นครพนม : “ชุดกรรมการสมาคมกู้ภัยกตัญญูนาแกฯ โร่ร้องสื่อหลังถูกนายกสมาคมฯจัดประชุมอุปโลกน์ ขอมติให้โอนรถพยาบาลเป็นชื่อตัวเอง”
20 มี.ค. 2568 นายธวัชชัย อินนะระ เลขานุการสมาคมกู้ภัยกตัญญูนาแก นายเมธาเกียรติ เตชาภัคกูลกีรติ รองนายกสมาคมฯพร้อมด้วยสมาชิกจิตอาสาราว 15คน นำเอกสารหลักฐาน บันทึกการประชุมคณะกรรมการสมาคมอันเป็นเท็จ ต่อผู้สื่อข่าว ขอช่วยเป็นสื่อกลางเกี่ยวกับ นายกสมาคมฯยื่นขอยกเลิกการขึ้นทะเบียนหน่วยปฏิบัติการแพทย์ฉุกเฉินโดยไม่ผ่านที่ประชุม รวมถึงหลักฐานการลงชื่อเบิกจ่ายเงินในบัญชีธนาคารที่ไม่ถูกต้อง จนเกิดความเสียหายต่อสมาคมกู้ภัยฯ อย่างร้ายแรง ซึ่งตนพร้อมด้วย นายเมธาเกียรติ เตชาภัคกูลกีรติ รองนายกสมาคม นายกฤต ชัยดำรง รองอุปนายกและสมาชิกจิตอาสารวม 25คน จึงเดินทางไปแจ้งความยัง สภ.นาแก อ.นาแก จ.นครพนม เมื่อวันที่ 14 ก.พ. 2568 ที่ผ่านมา หลังได้มติถอดถอน จ.ส.อ.เนติธร วงษ์จำปา ออกจากการเป็นนายกสมาคมฯ เนื่องจากใช้อำนาจในทางที่ไม่ถูกต้อง ละเมิดสิทธิของสมาชิกและจิตอาสา รวมถือขอให้ การทำธุรกรรมและคำสั่งต่างๆนับแต่วันที่ 1 ม.ค. 2568 เป็นต้นมาถือเป็นโมฆะ ซึ่งเคยยื่นหนังสื่อร้องเรียนไปยังศูนย์ดำรงธรรมอำเภอนาแก แต่เรื่องร้องเรียนกลับเงียบหายอ้างไม่พบเอกสารร้องเรียน
นายธวัชชัย เลขาฯสมาคมกู้ภัย ได้เล่าถึงที่มาของรถกู้ภัยและรถพยาบาลของสมาคมกู้ภัยฯ เราได้รับการบริจาคมาทั้งหมด 3 คัน จากที่ผ่านมาได้ทำภารกิจต่างๆที่เหมาะสมตามประเภทของการใช้งาน เพื่อช่วยเหลือสนับสนุนผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิต รวมถึงเป็นศูนย์กลางรับบริจาคโลงศพให้การช่วยเหลือนำส่งศพพร้อมให้ยืมใช้โลงเย็นให้กับญาติหรือครอบครัวของผู้เสียชีวิต จากที่ผ่านมา เราไม่เคยเรียกรับเงินใด ๆ จากผู้ที่เดือดร้อน จะมีก็เพียงน้ำมันเติมรถนำส่งตามที่ญาติเห็นสมควรเท่านั้นซึ่งคาดว่าอาจสาเหตุหนึ่งทำให้ จ.ส.อ.เนติธร วงษ์จำปา นายกสมาคมฯ จึงเกิดความระแวงและไม่พอใจ คิดว่าลูกข่ายทีมงานกู้ภัยฯที่ออกไปให้ช่วยเหลือสนับสนุนช่วยเหลือ อาจได้รับเงินบริจาคแต่ไม่นำส่งสมาคมฯ ถึงกระทั่งเคยโทรติดต่อไปสอบถามยังญาติผู้เสียชีวิตถามถึงว่าได้มอบเงินค่าดำเนินการให้กับเจ้าหน้าที่ฯหรือไม่ ซึ่งทางญาติแจ้งว่าตนมีฐานะยากจนไม่ได้จ่ายเงินให้ไปแต่อย่างใด แต่ จ.ส.อ.เนติธร วงษ์จำปา ได้ยืนยันให้ทางญาติโอนเงินให้กับทางสมาคมฯ จึงเป็นเหตุให้ตนทราบเรื่องดังกล่าว
