ตรัง ครูอนุบาลกับห้องเรียนสุดล้ำ ใช้ละคร-สถานการณ์จริง เปลี่ยนหนูน้อยเป็นนักสืบ-DSI-หมอ บูรณาการเรียนรู้แบบไม่น่าเบื่อ

ตรัง ส.อ.ปฐมชัย วรตันติ หรือ ‘ครูแบงค์’ ครูปฐมวัยโรงเรียนวัดแจ้ง จ.ตรัง พลิกโฉมการเรียนรู้ให้เด็กอนุบาล ได้ฝึกคิด วิเคราะห์ และทำงานเป็นทีม ผ่านละครสืบสวนจำลองคดีฆาตกรรมแบบ ‘หลอนไดอารี่’ สร้างบทเรียนเอาตัวรอดจากน้ำท่วมจริง สอนนร.ไม่ให้กลัวหมอ สร้างปรากฏการณ์ในโลกออนไลน์ ยอดวิว-คอมเมนต์พุ่ง  เด็กเข้าเรียนเพิ่มจาก 30 เป็น 120 คน

ส.อ.ปฐมชัย วรตันติ หรือ ครูแบงค์ ครูอัตราจ้าง ระดับปฐมวัย โรงเรียนวัดแจ้ง ตำบลบางรัก อำเภอเมือง จังหวัดตรัง กับการจัดการเรียนการสอน เด็กระดับอนุบาลที่ไม่ธรรมดา เน้นสร้างสถานการณ์สมมติ ให้เข้าเหตุการณ์ปัจจุบัน สร้างบทบาทให้นักเรียน เน้นการแบ่งหน้าที่ทำกิจกรรมแบบกลุ่ม เด็กๆได้ฝึกใช้ความคิดและการวางแผน ผ่านละครสั้นๆ ที่เด็กๆทุกคนมีส่วนร่วม ซึ่งเรื่องราวและรูปแบบการเรียนการสอนถูกเผยแพร่ผ่านเฟสบุ๊ก มีผู้ใช้เฟสบุ๊คเข้ามาแสดงความรู้สึกต่อคลิปนับพันครั้ง และมีเข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก

โดยเรื่องละครเรื่องย่าบาหยันกับคดีพิศวง มีผู้คนเข้ามาติดตามในเฟซบุ๊กเป็นจำนวนมาก ครูแบงค์ได้จำลองสถานที่เกิดเหตุในคดีฆาตกรรม สร้างเค้าโครงและบรรยาการให้คล้ายกับรายการดัง\”หลอนไดอารี่\” ที่นักเรียนชอบดู สู่บทเรียนการจัดประสบการณ์ ชั้นอนุบาล3/1 แนวสืบสวน สังเกตและตั้งสมมติฐาน วิเคราะห์ การทำงานเป็นทีม รู้จักสังเกตุ ฝึกการคิด การตัดสินใจ ให้นักเรียนสวมบทบาทเป็นนักแสดงมีการจับฉลากในห้องว่าใครจะได้รับบทไหนและครูแบงค์ก็สวมบทเป็นตัวละครเช่นกัน หลังจากนั้นมาร่วมไขคดีกัน

ฉากที่ใช้แสดงก็ใช้ฉากในห้องเรียน และ ขนำข้างๆ โรงเรียน มีการจัดฉากบวงสรวงขอเจ้าที่เจ้าทางเปิดทางสืบหาฆาตกรรม

และสถานที่ก็ได้ตกแต่งให้คล้ายๆ กับสถานที่เกิดเหตุ เช่น มีการขึงเทปกั้นที่เกิดเหตุ ข้าวของกระจัดกระจาย มีรอยนิ้วมือ รอยเท้าของฆาตกร รวมถึงสิ่งของที่ฆาตกรทิ้งไว้เป็นเบาะแส

นอกจากนี้ยังมีการจำลองสถานการณ์ให้เข้ากับเหตุการณ์น้ำท่วมจากฝนตกหนัก ซึ่งเกิดขึ้นบ่อยในชุมชนวัดแจ้ง ด้วยกันจัดการเรื่องการลอยการจม การเอาตัวรอดจากเหตุตกน้ำ สอนการใช้เสื้อชูชีพ จำลองสถานการณ์ติดตามข่าวสารจากป้องกันสาธารณภัยจังหวัดตรัง โดยมีการสวมบทบาทเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง แถลงข่าวสถานการณ์ฉุกเฉิน เป็นต้น

อย่างไรก็ตามในหน้าเฟซบุ๊ก Bank Pathomchai Woratanti ของครูแบงค์ ยังได้ถ่ายทอดรูปแบบและกิจกรรมการเรียนการสอน ลงในเฟซบุ๊กอย่างต่อเนื่อง

