ป.ป.ช.ตรังลุยต่อ บุกสนง.ปศจ.ตรัง เรียกเอกสารจัดซื้อ-ทะเบียนคุม-เบิกจ่าย ยาฆ่าเชื้อโค หลังชาวบ้านร้องเพจดังขนยาบูดฉีดโคชาวบ้าน ผงะ!สนง.แทบร้าง ปศจ.ลาพักร้อนรวดเดียว 5 วัน จนท.เผยตั้งกก.สอบภายในแล้ว

ตรัง-ป.ป.ช.ตรังลุยสอบต่อ บุกสนง.ปศจ.ตรัง เรียกเอกสารจัดซื้อ-ทะเบียนคุม-เบิกจ่าย ยาฆ่าเชื้อโค หลังชาวบ้านร้องเพจดังขนยาบูดฉีดโคชาวบ้าน ผงะ!สนง.แทบร้าง ลาหยุดกันหมด ปศจ.ลาพักร้อนรวดเดียว 5 วัน จนท.เผยตั้งกก.สอบภายในแล้ว ให้ระดับอธิบดีแจงเป็นลายลักษณ์อักษรอีกครั้ง สงสัยจัดฉากเอายาเก่ามาถ่ายแฉหรือไม่ เล็งขอเอกสารเบิกค่าเช่าบ้านไปทำเช่าซื้อต่อ 

ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดตรังว่า จากกรณีมีชาวบ้านส่งหลักฐาน เป็นภาพถ่ายกล่อง และขวดยา ร้องเพจชมรมตรังต้านโกง ซึ่งเป็นเครือข่ายภาคประชาชนติดตามตรวจสอบการทุจริต และส่งเรื่องร้องเรียนมายังสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติประจำจังหวัดตรัง (ป.ป.ช.) ว่า จากกรณีเกิดโรคระบาดปากเท้าเปื่อยในพื้นที่ อำเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง มีการนำยาฆ่าเชื้อหรือยาปฏิชีวนะหมดอายุไปฉีดให้กับโคของชาวบ้าน จึงได้ส่งหลักฐานร้องต่อป.ป.ช. โดยเพจชมรมกลางต้านโกง ได้โพสต์ข้อความพร้อมภาพขวดบรรจุยาที่ระบุวันหมดอายุบนฉลาก 11-2023 (เดือน พ.ย.2023) และหมดอายุ ปี 2020 บนฉลากอย่างชัดเจน พร้อมภาพลังใส่ขวดยาจำนวนนับสิบขวด โดยโลกโซเชียลต่างวิพากษ์วิจารณ์กันในวงกว้างว่าเกิดเหตุนำยาหมดอายุไปฉีดให้วัวของเกษตรกรจริงหรือไม่ โดยผู้ใช้ผู้ใช้เฟซบุ๊กหลายราย ตั้งข้อสังเกตถึงกระบวนการการจัดซื้อยา ว่าเป็นไปด้วยความโปร่งใสหรือไม่ โดยภาพดังกล่าวมีรายงานข่าวแจ้งว่าถ่ายขึ้นในพื้นที่อำเภอห้วยยอด ในช่วงต้นเดือนธันวาคม 2567 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นช่วงที่เริ่มมีโรคปากเท้าเปื่อยระบาดในพื้นที่ โดยเกษตรกรเป็นผู้ถ่ายเอาไว้เนื่องจากมีข้อกังวลว่ายาซึ่งหมดอายุแล้วดังกล่าว จะมีผลรักษาโรคปากเท้าเปื่อยได้จริง หรือเป็นอันตรายต่อวัวของเกษตรกรหรือไม่

โดยนายทรงกลด สว่างวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง พร้อมด้วยนายสัตวแพทย์กฤษณ์ วีระวงศ์ ปศุสัตว์จังหวัดตรัง ได้เปิดศาลากลาง จังหวัดตรัง แถลงข่าวด่วนชี้แจงกรณีดังกล่าว โดยขอตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นก่อน รวมทั้งการออกมายอมรับเกิดปัญหาความขัดแย้งภายในสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดตรัง ทำให้ส่งผลกระทบต่อการทำงานจนเกิดกระแสข่าววิพากษ์วิจารณ์ความทันต่อสถานการณ์การควบคุมโรค จนกรมปศุสัตว์ ต้องส่งทีมควบคุมโรคปากและเท้าเปื่อยและทีมวัคซีนลงมาปูพรมทำงานในพื้นที่ในขณะนี้

ล่าสุดรายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อวันที่ 24 มกราคม 2568 ที่สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดตรัง นายยุทธนา วิมลเมือง หัวหน้ากลุ่มงานป้องกันการทุจริต สำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดตรังพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ป.ป.ช.ตรัง ซึ่งได้รับมอบหมายจาก นายบัณฑิต คณะสุวรรณ์ ผู้อำนวยการป.ป.ช.ตรัง เดินทางเข้ายื่นหนังสือถึงนายสัตวแพทย์กฤษณ์ วีระวงศ์ ปศุสัตว์จังหวัดตรัง เพื่อขอตรวจสอบเอกสารหลักฐานการจัดซื้อจัดจ้าง และการเบิกจ่ายยาฆ่าเชื้อรักษาโรคปากเท้าเปื่อยในโคแล้ว