หลังจากที่ญาติของผู้เสียชีวิตที่ ทีมกู้ภัยเคยให้การสนับสนุนและช่วยเหลือโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย โทรมาต่อว่าและสอบถามว่า “ไหนบอกว่าจะให้การช่วยเหลือโดยไม่มีค่าใช้จ่าย?” ทั้งนี้เชื่อว่าเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เกิดความไม่ไว้เนื้อเชื่อใจต่อกันเรื่อยมา
ต่อมา เมื่อราวกลางเดือนพฤศจิกายน 2566 ได้เปิดการประชุมคณะกรรมการสมาคมกตัญญูนาแก โดยการประชุมดังกล่าวไม่มีการลงลายมือชื่อของผู้เข้าร่วมประชุมแม้แต่คนเดียว แต่สาระเนื้อหาของการประชุมในครั้งนั้นได้กล่าวถึง รถที่ใช้งานของสมาคมฯ โดยเฉพาะ จ.ส.อ.เนติธร วงษ์จำปา นายกสมาคมฯ กล่าวในหนังสือที่ประชุมฯอ้างว่าได้รับคำแนะนำจาก เจ้าหน้าที่ขนส่งจังหวัดนครพนม ให้นำรถพยาบาลที่ได้รับบริจาคมาจาก พระอาจารย์สุริยันต์ โฆสปัญโญ วัดป่าวังน้ำเย็น ทะเบียนในนามของสมาคมฯเป็นรถส่วนบุคคล โดยขอให้จดในนาม นายเนติธร วงษ์จำปา เนื่องจากเป็นบุคคลที่สมาคมฯไว้วางใจได้ แต่ตนกังวลว่าเมื่อนายกสมาคมฯท่านนี้หมดวาระแล้วจะทำอย่างไรต่อไป.
นายธวัชชัย อินนะระ เลขาฯสมาคมกู้ภัยกตัญญูนาแก กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า เวลานี้คณะชุดกรรมการและอาสาได้รับความลำบากในการออกปฏิบัติการให้ความช่วยเหลือด้านต่าง ๆ ต่อผู้ประสบภัย รถกู้ภัยของสมาคมทุกคันถูกยึดกุญแจโดย นายเนติธร นายกสมาคม เราอยากได้รถกลับคืนมาให้อาสาสมัครออกช่วยเหลือประชาชนมากที่สุด สมาชิกของเรายังดำเนินการปฏิบัติหน้าที่อยู่เหมือนเดิม ทุกวันนี้เราไม่ได้หายไปไหน ไม่มีใครลาไปไหน ทุกวันนี้แม้ไม่มีรถกู้ภัยของสมาคมฯสักคันเลยที่จะออกช่วยเหลือประชาชน แต่เราต้องเสียสละอาศัยรถส่วนตัวเรี่ยไรเงินเติมน้ำรถกันเองตามกำลังของแต่ละคน เหมือนพยายามกดดันพวกเราไม่ได้ออกปฏิบัติหน้าที่ ส่อเจตนาอยากยุติปฏิบัติหน้าที่ ทั้ง ๆ ที่พวกเรายังทำหน้าที่ช่วยประชาชนอยู่กันทุกวัน
อยากขอให้ท่านนายกฯออกมาเคลียร์ปัญหาของตัวเองว่า เหตุผลใดจึงจำเป็นต้องยึดรถของสมาคมไปจอดทิังไว้เฉย ๆ ทำให้ทั้งเครื่องเวชภัณฑ์ประจำรถรวมถึงรถต้องเกิดความเสียหาย หากคิดว่าไม่พร้อมก็จัดประชุมใหญ่สามัญ เพื่อคัดเลือกให้คนอื่นที่มีความเสียสละและพร้อมกว่าขึ้นมาแทน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เรื่องขอยกเลิกขึ้นทะเบียนเกี่ยวกับระบบ EMS