\"\"

ส.อ.ปฐมชัย วรตันติ ครูโรงเรียนวัดแจ้ง กล่าวว่า ตนจะครีเอทรูปแบบการเรียนที่นักเรียนอยากทำและมีความสนใจ ปรับการเรียนการสอนให้ทันโลก ด้วยการจัดประสบการณ์และหลักสูตรเป็นของโรงเรียนวัดแจ้ง จะเชื่อมโยงกับ หลักสูตรกระทรวงศึกษาธิการ เชื่อมกับ Active Learning ของ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาตรัง ประถมศึกษา เขต 1 เช่น หน่วยการเรียนรู้ชุมชนของฉัน ซึ่งชุมชนวัดแจ้งเป็นชุมชนที่เกิดน้ำท่วมบ่อย จึงครีเอทการสอนเรื่องการเอาตัวรอดในน้ำ และเรื่องอื่น เช่น เรื่องหลอนไดอารี่ที่เด็กๆชอบ จึงนำมาจัดประสบการเรื่องการสังเกตุ การสืบค้น ด้วยการสวมบทบาทเป็นเจ้าหน้าที่ DSI

เรื่องที่มีชาวเน็ตติดตามจำนวนมาก คือ เรื่องย่าบาหยันกับคดีพิศวง ที่ได้แนวคิดการวางโครงเรื่องจากรายหลอนไดอารี่ ซึ่งเป็นการจัดกิจกรรมการเรียนใหม่ทั้งหมด เป็นหน่วยการเรียนรู้หนูทำได้ จำลองเหตุการณ์ฆาตรกรรม ให้นักเรียนจับฉลากเพื่อสวมบาทเป็นตัวละครต่างๆ โดยครูสวมบทเป็นย่าบาหยัน นัดเรียนเนเน่สวมบทเป็นคนตายจากการฆาตกรรม มีผู้ร้าย มีกองพิสูจน์หลักฐาน โดยเด็กต้องสืบเรื่องนี้จากหลักฐานในที่เกิดเหตุ ซึ่งตรงนี้จะบูรณาการกับหน่วยการเรียนวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ เพราะต้องคาดคะเนว่าใครเป็นผู้ร้าย และมีฉากการบวงสรวงเพื่อสอนเด็กเรื่องความเชื่อกับหลักวิทยาศาสตร์

\"\"

นอกจากเรื่องนี้ยังมีการจำลองเหตุการณ์เรื่องเกี่ยวกับหมอ หมอฟัน โรงพยาบาล เพราะโรงเรียนวัดแจ้งจะมีหมอจาก รพ.สต.บางรัก มาตรวจฟันและฉีดยาให้เป็นประจำ ในขณะที่เด็กหลายๆคนกลัวหมอ ตนจึงสร้างการเรียนรู้ไม่ให้นักเรียนกลัวคุณหมอ และสร้างแรงบันดาลใจให้เด็กนักเรียนที่อยากเป็นหมอ

ส่วนเรื่องกิจกรรมน้ำท่วม เราก็จำจำลองเหตุการณ์ควบคู่กับหน่วยการเรียนวิทยาศาสตร์ เช่น เรื่องวัสดุกันฝน การลอยการจม สอนการทำตัวลอยหากตกน้ำ การใช้วัสดุใกล้ตัวแทนชูชีพ การทำCPR การโทรขอความช่วยเหลือจากสายด่วน 1669 เป็นต้น

นอกจากการจัดประสบการณ์ในห้องเรียนแล้ว ยังได้จัดประสบการณ์ให้เด็กไปเรียนรู้ร่วมกับชุมชน

และจากการจัดการเรียนการสอนแบบนี้ มา2ปีกว่า ส่งผลให้มีนักเรียนมาเรียนที่โรงเรียนวัดแจ้งเพิ่มขึ้น จากเดิมชั้นอนุบาลมีเพียง 1 ห้องเรียน จำนวน 8 คน ตอนนี้เพิ่มเป็น 3 ห้องเรียน จำนวน 40 กว่าคน และเด็กทั้งโรงเรียนเดิมมีเพียง 30 คน ตอนนี้เพิ่มเป็น 120 คน และเด็กมีพัฒนาดีขึ้นทั้ง 4 ด้าน คือ กาย อารมณ์ สังคม สติปัญญา

\"\" \"\" \"\" \"\" \"\" \"\" \"\" \"\" \"\" \"\" \"\" \"\" \"\" \"\" \"\" \"\" \"\" \"\" \"\" \"\" \"\" \"\" \"\"