลังงานไฟฟ้าที่ทันสมัย และ ‘SMART LEARNING’ พัฒนาศูนย์การเรียนรู้ เพื่อเป็นท่องเที่ยวและแหล่งเรียนรู้ด้านพลังงาน

\"\"

           กฟผ. นำเทคโนโลยี “สมาร์ทกริด” เข้ามาบริหารจัดการแหล่งผลิตไฟฟ้าที่มีอยู่ในพื้นที่แม่ฮ่องสอน ให้สามารถผลิตและส่งจ่ายไฟฟ้าได้เมื่อเกิดเหตุขัดข้อง พร้อมติดตั้งแหล่งผลิตไฟฟ้า โซลาร์ฟาร์มเพิ่มเติม เพื่อผลิตไฟฟ้าสะอาดจากพลังงานแสงอาทิตย์ ขนาดกำลังผลิต 3 เมกะวัตต์ ที่มาพร้อมระบบกักเก็บพลังงาน (Battery Energy Storage Systems : BESS) ขนาด 4 เมกะวัตต์-ชั่วโมง มาช่วยจ่ายไฟพยุงระบบไฟฟ้าในเมืองแม่ฮ่องสอน ในช่วงที่โรงไฟฟ้าดีเซลผาบ่อง กฟผ. และโรงไฟฟ้าอื่นๆ ในพื้นที่แม่ฮ่องสอน ต้องเร่งเดินเครื่องผลิตไฟฟ้า เมื่อไฟฟ้าที่ส่งมาจากเชียงใหม่ขัดข้อง

           ‘จุดประกายแสงไฟ มอบความสุข ยกระดับคุณภาพชีวิต’

           ไม่ว่าจะเป็น เสาไฟส่องสว่างริมถนน เทศบาล ตลาด วัด โรงพยาบาล สถานีตำรวจ ที่ว่าการอำเภอ และเทศบาลเมืองแม่ฮ่องสอน กฟผ. ได้สำรวจและลงพื้นที่ติดตั้งแผงเซลล์แสงอาทิตย์บนหลังคา (Solar PV Rooftop) ขนาดกำลังผลิตรวม 200 กิโลวัตต์ ซึ่งไม่เพียงลดภาระของกำลังผลิตไฟฟ้าในระบบให้กับเมืองแม่ฮ่องสอน ลดภาระค่าใช้จ่ายให้กับหน่วยงานราชการ แสงไฟจากเสาไฟส่องสว่างและโซลาร์รูฟท็อปนี้ ยังเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้กับชุมชน โดยเป็นทั้งแสงสว่างสร้างความมีชีวิตชีวาในยามค่ำคืน ให้กับตลาดผาบ่อง เป็นความปลอดภัยบนท้องถนนให้กับผู้คนที่สัญจรไปมาตามเส้นทางต่างๆ อาทิ ถนนขุนลุมประพาส เป็นความสว่างไสวส่งเสริมการท่องเที่ยวให้กับแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของเมืองแม่ฮ่องสอน อาทิ พระธาตุดอยกองมู และหนองจองคำ เป็นส่วนสนับสนุนด้านสุขภาพอนามัยที่ดีให้กับผู้คนในชุมชน โดยติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลผาบ่อง ซึ่งเป็นหน้าด่านสำคัญที่ดูแลรักษาผู้ป่วยในพื้นที่ โดยจ่ายไฟให้กับตู้ควบคุมอุณหภูมิสำหรับแช่ยา ช่วยลดการสูญเสียวัคซีนและยารักษาโรค เมื่อเกิดปัญหาไฟดับ นอกจากนี้ยังได้ติดตั้งป้าย LED เพื่อเป็นช่องทางในการสื่อสาร แสดงค่าการจัดการพลังงาน การแจ้งเตือนภัยพิบัติ และประชาสัมพันธ์ข้อมูลให้กับคนในพื้นที่ อาทิ บริเวณด้านหน้าโรงพยาบาลศรีสังวาลย์ หน้าสถานีตำรวจ และหน้าสถานีวิทยุ เพราะในยามฉุกเฉินข้อมูลข่าวสารเป็นสิ่งจำเป็นยิ่ง

\"\"

           ‘เรียนรู้ ปลูกจิตสำนึก รักษ์แม่ฮ่องสอน’

           กฟผ. เชื่อมั่นว่าการพัฒนาชุมชนและสิ่งแวดล้อมจะเกิดความยั่งยืน ต้องเริ่มตั้งแต่การปลูกฝังให้เยาวชนมีความรู้ มีจิตสำนึกรักบ้านเกิด รักษ์สิ่งแวดล้อม และหวงแหนศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่น จึงได้ก่อตั้งศูนย์การเรียนรู้ กฟผ. ผาบ่อง เพื่อถ่ายทอดอัตลักษณ์ทางวัฒนธรรมวิถีชีวิตของชาวแม่ฮ่องสอน ควบคู่กับส่งเสริมการเรียนรู้เรื่องไฟฟ้าจากพลังงานสะอาด สร้างความรู้และความเข้าใจในกระบวนการผลิตไฟฟ้าอย่างมีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม กลายเป็นแหล่งเรียนรู้ให้กับเยาวชน ทั้งยังเป็นสถานที่สำหรับจัดกิจกรรม การประชุมต่าง ๆ ให้กับคนในพื้นที่ และเป็นแหล่งท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจของจังหวัดแม่ฮ่องสอน

\"\"

           ‘ผลักดันการใช้ EV เพื่อสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน’

           ยานยนต์ไฟฟ้า หรือ EV ถือเป็นยานยนต์ที่ใช้พลังงานสะอาด ที่ กฟผ. มุ่งมั่นส่งเสริมให้เกิดการใช้ EV อย่างแพร่หลาย ด้วยการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานสำคัญอันได้แก่การจัดตั้งสถานีอัดประจุไฟฟ้าทั่วประเทศ และที่แม่ฮ่องสอนนี้ก็เช่นเดียวกัน เพื่อเปิดประสบการณ์ที่ดีให้กับชาวแม่ฮ่องสอนและนักท่องเที่ยว ได้สัมผัสรวมถึงได้ทดลองใช้ยานยนต์ไฟฟ้า ไม่ว่าจะเป็นการให้บริการ EV BUS รถจักรยานยนต์ไฟฟ้า และรถจักรยานไฟฟ้า สำหรับบริการผู้มาเยี่ยมชมพื้นที่โครงการฯ และศูนย์การเรียนรู้ กฟผ. ผาบ่อง ซึ่งจะช่วยส่งเสริมเมืองแม่ฮ่องสอนสู่ความยั่งยืน พร้อมร่วมขับเคลื่อนประเทศสู่เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ภายในปี ค.ศ. 2050

\"\"

           รางวัลรัฐวิสาหกิจดีเด่น ประจำปี 2567 จาก ‘โครงการพัฒนาโครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะที่ตำบลผาบ่อง อำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน’ คือ หนึ่งในความภาคภูมิใจของ กฟผ. ที่สะท้อนถึงความทุ่มเทเพื่อสร้างความมั่นคงด้านพลังงานไฟฟ้าด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย พร้อมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตชุมชน ควบคู่กับการดูแลสิ่งแวดล้อมที่อุดมสมบูรณ์ไว้ให้คงอยู่คู่เมืองแม่ฮ่องสอนอย่างยั่งยืน