รวมถึงการยื่นหนังสือต่อสำนักงานสาธารณสุุขจังหวัดนครพนม ที่ให้ขอยกเลิกการจ่ายทะเบียนการวิ่งในระบบ EMS การปฏิบัติงานในหน้าที่รับส่งผู้ป่วยฉุกเฉิน เราก็เลยไม่สามารถที่จะออกไปปฏิบัติงานได้และเป็นเหตุให้สมาคมไม่มีเงินกองทุนกองกลางเป็นค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ในการขับเคลื่อนสมาคมฯออกช่วยเหลือประชาชนได้อย่างเต็มที่
ด้านนายกสมาคมกตัญญูนาแก นายเนติธร วงษ์จำปา กล่าวกับผู้สื่อข่าว ตนยอมรับว่าได้ยึดรถพยาบาลคันดังกล่าวนี้จริง และได้นำมาฝากจอดไว้ยังที่ว่าการอำเภอนาแก ซึ่งรถคันนี้จดทะเบียนไว้ในนามนิติบุคคลของสมาคมกู้ภัยกตัญญูนาแกจริง ส่วนมูลเหตุที่นำมาจอดนี้เนื่องเพราะ ตนเห็นว่าพลขับรถพยาบาลที่เคยผ่านการอบรมได้ยื่นขอลาออก ทำให้คิดว่าผิดระเบียบข้อบังคับของหน่วยปฏิบัติการแพทย์ฉุกเฉิน จึงได้ยึดรถคันดังกล่าวมาเก็บไว้ก่อน ส่วนรถกู้ภัยอีก 2 คันนั้นตนพบเห็นว่ามีกุญแจเสียบคาอยู่และเกรงรถจะสูญหายจึงได้ดึงลูกกุญแจรถมาเก็บไว้ด้วยเช่นกัน
ส่วนกรณีที่ถกปัญหาเรื่องรถพยาบาลที่ได้รับบริจาคจาก พระอาจารย์สุริยันต์ โฆสปัญโญ วัดป่าวังน้ำเย็น นั้น นายเนติธร กล่าวว่าก่อนหน้าการประชุม ได้เคยคุยปรึกษากับอุปนายกและเลขาฯ นอกรอบมาก่อนหน้านี้แล้ว โดยอ้างถึงค่าภาษีต่อทะเบียนและภาษีค่าพรบ.ที่ค่อนข้างสูงมันตกเป็นหมื่น จะทำอย่างไรที่จะทำให้เสียภาษีต่อทะเบียนลดลง พร้อมทั้งเสนอให้เปลี่ยนรถคันนี้เป็นชื่อของตน ในฐานะ นายกสมาคมฯ ซึ่งรองอุปนายกและเลขาฯต่างไม่เอาด้วย กลัวว่าผิดกฏหมายและวัตถุประสงค์ หลายคนแนะนำให้คุยขนส่งเื่อเปลี่ยนชื่อเป็นบุคคลเพื่อเสียภาษีน้อยลง ที่สำคัญจะถูกกฎหมายหรือไม่ ต้องเป็นมติที่ประชุมซึ่งในมติให้เปลี่ยนเป็นชื่อนายก แต่ตอนนี้มีปัญหาความขัดแย้งเกิดขึ้นระหว่างกรรมการกับตน จึงได้ยุติการโอนย้ายรถปิคอัพพยาบาลไว้เช่นเดิม
อย่างไรก็ตามหากปัญหาต่างๆภายในของสมาคมกู้ภัยกตัญญูนาแก ไม่ได้ข้อยุติ ก็คงจะต้องนำรถปิคอัพพยาบาลกลับคืนไปยัง พระอาจารย์สุริยันต์ โฆสปัญโญ วัดป่าวังน้ำเย็น จังหวัดมหาสารคามต่อไป.
อีกสาเหตุหนึ่งที่ตนทำหนังสือถึงสำนักงานสาธารณสุขให้ยกเลิกการขึ้นทะเบียนวิ่งรถฉุกเฉิน คนของสมาคมที่เหลืออยู่เพียงไม่กี่คน บางคนเป็นเด็กอายุเพียง 12-14 ปี ซึ่งสามารถจะช่วยเคสใหญ่ ๆ ได้ล่าสุด
นาย…..นายกสมาคม จะรำรถไปคืนให้วัดป่าวังน้ำเย็นที่บริจาคมาโดยจะนำไปคืนเร็วๆนี้