สระแก้ว – นายกสมาคมไร่อ้อยชี้แจง เกษตรกรตัดอ้อยสดแต่ต้องเผาใบอ้อย เกษตรกระบุ จำเป็นต้องเผา เพื่อให้สามารถกรีดร่อง ฝังปุ๋ยได้ เรียกร้องรัฐบาลช่วยหาทางพัฒนาเครื่องจักรให้สามารถม้วนหรือแปรรูปใบอ้อยจากการตัดสดด้วยคนงาน
เมื่อวันที่ 23 ม.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีที่มีการเผาไร่อ้อยในพื้นที่ จ.สระแก้ว จนส่งผลให้ค่า PM2.5 และค่า AQI คุณภาพอากาศในพื้นที่สูงขึ้นจนพุ่งเป็นสีแดงกระทบต่อสุขภาพทั้งจังหวัด ขณะที่การเผาอ้อยในพื้นที่ยังพบมีการเผาต่อเนื่อง ไม่สนคำสั่งห้าม อ้างใบอ้อยตัดสดไม่สามารถม้วนใบขายได้จำเป็นต้องเผานั้น ล่าสุด นายมนตรี คำพล นายกสมาคมเกษตรกรชายแดนบูรพา หรือสมาคมไร่อ้อยพื้นที่ จ.สระแก้ว ให้สัมภาษณ์กรณีนี้ว่า เรื่องการเผาใน จ.สระแก้ว ที่มีปัญหาที่เป็นข่าวฮือฮากันอยู่ทุกวันนี้คือ ชาวไร่มีต้นทุนค่อนข้างสูงในการตัดอ้อยสด อ้อยไฟไหม้ แต่แรงจูงใจในอดีตสมัย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มีการช่วยเหลือตันละ 120 บาท แต่ตอนนี้เราไปเรียกร้องรัฐบาล รัฐมนตรีอุตสาหกรรม ให้เสนอให้เข้า ครม.ให้เราก็ยังไม่เข้า ครม.จนทุกวันนี้ เพราะเรื่องนี้เราไปคุยกันมาตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา ตั้งแต่ก่อนเปิดหีบอ้อย แต่ก็ยังไม่มีมติ ครม. แล้วอีกปัญหาหนึ่งของ จ.สระแก้วคือเรื่องช้าง ตอนนี้ช้างได้ออกมาเขตสระแก้วเป็น 100 เชือก มาทำลายในป่าอ้อย และอีกที่ จ.ปราจีนบุรี ที่มีอ้อยส่งมาที่ จ.สระแก้ว ก็มีช้างลงมาปีนี้ก็มีเป็น 100 ตัว ไปกลับ ทำให้จำเป็นต้องเผาเป็นบางพื้นที่ ปีที่ผ่านมาช้างลงมาถึง 250 ตัวจากการเอาโดรนบินสำรวจ เราเสียหายไปใน จ.ปราจีนบุรี 5 หมื่นตัน คิดเป็นเงินเกือบ 100 ล้านบาท

นายมนตรี กล่าวว่า อีกส่วนหนึ่งที่เราจำเป็นต้องเผาคือ ใบอ้อยที่แรงงานกัมพูชาตัดอ้อยสด ยังไม่มีเครื่องจักรที่จะมาเก็บใบเอาไปทำเชื้อเพลิงโรงไฟฟ้าหรือขายให้โรงงาน จึงเป็นอีกปัญหาหนึ่งของ จ.สระแก้ว ที่เก็บใบอ้อยได้เฉพาะการตัดด้วยรถเครื่องจักรตัดอ้อยเป็นท่อนเท่านั้น แต่ที่คนงานตัดสดปล่อยใบไว้ ยังไม่มีเครื่องจักรที่มาเก็บเพื่อไปส่งขายให้โรงงานที่ทำเชื้อเพลิงโรงงานไฟฟ้าได้ ทำให้มีการเผาบางส่วน ซึ่งไม่มีผลต่อตัวเลขที่เข้าโรงงานว่าเป็นอ้อยเผา ซึ่งตัดเป็นอ้อยสดเข้าโรงงานไปแล้ว จะไม่มีตัวเลขเป็นอ้อยเผา แต่ชาวไร่ไม่มีเครื่องจักรที่จะเก็บใบเอาไปขายได้ จำเป็นต้องเผา เพื่อให้การทำงานในไร่ บำรุงต่ออ้อย กรีดร่องใส่ปุ๋ยทำงานได้


นายกสมาคมเกษตรกรชายแดนบูรพา กล่าวอีกว่า แรงจูงใจเพื่อลดการเผาที่ผ่านมา ระหว่างอ้อยสด อ้อยไฟไหม้ ราคามันต่างกันประมาณ 100 กว่าบาทต่อตันอ้อย ซึ่งจะต้องมีการชดเชยเกษตรกรกรณีตัดอ้อยสด 120 บาท เพื่อลดปัญหา PM2.5 อย่างที่แจ้งไว้ ซึ่งเรื่องนี้เราเข้าพบ รมต.อุตสาหกรรม 2-3 ครั้ง เพื่อจะให้นำเรื่องนี้เข้า ครม.เพื่อเป็นแรงจูงใจให้ชาวไร่ตัดอ้อยสด แต่ ณ วันนี้ยังไม่มีอะไรเคลื่อนไหวเลย มติ ครม.ก็ยังไม่ออกมา ชาวไร่ตัดอ้อยสดก็ยังไม่มีความหวังว่า รัฐบาลจะช่วยหรือไม่ช่วยเกษตรกร ซึ่งต้นทุนมันสูง


