สุดโหด!! ใช้มีดฟันเพื่อนตาย เจ้าตัวกลับไปกินยาฆ่าตัวตายตาม จ.สระแก้ว 

เมื่อวันที่ 22 มี.ค.68 ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิกู้ภัยอรัญประเทศ จ.สระแก้ว ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.อรัญประเทศ ขอให้เข้าตรวจสอบผู้เสียชีวิต ถูกทำร้ายร่างกายด้วยอาวุธมีด ที่บริเวณบ้านสวนอุดม ต.ฟากห้วย อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว โดยมี พ.ต.ท.กิตติพัศ ขจรพงษ์ชัยกุล สว.(สอบสวน) ร้อยเวร สภ.อรัญประเทศ เดินทางลงพื้นที่ร่วมกับชุดสืบสวน  และแพทย์เวร รพ.อรัญประเทศ

เหตุการณ์ดังกล่าวมีผู้เสียชีวิต เป็นชาย 1 ราย ชื่อว่านายกฤษณธาร เข็มทิศ อายุ 63 ปี ที่อยู่ 55 ม.5 ต.ฟากห้วย อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ตรวจสอบพบว่า ถูกทำร้ายร่างกายด้วยอาวุธมีดขอถางหญ้า ฟันที่ช่วงบริเวณต้นคอด้านซ้ายและแขนด้านซ้าย จนเสียชีวิต

ทั้งนี้ พนักงานสอบสวน ได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานจังหวัดสระแก้ว เข้าตรวจสอบในที่เกิดเหตุ และทำการชันสูตรผู้เสียชีวิต ก่อนนำร่างส่งชันสูตรเพิ่มเติมที่ ร.พ.อรัญประเทศ สาเหตุเบื้องต้น ทราบว่า ถูกเพื่อนบ้านซึ่งเป็นคนรู้จักกันใช้มีดฟัน เพราะมีเรื่องโกรธเคืองกันและทะเลาะวิวาทกัน จนนำมาสู่การใช้มีดฟันจนตาย ซึ่งจาการสอบสวนผู้เห็นเหตุการณ์ทราบตัวผู้ก่อเหตุแล้ว อยู่ระหว่างส่งชุดสืบสวนเข้าติดตามตัว โดยที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่พบมีดถางหญ้าที่ใช้ก่อเหตุด้วย

ขณะเดียวกัน ในช่วงเย็นวันเดียวกัน เจ้าหน้าที่มูลนิธิกู้ภัยอรัญประเทศ ก็ได้รับแจ้งขอให้เข้าตรวจสอบ คนกินยากำจัดแมลงฆ่าตัวตาย ในช่วงเวลา 15.05 น.วันที่ 22 มี.ค.ที่ผ่านมา ที่บริเวณบ้านสวนอุดม ต.ฟากห้วย อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ซึ่งเป็นหมู่บ้านเดียวกัน โดยภายหลังหน่วยกู้ภัยฯ เข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุ พบว่า ผู้ก่อเหตุเป็น ชาย 1 ราย อายุ 49 ปี ซึ่งได้กินยากำจัดแมลง มีอาการ หมดสติ ปลุกไม่ตื่น มีชีพจร มีน้ำลายฟูมปากปนเลือด จึงนำตัวส่ง รพ.อรัญประเทศ เมื่อถึงห้องฉุกเฉิน ผู้ป่วยมีอาการไม่หายใจ ไม่มีชีพจร เจ้หน้าที่กู้ชีพ รพ.อรัญประเทศ ให้การช่วยเหลือโดยทำ CPR และเสียชีวิตในเวลาต่อมา ทราบชื่อต่อมาคือ นายกิตติชัย ทรายขาว อายุ 49 ปี ที่อยู่ 6/1 ม.8 ต.ฟากห้วย อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว และเป็นผู้ก่อเหตุใช้มีดฟัน นายกฤษณะ อายุ 63 ปี จนเสียชีวิต

อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ได้ประสานทีมกู้ภัยทางน้ำ เคราถังเดี่ยว&นำโชค มาช่วยกันงมหาวัตถุพยานเพิ่มเติมด้วย และสอบสวนผู้ที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

—————————

ภาพโดย/ทีมกู้ภัยอรัญประเทศ