จังหวัดตรังจัดแถลงข่าว “เทศกาลลูกลม ชมถ้ำ เรียนรู้วัฒนธรรมนาหมื่นศรี” ดึงเสน่ห์วัฒนธรรมท้องถิ่นสู่สายตานักท่องเที่ยว ไฮไลต์ลูกลมปักเรียงราย 209 ดอก และกิจกรรมมากมาย ตั้งแต่การแสดงศิลปวัฒนธรรมใต้ หมู่บ้านจำลองวิถีชีวิตนาหมื่นศรี ตลาดวิถีชุมชน และร้านอาหารพื้นบ้านกว่า 200 ร้านค้า เตรียมพบกัน 5-9 มีนาคมนี้ ณ ถ้ำถ้ำเขาช้าง อำเภอนาโยง จังหวัดตรัง
วันนี้ (26 ก.พ. 68) ที่ร้านครัวลานนา ตำบลนาหมื่นศรี อำเภอนาโยง จังหวัดตรัง พันจ่าโท อนันต์ บุญสำราญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง พร้อมด้วย นางสาวฉันทนา ศิวกุล ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดตรัง นางสาวธนิกานต์ หยังสู นายอำเภอนาโยง นายวิโรจน์ เยาว์ดำ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลนาหมื่นศรี พ.ต.ท.ปรีชา ศรีเมือง สารวัตรป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจภูธรนาโยง นายประเสริฐ คงหมุน ปราชญ์ชาวบ้าน และส่วนที่เกี่ยวข้อง ร่วมแถลงข่าวเทศกาลงานลูกลม ชมถ้ำ เรียนรู้วัฒนธรรมนาหมื่นศรี ภายใต้โครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและประเพณีจังหวัดตรัง โดยมี หัวหน้าส่วนราชการ ผู้นำท้องที่ ท้องถิ่น และประชาชน เข้าร่วมงาน
สำหรับงานลูกลมปีนี้ก็เป็นอีกปีที่ค่อนข้างจะสมบูรณ์แบบ จะมีงานร่วมกัน 2 ส่วน ส่วนที่ 1 จะเป็นในส่วนของลานวัฒนธรรม กับกิจกรรมมากมายอาทิ เช่น การแสดงศิลปวัฒนธรรม การแสดงศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้านภาคใต้ อย่างเช่น การแสดงมโนราห์ ลิเกป่า การแสดงประเภทวงดนตรีเยาวชน ศิลปินที่มีชื่อเสียง และยังมีหมู่บ้านจำลองวิถีชีวิตนาหมื่นศรีพร้อมทั้งถ่ายทอดประวัติลูกลม สาธิตการทำลูกลมอีกด้วย นอกจากนี้ในส่วนที่ 2 จะเป็นในส่วนของตลาดวิธีชุมชน บูธจำหน่ายสินค้า 30 บูธ และจัดจำหน่ายสินค้า ผลิตภัณฑ์ของชุมชน ร้านอาหารพื้นบ้านกว่า 200 ร้านค้า โดยจะมีการจัดวางสินค้าบนแคร่ไม้ไผ่ การแสดงประเภทวงดนตรี และศิลปินที่มีชื่อเสียงโดยงานจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 5-9 มีนาคมนี้
ซึ่งไฮไลน์สำคัญคือมีการโชว์ลูกลมขนาดต่างๆ จำนวน 209 ดอก ซึ่งปักเรียงรายตลอดถนนเลียบทุ่งนาหมื่นศรี
ทั้งนี้จังหวัดตรัง มุ่งมั่นที่จะพัฒนาและส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่นให้เป็นจุดหมายปลายทางที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น สามารถสร้างประสบการณ์ที่มีคุณค่าแก่นักท่องเที่ยว ควบคู่ไปกับการอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมและสร้างความยั่งยืนให้แก่ชุมชนท้องถิ่น โดยกำหนดทิศทางการพัฒนา \”ตรัง : เป็นจุดหมายแห่งการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมที่มีชีวิตชีวา สะท้อนอัตลักษณ์ท้องถิ่น พร้อมสร้างรายได้อย่างยั่งยืนให้แก่ชุมชน\” โดยกำหนดนโยบายและทิศทางการพัฒนาท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่นจังหวัดตรัง
สำหรับ \’ลูกลม นาหมื่นศรี\’ มีเรื่องเล่าเป็นตำนานว่าพระพายเจ้าแห่งลมได้รับหน้าที่เฝ้านกกาไม่ให้มากินข้าวในนา แต่พระพายต้องไปอยู่เวรพัดลมให้เทวดาอยู่บ่อย ๆ จึงมอบหมายให้ผู้เป็นลูกซึ่งเรียกกันว่า “ลูกลม” คอยเฝ้าโห่ไล่นกกาแทน ฝ่ายลูกลมค่อนข้างขี้เกียจแต่มีปัญญาดีจึงเอาไม้ไผ่มาเหลาให้แบน ๆ หลายอันแล้วคาดทับกันเป็นกากบาทเพื่อดักลม พอลมพัดมาก็จะหมุนและเกิดเสียงดังจนนกกาตกใจหนีไป เมื่อพระพายมาเห็นเข้าก็พอใจ เอาไปกราบทูลพระอินทร์ พระอินทร์พอพระทัยรับสั่งให้ “เวษหนู” หรือพระวิษณุเอาไปเผยแพร่ให้แก่เหล่ามนุษย์จนเป็นที่แพร่หลายไปทั่ว และเรียกชื่อว่า “ลูกลม” ตามชื่อต้นคิด
ที่มาของลูกลมสัมพันธ์กับฤดูกาลและวิถีตรังนา การทำลูกลมนั้นต้องอาศัยลมเป็นหลัก คือจะทำกันเมื่อลมตะวันออกเริ่มพัดมาประมาณเดือนมกราคม-มีนาคม ซึ่งตรงกับเวลาที่ข้าวเริ่มสุกจนเกี่ยวข้าวเสร็จ สิ่งสำคัญในการเล่นลูกลมคือการทำให้มีเสียงร้องที่ไพเราะและดังไปไกล ๆ ส่วนประโยชน์ที่เป็นผลพลอยได้คือเสียงลูกลมจะทำให้นกกาตกใจไม่กล้าลงมากินข้าวในนา