โดยนายยุทธนา เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ป.ป.ช.ตรังได้เข้าดำเนินการตรวจสอบ ภายหลังจากได้มีชาวบ้านร้องเรียนผ่านศูนย์ CDC ของเลขาธิการป.ป.ช. ว่าสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดตรัง นำยารักษาโรคเชื้อปากเท้าเปื่อยหมดอายุไปฉีดรักษาให้แก่โคของเกษตรกรในพื้นที่อำเภอห้วยยอด เมื่อต้นเดือนธันวาคม2568ที่ผ่านมา

สำหรับหนังสือที่ป.ป.ช.ตรังมีถึงปศุสัตว์จังหวัดตรัง ระบุ ตามที่สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดตรัง ได้รับเรื่องข้อมูล เบาะแส กรณีเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการในการจัดซื้อจัดจ้างเกี่ยวกับยารักษาโรคปากและเท้าเปื่อยในการแก้ไขปัญหาโรคระบาดของวัวในพื้นที่อำเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง นั้น เพื่อประโยชน์ในการดำเนินการให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดตรัง จึงขอเอกสารหลักฐานสัญญาในการจัดซื้อจัดจ้างยารักษาโรคปากและเท้าเปื่อย เอกสารเบิกจ่ายยาให้กับปศุสัตว์อำเภอห้วยยอด แบบฟอร์มรายงานการฉีดยาและเอกสารที่เกี่ยวข้องทั้งหมดในปีงบประมาณ 2566 -2567 พร้อมรับรองสำเนาถูกต้อง ส่งไปยังสำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดตรัง ภายใน 15 วัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า อย่างไรก็ตาม ขณะที่เจ้าหน้าที่ป.ป.ช.ตรังเข้าส่งหนังสือขอข้อมูลการจัดซื้อจัดจ้างยาดังกล่าว พบว่าทั้งปศุสัตว์จังหวัดตรัง เลขานุการปศุสัตว์จังหวัดตรัง เจ้าหน้าที่พัสดุ ต่างพร้อมใจกันลา โดยเฉพาะปศุสัตว์จังหวัดตรัง ได้ลาพักร้อน 5 วัน (24-28ม.ค.68) ทำให้เบื้องต้นได้พบกับสัตวแพทย์ และเจ้าหน้าที่สัตวบาลที่มารับหน้า โดยได้มีการพูดคุยซักถามข้อมูลในเบื้องต้น โดยเจ้าหน้าที่ป.ป.ช.ได้ซักถามถึงวิธีการจ่ายยาให้ปศุสัตว์อำเภอว่าจ่ายยาในรูปแบบไหน อย่างไร มีทะเบียนคุมหรือไม่ ทั้งการจ่ายยาและการจัดเก็บกล่องและขวดคืน ขณะที่เจ้าหน้าที่คนดังกล่าวให้ข้อมูลว่า ภาพขวดและกล่องยาดังกล่าวที่ถูกร้องเรียน อาจจะเป็นไปได้ว่าเป็นยาที่จ่ายให้กับสำนักงานปศุสัตว์อำเภอไปนานแล้ว แต่ใช้ไม่หมด อาจหมดอายุได้ จึงอาจจะมีคนจัดฉากหรือกลั่นแกล้งนำมาถ่ายรูปเพื่อร้องเรียน โดยไม่ได้มีการฉีดจริงก็ได้ และเมื่อเจ้าหน้าที่ป.ป.ช.ขอตรวจสอบโกดังการจัดเก็บ กลับได้รับคำตอบว่าเจ้าหน้าที่พัสดุ ซึ่งดูแลห้องจัดเก็บลาหยุด ไม่สามารถให้เข้าตรวจสอบได้ แต่ทั้งนี้ ในเรื่องดังกล่าวขณะนี้มีการตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว และไม่สามารถให้ข้อมูลได้ ต้องให้ปศุสัตว์จังหวัด และให้อธิบดีกรมปศุสัตว์ชี้แจงเท่านั้น และทางปศุสัตว์จังหวัดจะชี้แจงเป็นลายลักษณ์อักษรต่อไป

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้จากการที่ป.ป.ช.ตรังลงตรวจสอบข้อมูลในเบื้องต้นที่สำนักงานปศุสัตว์อำเภอห้วยยอด ได้รับคำตอบจากเจ้าหน้าที่ว่า ยาทุกขวดจะต้องเบิกทุกครั้งจากสำนักงานปศุสัตว์จังหวัด โดยจะมีการเบิกตามจำนวนที่ใช้จริงเท่านั้น ไม่ได้มีการจัดเก็บยาที่หน่วยงานประจำอำเภอแต่อย่างใด ซึ่งเมื่อใช้แล้วก็ต้องส่งคืนทั้งกล่อง และขวด ไปจัดเก็บที่สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดตรังทั้งหมด นอกจากนี้ยังมีประเด็นที่ป.ป.ช.จะทำการตรวจสอบกรณีปรากฏทางสื่อออนไลน์ เรื่องการเบิกค่าเช่าบ้านในลักษณะของการเช่าซื้อทั้งที่มีบ้านพักราชการอยู่แล้วของปศจ.จังหวัดด้วย ว่าจริงข้อเท็จเป็นอย่างไร โดยจะต้องเรียกหลักฐานมาตรวจสอบต่อไป

\"\" \"\" \"\" \"\" \"\" \"\" \"\" \"\" \"\" \"\" \"\" \"\" \"\" \"\" \"\" \"\" \"\" \"\" \"\" \"\" \"\" \"\" \"\"