\”นโยบายที่ไม่เหมือนกันระหว่าง รัฐบาลและ กนอ. ซึ่งคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย ได้มีมติเห็นชอบซึ่งมีตัวแทนราชการ ส่วนที่เกี่ยวข้องในบอร์ดมีมติให้ตัดอ้อยไฟไหม้ได้ไม่เกิน 25 เปอร์เซ็นต์ มีการรายงานทุกวัน ตอนนี้เฉลี่้ยทั้งประเทศก็ยังไม่ถึง ประมาณ 18-19 ยังไม่ถึง 20 เปอร์เซ็นต์ แต่นโยบายรัฐบาลโดยมติคณะรัฐมนตรีให้ 0 เปอรเซ็นต์ ผมเลยมองว่า เรื่องนี้เราจะเอาตามมติ กนอ.หรือ ครม.ชาวไร่ก็สับสน รัฐบาลออกมาพูดให้ชัดเจน เพราะเรื่องการเผามีไหม้ตามธรรมชาติ มีการจุดเอง แต่ก็มีการควบคุม บาทพื้นที่อ้อยล้ม เครื่องจักรเข้าไม่ได้ ก็จำเป็นต้องเผา ส่วนเรื่องที่ชาวไร่อ้อยตกเป็นจำเลยสังคม เพราะรัฐบาลออกข่าวจนน่ากลัว ชาวไร่อ้อยตกเป็นจำเลยสังคม แต่อยากให้มองส่วนอื่นด้วย เช่นโรงงานอุตสาหกรรม ควันรถ การเผาไร่ข้าวโพด นาข้าว ก็เป็นองค์ประกอบ ไม่ใช่ไร่อ้อยอย่างเดียว เพราะที่นักวิชาการของจิสด้า สำรวจแล้ว เรามีไม่กี่เปอร์เซ็นต์ที่มีมลพิษ PM2.5 ปีนี้ต้องผ่านไปก่อน แต่เราจะอยู่ในกรอบทั้งประเทศไม่เกิน 25 เปอร์เซ็นต์ แต่ต่อไปในอนาคตรัฐบาลต้องมามองมาช่วยแก้ปัญหาของเกษตรกร ประเทศไทยเราไม่เหมือนต่างประเทศ มีแปลงเล็กแปลงน้อย เกษตรกรไปไม่ถึงเงินทุน\” นายมนตรี กล่าว

ทางด้าน นายสุรชัย วงจอม 49 ปี เจ้าของไร่อ้อย 580 ไร่ ซึ่งมีผลผลิตต่อปีประมาณ 5-6 พันตัน ในพื้นที่ ต.เบญจขร อ.คลองหาด จ.สระแก้ว กล่าวถึงการตัดอ้อยสดและจำเป็นต้องเผาใบอ้อยว่า เนื่องจากไม่มีเครื่องที่จะมาเก็บใบอ้อยได้ ซึ่งการตัดสดจะมีใบจำนวนมาก ที่ผ่านมาการเก็บใบอ้อยม้วนใจส่งโรงงานมีเฉพาะการตัดด้วยรถตัดอ้อยท่อนเท่านั้น แต่การตัดอ้อยสดที่ใช้แรงงานคนตัด ไม่สามารถที่จะเก็บใบอ้อยได้ อยากให้ภาครัฐ กระทรวงอุตสาหกรรม ไปจัดการหาเครื่องที่สามารถมาเก็บใบอ้อยได้ มันถึงจะแก้ปัญหาการเผาใบอ้อยได้ ไม่งั้นก็จะเป็นแบบนี้ต่อไป เพราะพอเราตัดเสร็จก็ต้องมาเผาใบอ้อยอีก แม้ว่า เราจะตัดอ้อยสดก็ตาม แต่ก็ต้องเผาอยู่ดี

\”ผมเคยลองวิธีไม่เผา โดยใช้อีเอ็มฉีดให้ย่อยสลาย เพื่อทำปุ๋ยมันก็ไม่ย่อยไม่สลาย เพราะกองใบอ้อยหนามาก ต้องใช้แรงงานคนมาเกลี่ยกองใบอ้อยให้บางที่สุด และหาวิธีจัดการโดยซื้อเครื่องมือที่สามารถฝังปุ๋ยได้ ไม่งั้นก็จัดการไม่ได้ ตอนนี้เกษตรกรส่วนใหญ่ก็ตัดสดกัน แต่ก็ต้องมาเผาใบ ตัดเสร็จหมด 1 แปลงก็เผาครั้งหนึ่ง ไม่อย่างนั้น เราไม่สามารถกรีดร่อง ฝังปุ๋ยได้เลย \” นายสุรชัย กล่าวและว่า ไม่อยากให้มองว่า ชาวไร่อ้อยเป็นจำเลยสังคม และตอนนี้เราตัดอ้อยสดแล้ว อยากให้ประดิษฐ์หรือสร้างเครื่องมือที่มาเก็บม้วนใบอ้อยได้ ชาวไร่ก็จะได้เอาไปขายสร้างรายได้ด้วย ดีกว่าเราจะไปเผาทิ้ง

—————————–