พระนครศรีอยุธยา-ผู้ว่าราชการจังหวัดนั่งหัวโต๊ะเรียกประชุมออกมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ในพื้นที่ ห้ามเผาทุกอย่างสร้างมลพิษ เผยภาพแสดงตัวแดงสัญญลักษณ์หนักสุดใกล้โรงเรียนกลางเมือง เทศบาลนครออกพ่นน้ำทั่วเมือง สสจ.แนะป้องกันตัวเอง
วันที่ 24 มกราคม เวลา 13.30 น. นายนิวัฒน์รุ่งสาครผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เรียกประชุม หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อ ออกมาตรการ ป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยมีรองผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดพระนครศรีอยุธยา หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม
นายนิวัฒน์รุ่งสาครผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า ทางจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้ออกมาตรการ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมในการป้องกันและแก้ไขปัญหา ฝุ่นละอองขนาดเล็กหรือ PM 2.5 ในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยออกมาตรการหลักๆได้แก่มาตรการการควบคุมการเผา โดยเฉพาะพื้นที่การเกษตรได้สั่งการให้หน่วยงานในสังกัดควบคุมการ การเผา ในพื้นที่การเกษตร โดยห้ามเผาโดยเด็ดขาด และในพื้นที่ชุมชน ได้สั่งการให้ หน่วยงานเข้าชี้แจงกับคณะกรรมการหมู่บ้านและประชาชนในพื้นที่ ในการงดเผาขยะในพื้นที่โล่ง มาตรการควบคุมการจราจร ให้ตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยาเข้มงวดตรวจจับรถควันดำทุกประเภทและบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดมาตรการควบคุมการก่อสร้าง ให้องค์กรปกครองท้องถิ่น ตรวจตราพื้นที่ก่อสร้างป้องกันฝุ่นละอองจากการ ก่อสร้างมาตรการภาคอุตสาหกรรมขอความร่วมมือและเข้มงวดกวดขันผู้ประกอบการอุตสาหกรรมให้ควบคุมการปล่อยควันจากการผลิตภาคอุตสาหกรรมเป็นไปตามที่กฎหมายอุตสาหกรรม
จากภาพแผนภูมิแสดงสัญญลักษณ์สีแดงในเขตเกาะเมืองใกล้กับโรงเรียน ทางเทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา ได้ระดมกำลังรถดับเพลิงออกพ่นน้ำตามจุดต่างๆที่พบค่าของฝุ่น PM 2.5 จำนวนมาก ซึ่งสามารถทำให้ปริมาณลดลงไปได้ในระดับหนึ่ง
นายแพทย์ชวนนท์ อิ่มอาบ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า จากสถานการณ์ในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พบว่า คุณภาพอากาศในปัจจุบัน มีค่าฝุ่นละออง PM 2.5 เกินกว่าค่ามาตรฐาน ซึ่งส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงได้แก่ ผู้สูงอายุ เด็กเล็ก หญิงตั้งครรภ์ ผู้ป่วยโรคหอบหืด โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง โรคหัวใจและหลอดเลือด PM2.5 คือ ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอนเล็กประมาณ 1ใน 25 ของเส้นผมมนุษย์ ขนจมูกไม่สามารถกรองได้ สามารถแพร่กระจายสู่ทางเดินหายใจ กระแสเลือดและแทรกซึมกระบวนการทำงานอวัยวะต่างๆ เพิ่มความเสี่ยงเป็นโรคเรื้อรัง
นพ.ชวนนท์ อิ่มอาบ กล่าวต่อว่า ในการป้องกันผลกระทบต่อสุขภาพจากฝุ่นละอองขนาดเล็ก ขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงหลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมหรือออกกำลังกายกลางแจ้ง ในกลุ่มเสี่ยงได้แก่ ผู้สูงอายุ หญิงตั้งครรภ์ เด็กเล็ก ผู้ป่วยด้วยโรคประจำตัว เช่น โรคระบบทางเดินหายใจ หอบหืด ภูมิแพ้ โรคหัวใจ หากบ้านพักอาศัยอยู่ในพื้นที่เสียง ให้ปิดประตูหน้าต่างให้มิดชิด และทำความสะอาดบ้านบ่อย และหากออกจากบ้านให้สวมหน้ากากป้องกันและสังเกตอาการผิดปกติ เช่น ไอบ่อย หายใจลำบาก หายใจถี่ หายใจมีเสียงวืด แน่นหน้าอก เจ็บหน้าอก ใจสั่น คลื่นไส้ เมื่อยล้าผิดปกติ หรือวิ่งเวียนศีรษะให้รีบพบแพทย์ ทันที แนวทางการดูแลเด็กเล็กสำหรับผู้ปกครอง ติดตามสถามการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ตามช่องทางการสื่อสารต่างๆ ดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอ 6-8 แก้วต่อวัน เด็กที่มีโรคประจำตัว ควรดูแลอย่างใกล้ชิด และสังเกตอาการหากพบว่ามีความผิดปกติ ให้รีบพบแพทย์ทันที ปลูกต้นไม้ไม้เพื่อตักฝุ่นละอองและมลพิษ งดกิจกรรมที่ก่อให้เกิด PM2.5 เช่น จุดรูป เผากระดาษเงิน กระตาษทอง ปิ้งย่างที่ทำให้เกิดควัน การผาใบไม้ เผาขอะ เป็นต้น ไม่ติดเครื่องรถยนต์เป็นเวลานานในบริเวณบ้าน ปิดประตูหน้าต่างให้มืดชิดและเปิดพัดพัดลมให้อากาศหมุนเวียน หลีกเลียงการออกกำลังกายกลางแจ้ง และการทำงานหนักที่ต้องออกแรงมากในบริเวณที่มีหมอกควัน
คำแนะนำในการใช้หน้ากากากป้องกันฝัน PM 2.5 เลือกใช้หน้ากากอนามัยป้องกันฝุ่นPM 2.5 เช่น หน้ากาก N95 หน้ากากอนามัยคาร์บอน หน้ากากอนามัยที่ได้มาตรฐาน สวมหน้ากากให้กระชับกับใบหน้า สายรัดหนึ่งสายอยู่เหนือใบหู และอีกหนึ่งสายอยู่ใต้ใบหูและกดส่วนที่เป็นโลหะให้กระชับแน่นกับสันจมูก เลือกขนาดที่เหมาะสมครอบได้กระชับกับจมูกและใต้คาง ควรแนบกับใบหน้า เปลี่ยนทุกครั้งเมื่อพบว่าหน้ากากชำรุดหรือภายในหน้ากากสกปรก หากเป็นไปได้ควรเปลี่ยนหน้ากากอันใหม่ทุกวัน
สามารถติดตามข่าวสาร ประกาศแจ้งเตือนจากทางราชการหรือสื่อต่างๆ รวมทั้งการรายงานสถานการณ์คุณภาพอากาศได้ ที่เว็บไซต์ของ กรมควบคุมคุมลพิษ http://air๔Thai,pcd. go.th หรือ แอปพลิเคชั่น AIR๔ Thai ทั้งนี้ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วนกรมควบคุมโรค 1422 งานประชาสัมพันธ์ กลุ่มงานบริหารหัวไป สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพระนครศรีอยุธยา โทร 035 -241520 ต่อ 110