เชียงราย-เมียนมายังไม่ขยับขุดลอกลำน้ำแม่สาย ฤดูฝนใกล้ถึงอาจจะไม่ทัน
วันที่ 30 เม.ย.2568 เวลาประมาณ 13.00 น.นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้เดินทางมาติดตามการขุดลอกลำน้ำสายและการสร้างพนังกั้นน้ำ อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย หลังได้รับรายงาน เกิดอุทกภัยที่อำเภอแม่สาย โดยมี นายชรินทร์ทองสุข. ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย นายวรายุทธ ค่อมบุญ นายอำเภอแม่สาย นายทวีชัย โค้วตระกูล ผู้อำนวยการโครงการชลประทานเชียงราย และปภ.จังหวัดเชียงราย
นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เผยว่า จากกรณีอุทกภัยเมื่อวานที่ผ่านมา ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ไม่สามารถกฎเกณฑ์ได้ เป็นเรื่องของธรรมชาติ ซึ่งใช้โมเดลของ กรมอุตุวิทยา และหน่วยงานที่มีส่วนเกี่ยวข้อง และกรมบรรเทาสาธารณภัย จะคำนวณได้ประมาณ 3 วัน หรือ 72 ชม. แต่ไม่สามารถคำนวณปริมาณฝนตกได้มากน้อยเพียงใด ซึ่งพบว่าปีนี้ฤดูฝนได้มาไวกว่าปกติ คาดว่าพฤษภาคมฝนจะเริ่มตก แต่ไม่สามารถคาดคะแนได้ว่า มีปริมาณน้ำฝนมากน้อยเพียงใด ซึ่งที่ผ่านมาเชียงรายถือว่าหนักสุดจากเลนบอมบ์ ทำให้เชียงรายเต็มไปด้วยโคลนเลน ซึ่งประกอบกับทางเมียนมาต้นแม่น้ำสาย ได้ทำเหมืองแร่ ทำให้มีการชะล้างดินโคลนแลนไหลมาตาม น้ำสาย-น้ำกก. จึงทำให้ตื้นเขิน ขณะเดียวกันได้กำชับให้ทางผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เร่งทำหนังสือยื่นไปยังผู้ว่าการเมืองท่าขี้เหล็ก ให้เร่งรีบขุดลอกแม่น้ำสาย ตามข้อตกลงที่ผ่านมา
ซึ่งหลังจากเมื่อวันที่ 29 เม.ย.ที่ผ่านมา ที่เกิดน้ำทะลักยอมรับว่า น้ำป่าได้มาเร็ว ทำให้เครื่องมือตรวจวัดไม่สามารถทำงานท้วงทัน เนื่องจากระยะที่น้ำมาใกล้เร็ว อีกทั้งแม่น้ำตื้นเขินทำให้เครื่องไม่สามารถตรวจจับได้
ซึ่งขณะเดียวกัน มีการทำเหมืองแร่บนต้นน้ำ ที่อยู่ในประเทศเมียนมา ได้ชำระล้างหน้าดิน ทำให้เกิดดินโคลน ผลัดมาตามกระแสน้ำ ทำให้ประชาชนที่อยู่ลุ่มน้ำประสบปัญหาดินโคลน จึงได้มอบหมายให้ทาง ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายเร่งประสานไปยังเมียนมา ให้เร่งแก้ไขปัญหาเหมืองแร่ และขุดลอกแม่น้ำสาย ซึ่งใกล้เข้าสู่ฤดูฝนมาแล้ว ได้มีการประชุม ปภ.ทุกจังหวัด เพื่อให้เคลื่อนย้ายเครื่องจักร อุปกรณ์ต่างๆ ให้มาเตรียมการไว้ทางภาคเหนือ เนื่องจากภาคเหนือตอนบน เป็นพื้นที่ ที่จะได้รับผลกระทบก่อน ในห่วงฤดูฝน
ขณะเดียวกัน การขุดลอกแม่น้ำสาย ไทยเรามีความพร้อม และเร่งปฎิบัติงานแก้ไข เพื่อให้ทันในช่วงฤดูฝน แต่ปัญหาที่ทางเมียนมายังไม่ได้ดำเนินการขุดลอก จึงให้ทางผู้ว่าจังหวัดเชียงรายเร่งประสานไปยังทางเมียนมาอีกครั้ง