ชัยภูมิ – หลังจังหวัดเตรียมจัดใหญ่ซ้อมรำนางรำนับหมื่นคนเพื่อเตรียมรำถวายในงานสืบสานประเพณีแห่บายศรีใหญ่ยาวที่สุดในโลก ที่ในช่วงนี้กรมอุตุฯเตือนระวังเกิดพายุฤดูร้อนถล่มหนักในทุกพื้นที่ได้ สร้างความฮือฮาไปทั่วเมืองชัยภูมิ ถึงความศักดิ์สิทธิ์ต่ออนุสาวรีย์เจ้าเมืองคนแรกเจ้าพ่อพญาแลผู้ก่อตั้งเมืองชัยภูมิมายาวนาน ที่ปีนี้จะมีการจัดงานสืบสานงานประเพณีบุญเดือนหกมาต่อเนื่องในปีนี้มาต่อเนื่องกว่า 199 ปี ในการสืบสานประเพณีแห่บายศรีขนาดใหญ่ขบวนแห่ยาวที่สุดในโลกในปัจจุบัน ในพื้นที่เตรียมจัดงานไม่เกิดผลกระทบถูกพายุถล่มแต่อย่างใดขณะที่อีกในหลายพื้นที่แม้กระทั่งในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียวทุ่งกะมังเกิดพายุลูกเห็บยักษ์ขนาดเกือบเท่าไข่ไก่พัดถล่มหนัก
( 26 เม.ย.68 ) ขณะที่จังหวัดชัยภูมิ นายอนันต์ นาคนิยม ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ คนปัจจุบันคนที่ 71 ของ จ.ชัยภูมิ พร้อมด้วยหน่วยงานทุกภาคส่วนประชาชนทุกหมู่เหล่าในพื้นที่จังหวัดชัยภูมิ ที่มีประชากรในปัจจุบันรวมกว่า 1.2 ล้านคน เตรียมจัดงานประเพณีหนึ่งเดียวในโลกของ จ.ชัยภูมิ ที่จะมีขึ้นในช่วง งานสืบสานประเพณีบุญเดือน 6 ของ จ.ชัยภูมิ ขึ้นเป็นประจำทุกปี
โดยในปี 2568 นี้ ทางจังหวัดชัยภูมิจะมีการจัดงานสืบสานประเพณีหนึ่งเดียวในโลกขึ้นตั้งแต่ช่วงวันที่ 28 เมษายน – 6 พฤษภาคม 2568 ในช่วงตลอดงานจัดอย่างยิ่งใหญ่ 9 วัน 9 คืน ที่จะมีมหรสพชมฟรี ทุกคืน
โดยเฉพาะในวันที่จะมีช่วงการสืบสานประเพณีสำคัญในปีนี้ ในวันที่ 28 เมษายน 68 ในภาคเช้าเวลา 07.30 น. ที่จะมีพิธีบวงสรวงต่อดวงวิญญาณเจ้าพ่อพญาแล หรือพระยาภักดีชุมพล หรือ เจ้าพ่อพญาแล เจ้าเมืองคนแรกผู้ก่อตั้งเมืองชัยภูมิ มาได้จนปัจจุบัน และจะมีการสืบสานพิธีถวายม้า แด่เจ้าพ่อพญาแล ณ ศาลเจ้าพ่อพญาแลหนองปลาเฒ่า และต่อด้วยภาคบ่ายเวลาตั้งแต่ 17.00 น.เป็นต้นไปจะมีการออกมาร่วมใจกันของชาวชัยภูมิ ส่งตัวแทนนางรำมาจากทั้ง 16 อำเภอ ของ จ.ชัยภูมิ ไม่น้อยกว่า 10,000 คน ที่จะแต่งกายชุดผ้าไทยประจำแต่ละพื้นที่ถิ่นของตนเองมาร่วมกันรำถวายต่อหน้าอนุสาวรีย์เจ้าพ่อพญาแล ยาวไปเต็มถนนทั้งสี่ทิศรอบบริเวณอนุสาวรีย์เจ้าพ่อพญาแล ย่านกลางใจตัวเมืองชัยภูมิ
และต่อด้วยในวันที่ 30 เมษายน 68 ที่จะมีการจัดสืบสานประเพณีหนึ่งเดียวในโลกในการสืบสานประเพณีขบวนแห่บายศรีนำถวายแด่ศาลเจ้าพ่อพญาแลหนองปลาเฒ่าที่บายศรีแต่ละอันจะมีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกที่มีขนาดสูงกว่า 15. – 2 เมตร ขึ้นไป และมีขบวนแห่บายศรีที่ขนาดใหญ่และมีขบวนแห่ยาวที่สุดในโลก ที่ได้รับความนิยมเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางประเพณีวัฒนธรรมยอดฮิตจากนักท่องเที่ยวในทั่วประเทศและนานาชาติเดินทางมารอชมงานสืบสานประเพณีแห่บายศรีใหญ่ยาวที่สุดในโลกที่ จ.