เมื่อวันที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2568 ตำรวจทางหลวงสถานีตำรวจทางหลวง 4 กองกำกับการ 2 กองบังคับการตำรวจทางหลวง นำโดย ร.ต.อ.วิมล แก้วชู รอง สว.(ป) ส.ทล.4 กก.2 บก.ทล. พร้อมด้วย ด.ต.สุริยา ปลื้มใจ, ด.ต.สมหวัง ส่องแสง และ ส.ต.อ.มาตุภูมิ รัตนคช ผบ.หมู่ ส.ทล.4 กก.2 บก.ทล. ได้ทำการจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดสงขลา
โดยร่วมกันจับ นายวีระยุทธ (สงวนนามสกุล) อายุ 39 ปี เป็นชาว ต.บ้านเกา อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ความผิดฐาน ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นคนอื่น. นอกจากนี้ ยังมีความผิดฐาน ร่วมกันโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูล คอมพิวเตอร์ ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ประชาชน ข้อหาเปิดหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ หรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ของตน โดยมิได้มีเจตนาใช้เพื่อตนหรือเพื่อกิจการที่ตนเกี่ยวข้อง ฯ
จากการที่ ตร.ทล.ชพ.ออกตรวจสอบพื้นที่รับผิดชอบ จนกระทั่งเวลาประมาณ 23.00 น. ขณะที่ตำรวจชุดจับกุมออกตรวจพื้นที่ภายในเขตรับผิดชอบ พบรถกระบะ ยี่ห้ออีซูซุ สีเทา ขับแซงขึ้นมาทางช่องทางด้านขวา จึงได้ส่งสัญญาณให้รถคันดังกล่าวหยุดเพื่อตรวจสอบ เมื่อจอดรถชิดขอบทางด้านซ้าย ได้ตรวจสอบภายในรถ พบ นายวีระยุทธ (สงวนนามสกุล) นั่งบริเวณเบาะหลังฝั่งผู้ขับขี่ แสดงอาการพิรุธ ลุกลี้ลุกลน จึงนำเลขบัตรประจำตัวประชาชนของนายวีระยุทธฯ ตรวจสอบกับระบบฐานข้อมูลของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (crime online) ปรากฏว่า นายวีระยุทธฯ มีหมายจับ “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นคนอื่นฯ” ของ สภ.เมืองสงขลา จ.สงขลาจึงได้แสดงหมายจับให้นายวีระยุทธฯ ดู และรับว่าเป็นบุคคลเดียวกันกับผู้มีชื่อในหมายจับ และรับว่าเป็นบุคคลตามหมายจับจริง
นอกจากนี้ นายวีระยุทธฯ ยังกล่าวว่าไม่เคยถูกจับตามหมายจับนี้มาก่อน แต่อย่างใด ดังนั้นจึงได้แจ้งข้อกล่าวหาตามหมายจับ ซึ่งกระทำความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นคนอื่นฯ” ตามหมายจับ ศาลจังหวัดสงขลาที่ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ จึงจับกุมตัวนายวีระยุทธฯ ส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสงขลา ผู้รับผิดชอบ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
นายวีระยุทธเล่าว่า ตนกับพวกอีก 5 คน ได้เดินทางจากจังหวัดราชบุรีไปทำงานที่จังหวัดสระแก้ว โดยใช้รถเดินทางไปจนถึงจังหวัดสระแก้ว จากนั้นผู้นำพา (นายหน้า) ได้พาลงเรือข้ามฝั่งไปที่ประเทศเพื่อนบ้าน และได้เปิดโรงแรมให้พักอยู่ประมาณ 5 วัน โดยมีเพียงอาหารให้รับประทานเท่านั้น ต่อมามีคนมาให้ตนและพวกทำการสแกนใบหน้าเพื่อยืนยันตัวตนในการเบิกถอนเงินในบัญชี เมื่อทำสำเร็จจึงได้รับค่าตอบแทนมาคนละ 10,000 บาท หลังจากนั้นก็ส่งขึ้นเรือกลับประเทศไทยส่วนตนได้รับค่าตอบแทนเป็นเงิน 6,000 บาท และต้องเสียค่าโดยสารนั่งเรือกลับประเทศไทยอีก 3,000 บาท ไม่ทราบว่าบัญชีที่ทำการเปิดนั้นเกี่ยวกับธุรกิจอะไร จนมาทราบว่าถูกหลอกให้เปิดบัญชีม้า