ชาวมันนิหรือมานิ ซึ่งคนทั่วไปนิยมเรียกเงาะป่าซาไก โดยในจ.สตูลมีหลายกลุ่ม ชาวมันนิจำนวนมากที่ต้องปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตเพื่อความอยู่รอดแม้นจะมีวิถีดั้งเดิมอยู่เช่นการทำลูกดอกออกล่าสัตว์ ขุดมัน พืชหัวต่างๆในป่ากินเป็นอาหาร แต่สภาพสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนไปทำให้พวกเขาต้องปรับตัวเพื่อความอยู่รอด ชาวมันนิมีบัตรประจำตัวประชาชน จึงนิยมให้ลูกออกไปเรียนร่วมกับเด็กชาวบ้านในพื้นที่ ส่วนเด็กเล็กๆก็จะมีครูณัฐ ซึ่งเป็นครูจิตอาสาเข้ามาสอนหนูน้อยชาวมันนิในการเตรียมพร้อมเข้าสู่วัยเรียน
โดยที่ทับแม่ฉิม ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ห้วยโด บ้านวังนาใน หมู่ 10 ต.น้ำผุด อ.ละงู จ.สตูล กลุ่มชาวมันนิทั้งหญิง ชาย ต่างช่วยกันทำไม้กวาดจากต้นเหนา ซึ่งมีการที่แข็งทนทาน และทำกระเป๋าใส่ของจากเตยดำ เป็นต้นไม้ที่ขึ้นเองตามธรรมชาติและชาวมันนินำมาใช้ทำหลังคาและฝาบ้าน
น.ส.ณัฐนันท์ โอมเพียร หรือครูณัฐ กล่าวว่า ชาวมันนิมีองค์ความรู้เรื่องของป่าทุกมิติ สภาพของป่า อาหารในป่าอะไรกินได้ไม่ได้ หลังจากเขาได้คลุกคลีกับมนุษย์มากขึ้น ครูณัฐได้เข้ามาสอนเด็กๆให้เรียนรู้ในเรื่องของภาษาไทย คณิตศาสตร์ ทำให้เขาเริ่มมีความคิดที่จะพัฒนาตนเอง กลุ่มของแม่ฉิม มีประมาณ 60 คน แม่ฉิมมาคุยกับครูนัฐว่าอยากมีรายได้ จึงได้ฝึกทำไม้กวาดและตระกร้าใส่ของขึ้น โดยตระกร้าทำจากเตยดำ ส่วนไม้กวาดเขาคิดขึ้นมาเอง โดยเห็นจากรีสอร์ทและมาทำโดยใช้องค์ความรู้จากการผูกและมัด เริ่มแรกเขานำใบเหนามาทำหลังคาและฝาบ้านก้านเหนาทิ้งไร้ประโยชน์ ครูณัฐลองให้ทำไม้กวาดซึ่งเขาทำได้แต่ไม่สวย จึงพัฒนามาเรื่อยๆ ตะกร้าทำจากเตยดำเตยภูเขาจะนิ่ม ส่วนไม้กวาดปกติเราจะเห็นว่าทำจากก้านมะพร้าว ซึ่งจะหักเปื่อยงาน แต่ของมันนิจะทำจากก้านเหนาที่มีความคงทนแข็งแรงใช้ได้เป็น 10 ปี ด้ามทำจากหวาย โดยตระกร้าเริ่มต้นที่ใบละ 20 บาท ส่วนไม้กวาดด้ามละ 100 บาท หากสนใจสามารถติดต่อผ่านครูณัฐได้ ที่หมายเลข 0656066954