นายก อบจ.ตรัง พร้อมผู้บริหารม.กีฬาแห่งชาติ รร.กีฬาจังหวัดรัง ร่วมต้อนรับสมาคมกีฬาคนตาบอดแห่งประเทศไทย นำนักกรีฑาทีมชาติไทย 20 คน เก็บตัวที่มหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ วิทยาเขตตรัง นาน 11 เดือน เตรียมลุยอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 13 ที่โคราช ตั้งเป้าคว้า 20 เหรียญทอง หวังสร้างโอกาสและศักยภาพให้กับนักกีฬาคนพิการ สร้างชื่อเสียงให้ประเทศ
เมื่อ 10 มีนาคม 2568 นายบุ่นเล้ง โล่สถาพรพิพิธ นายก อบจ.ตรัง ผู้ช่วยศาสตราจารย์สิบเอกสุทัศน์ สีแก้วเขียว รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ ประจำวิทยาเขตตรัง นายยงยุทธ ใหม่เสน ผู้อำนวยการโรงเรียนกีฬาจังหวัดตรัง และนายกสมาคมกีฬาจังหวัดตรัง ตลอดทั้งคณะผู้บริหารมหาวิทยาลัยกีฬาแห่งชาติ วิทยาเขตตรัง ผู้บริหารโรงเรียนกีฬาจังหวัดตรัง ร่วมต้อนรับนายอำนวย กลิ่นอยู่ นายกสมาคมกีฬาคนตาบอดแห่งประเทศไทย พลเอกวิทยา ขันธอุบล ประธานคณะอนุกรรมการฯกีฬากรีฑา สมาคมกีฬาคนตาบอดแห่งประเทศไทยและคณะ
ในโอกาสที่สมาคมกีฬาคนตาบอดแห่งประเทศไทย นำทัพนักกรีฑาคนตาบอดทีมชาติไทยประกอบด้วยนักกีฬา 20 คน ผู้ช่วยเหลือนักกีฬา 10 คนและทีมผู้ฝึกสอน 6 คน รวม 36 คน เดินทางเข้าสู่สถานที่เก็บตัวที่ ม.กีฬาแห่งชาติ วิทยาเขตตรัง ซึ่งเป็นการเตรียมทีมเก็บตัวฝึกซ้อมทีมกรีฑาคนตาบอดทีมชาติไทย ชุดเตรียมทีมอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 13 ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพในปีหน้า
โดยการเตรียมทีมในครั้งนี้มีอาจารย์พัชรินทร์ จันแดง หัวหน้าสำนักงานกีฬา เป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมกรีฑาคนตาบอดทีมชาติไทย
นายอำนวย กลิ่นอยู่ นายกสมาคมกีฬาคนตาบอดแห่งประเทศไทย กล่าวว่า เลือกเก็บตัวที่จังหวัดตรังเพราะเป็นจังหวัดที่มีความพร้อมและมีความเหมาะสมหลายอย่าง มีสถานที่พร้อม มีบุคลากรด้านกีฬาที่เคยประสบความสำเร็จสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศ และที่สำคัญมีอากาศดี ซึ่งเชื่อว่าจะสร้างนักกีฬากรีฑาคนตาบอดให้ประสบความสำเร็จได้ และสามารถสร้างได้เหรียญทองมากที่สุด ซึ่งนักกรีฑามาเก็บตัวที่จังหวัดตรังมีทั้งหมด 20 คน แบ่งเป็น ชาย 10 คน หญิง 10 คน ใช้เวลาเก็บตัวรวม 11 เดือน ซึ่งตนตั้งเป้าไว้ 20 เหรียญทอง สำหรับอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 13 ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ จะจัดที่จังหวัดนครราชสีมา ระหว่างวันที่ 20-26 มกราคม 2569
ซึ่งเราส่งเสริมให้นักกีฬาได้ออกกำลังกายเพราะการให้โอกาสนักกีฬา-กรีฑาคนตาบอดได้แสดงความสามารถ ได้ใช้ศักยภาพของเขาที่ยังเหลืออยู่ ทำให้สังคมเห็นว่าคนพิการหากได้รับโอกาสก็สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ช่วยเหลือครอบครัวได้ และยังสามารถสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศได้เช่นเดียวกัน ซึ่งนอกจากไม่เป็นภาระของสังคมแล้วเราคิดว่ากีฬายังเป็นที่พึ่งของสังคมได้ และ สามารถพึ่งตัวเองได้