รมช.กลาโหม ปลื้มงานสมัครทหารใหม่ เผยหลังประชุม ครม.สัญจร ลงค่ายฝึกตรวจเยี่ยมทหารใหม่ มุ่งสร้างวินัย ปลูกฝัง“ชีวิตลูกผู้ชายไทย” ปรับค่ายฝึกเป็นบ้านหลังที่ 2
วันอังคารที่ 29 เมษายน 2568 ภายหลังจากการประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่ ครั้งที่ 2/2568 เสร็จสิ้นแล้ว พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม (สนามไชย 2) มีกำหนดการจะเดินทางต่อไปยังหน่วยฝึกทหารใหม่ มณฑลทหารบกที่ 210 ค่ายพระยอดเมืองขวาง ตำบลกุรุคุ อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม เพื่อตรวจเยี่ยมความพร้อมต้อนรับน้องๆ ทหารใหม่ รุ่นปี 2568 ผลัดที่ 1 ในวันที่ 1 พฤษภาคมนี้ โดยเน้นย้ำผู้บังคับหน่วยฝึก ผู้ฝึก ผู้ช่วยผู้ฝึก ครูฝึก และทุกคนที่เกี่ยวข้อง/สนับสนุนการฝึกให้ดำเนินการตามนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และผู้บังคับบัญชาทุกระดับชั้น อย่างเคร่งครัด เพื่อให้การฝึกทหารใหม่เป็นไปตามระเบียบ แบบแผน และหลักสูตรที่กองทัพกำหนด มุ่งเน้นทั้งประสิทธิภาพและความปลอดภัย สร้างความเชื่อมั่นและไว้ใจให้กับผู้ปกครองและสังคม ในการฝากลูกหลาน-เยาวชนไว้ในการดูแลของกองทัพ ให้เป็น “2 ปี แห่งการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ของประเทศ” และเป็น “2 ปี แห่งโอกาส” สร้างวินัย เสริมความรู้ ทั้งวิชาการและวิชาชีพเพื่อวันข้างหน้า
พลเอก ณัฐพลฯ เปิดเผยว่า รัฐบาล กองทัพ และสังคมไทย ต่างเห็นไปในทิศทางเดียวกัน ในการเปลี่ยนผ่านจาก ‘ระบบเกณฑ์’ ไปสู่ ‘ระบบสมัครใจ’ ซึ่งกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จ คือ “ความไว้ใจ” ด้วยการสร้างความมั่นคงให้เกิดในจิตใจของพลทหารใหม่ และครอบครัว โดยการ(1) ปรับการฝึกจากเบาไปหาหนัก ค่อยเป็นค่อยไป เน้นประสิทธิภาพ (2) รอบคอบเรื่องความปลอดภัย ‘Safety First’ มีมาตรการป้องกันโรคลมร้อน (Heat Stroke) และมาตรการแก้ไขโดยอบรมการปฐมพยาบาล/ช่วยชีวิตขั้นพื้นฐาน (CPR) และ (3) ใช้ท่าออกกำลังกายในการลงโทษทางวินัย ตามแบบธรรมเนียมทหาร ตามศักยภาพของแต่ละคน บนพื้นฐานของความเมตตา
ทั้งนี้ ด้วยความตระหนักอยู่เสมอว่าการเสริมสร้างความมั่นคงของประเทศ ต้องเริ่มจากการสร้างความเชื่อมั่นต่อกองทัพในสายตาของชนในชาติ ซึ่งเป็นเป้าหมาย-ปลายทางที่เราทุกคนต้องร่วมมือกัน
พลเอก ณัฐพลฯ กล่าวว่า ในช่วง 5 ปี (พ.ศ.2564-2568) ที่เริ่มรณรงค์เรื่อง “สมัครใจรับใช้ชาติ” ผ่านช่องทางต่างๆ นั้น สังคมไทยให้การตอบรับในเชิงบวก-มีทิศทางที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปี โดยปีนี้ มียอดผู้สมัครใจเป็นทหาร “สูงกว่าเป้าหมาย” โดยคิดเป็น 52.83% ของยอดความต้องการ ซึ่งสะท้อนความเชื่อมั่นในการปรับตัวและการดำเนินการต่างๆ ของกองทัพ ตลอดจนมาตรการจูงใจที่ตอบโจทย์ความต้องการของประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการนำเสนอให้ 2 ปีในค่ายทหาร ที่เปรียบเสมือนเป็น “บ้านหลังที่ 2” เป็น 2 ปีแห่งโอกาสในการพัฒนาตนเอง ต่อยอดวุฒิการศึกษา หรือพัฒนาทักษะวิชาชีพ เพื่ออนาคตที่ดีกว่า เพื่ออาชีพ-หน้าที่การงานที่มั่นคง หรือแม้กระทั่งสานต่ออุดมการณ์ “ทหารอาชีพ”
“สำคัญที่สุด คือ กระทรวงกลาโหมจะพยายามอย่างดีที่สุด ให้ 2 ปีในกองทัพ เป็นช่วงเวลาสำคัญของ “ชีวิตลูกผู้ชายไทย” ที่จะเป็นมากกว่า “ทหาร” ที่มุ่งเน้นเรื่องวินัย ความเข้มแข็ง ความเสียสละ และความรับผิดชอบต่อส่วนรวม พร้อมให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชนได้ ทุกเมื่อ ทุกครั้งที่มีภัย แต่กองทัพจะหล่อหลอมให้น้องๆ ที่เดินเข้ามาเป็น “ทหารใหม่” แล้วก้าวเดินออกไปเป็น “พลเมืองที่มีคุณภาพของประเทศ” และเป็น “ทรัพยากรมนุษย์ที่มีทักษะสูง” ในตลาดแรงงานและระบบเศรษฐกิจของชาติ ต่อไป ” รมช.กลาโหม กล่าว