ชัยภูมิ มีประชาชนนับไม่น้อยกว่าแสนคนเป็นจำนวนมากในทุกปี ที่มีความยาวของขบวนแห่ยาวมากกว่า 10 กิโลเมตรขึ้นไปในทุกปีที่ตั้งแต่หัวขบวนแห่ยันท้ายขบวนที่จะเริ่มแห่บายศรีตั้งแต่ช่วงบ่ายออกจากจุดหน้าสำนักงานเทศบาลเมืองชัยภูมิ ยาวไปถึงศาลเจ้าพ่อพญาแลหนองปลาเฒ่า ไปรอบเมืองชัยภูมิ ตั้งแต่เวลา 13.00 – 24.00 น.ยันเลยเที่ยงคืนของทุกปี ที่งานสืบสานประเพณีแห่บายศรีใหญ่ยาวที่สุดในโลกในปีนี้ที่ จ.ชัยภูมิ ถือว่ามีการจัดมาต่อเนื่องยาวนานมานานในปีนี้มากกว่า 199 ปีแล้ว ซึ่งจะมีขึ้นใน 1 ปี จะมีให้ชมเพียงครั้งเดียวเท่านั้น
ท่ามกลางในวันนี้เป็นที่ฮือฮาถึงพลังศรัทธาต่ออนุสาวรีย์เจ้าพ่อพญาแลกันจำนวนมากที่ก่อนการที่จะถึงการจัดงานจัดนางรำชาวชัยภูมิในงานปีนี้ จำนวนมากกว่ากว่า 10,000 คน มาทำพิธีรำถวายในวันที่ 28 เม.ย.68 นี้ ที่ได้มีการร่วมใจกันของชาวชัยภูมิ นับหมื่นคนแต่งกายผ้าไทยออกมาร่วมใจกันซ้อมรำที่รอบวงเวียนอนุสาวรีย์จ้าพ่อพญาแลย่านใจกลางตัวเมืองชัยภูมิ ที่มีอากาศร้อนจัดมากที่หลายคนก็เกรงว่าจะมีพายุฤดูร้อนพัดถล่มลงมาช่วงการซ้อมรำมาตั้งแต่ช่วง 17.00 -18.30 น.วันที่ 26 เม.ย.นี้ที่ผ่านมา กลับไม่มีอะไรเกิดขึ้นเมื่อช่วงที่ชาวชัยภูมิซ้อมรำไปตลอดช่วงกว่า 1 ชั่วโมงก็มีลมพัดผ่านเข้ามาในพื้นที่รำถวายอย่างเย็นใจสบายอากาศหายร้อนลงไปทันทีที่ชาวชัยภูมิ ในครั้งนี้เชื่อว่าเป็นปาฏิหาริย์ความศักดิ์สิทธิ์ของดวงวิญญาณเจ้าพ่อพญาแลเจ้าเมืองคนแรกของ จ.ชัยภูมิ ได้ช่วยไว้ที่พอหลังจากนางรำนับหมื่นชีวิตซ้อมรำเสร็จพากันแยกย้ายเดินทางกลับ สิ่งที่เกิดขึ้นตามมาทันทีคือเกิดพายุฤดูร้อน ลมฝนมีลูกเห็บขนาดใหญ่ตกลงมาจำนวนมากทันที ที่ไม่เกิดผลกระทบต่อนางรำนับหมื่นชีวิตที่มาซ้อมรำเลยในวันนี้
ขณะที่มีรายงานเกิดพายุฤดูร้อนลูกเห็บขนาดใหญ่เกือบเท่าลูกไข่ไก่ตกหนักเกิดขึ้นรุนแรงที่สุดในพื้นที่ของ จ.ชัยภูมิ เมื่อช่วงเวลาช่วงบ่าย วันที่ 26 เม.ย.68 ที่ผ่านมา ได้เกิดพายุลูกเห็บถล่มหนักในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว(ทุ่งกะมัง) อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ หลังเกิดอากาศร้อนอบอ้าวมาหลายวัน และมีสัญญาณฟ้าคะนองเตือนมาในช่วง1-2วันนี้ ก่อนที่จะเกิดพายุฝนลูกเห็บขนาดใหญ่เกือบเท่าไข่ไก่พัดกระหน่ำลงมาราวกับฟ้าถล่มในเวลาไม่นานแต่เมื่อพายุฝนผ่านไป เองก็เกิดทำให้พื้นที่ป่าภูเขียวของชาวชัยภูมิ เกิดความสดชื่นสดใสกลับมาเยือนผืนป่าอีกครั้งที่ครั้งนี้ไม่มีผลกระทบต่อสัตว์ป่าแต่อย่างใด แต่ในส่วนในพื้นที่ ตัว อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ ที่ก็เกิดพายุฤดูร้อนพัดถล่มหนักหลายจุด ซึ่งอยู่ระหว่างตรวจสอบว่ามีพื้นที่ชาวบ้านบ้านเรือนประชาชนอาจจะมีจุดได้รับความเสียหายบ้าง เพื่อที่ทาง จ.ชัยภูมิ จะได้เร่งลงไปสำรวจความเสียหายและให้ความช่วยเหลือต่อไป