ผู้ว่าฯจันท์ลุยเอง บดทำลายของกลางบุหรี่ไฟฟ้าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

จันทบุรี – วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 11.00 น. นายมนสิทธิ์ ไพรศาลธนวัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี นาวาเอกนพโรจน์ สิริปริญพงศ์ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินจันทบุรี ร่วมกับนายอดพล วิชญกุล นายด่านศุลกากรจันทบุรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการทำลายของกลางที่ตกเป็นของแผ่นดินตามกฎหมายศุลกากร ณ พื้นที่สาธารณประโยชน์ของเทศบาลตำบลปัถวี (บ้านหนองแหลบ) อำเภอมะขาม จังหวัดจันทบุรี ซึ่งเป็นพื้นที่ห่างไกลจากแหล่งชุมชน

ซึ่งวันนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี ได้โชว์ ขับรถบดด้วยตัวเอง  โดยของกลางที่ถูกทำลายประกอบด้วย บุหรี่ไฟฟ้าและอุปกรณ์ บุหรี่ต่างประเทศ บุหรี่ละเมิดเครื่องหมายการค้า และเบียร์ต่างประเทศ รวมทั้งสิ้น 245,058 ชิ้น คิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 19.58 ล้านบาท

การดำเนินการครั้งนี้เป็นไปตามนโยบายของ นายธีรัชย์ อัตนวานิช อธิบดีกรมศุลกากร นายมนต์สิทธิ์ ไพศาลธนวัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี และ นายยุทธนา พูลพิพัฒน์ รองอธิบดีกรมศุลกากร ที่ให้ความสำคัญกับการปราบปรามการลักลอบนำเข้าสินค้าผิดกฎหมาย โดยเฉพาะบุหรี่ไฟฟ้าและสินค้าที่มีอัตราภาษีสูง ซึ่งส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและสังคม

นางนิภารรณ ใยบัวเทศ ผู้อำนวยการสำนักงานศุลกากรภาคที่ 1 และ นายอดพล วิชญกุล นายด่านศุลกากรจันทบุรี ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบและจับกุม โดยมี นายชนินทร์ ศุภรินทร์ ผู้อำนวยการส่วนควบคุมทางศุลกากร และ นายบัญญัติ เกื้อเม่ง ผู้อำนวยการส่วนบริการศุลกากร นำเจ้าหน้าที่ลาดตระเวนร่วมกับหน่วยงานด้านความมั่นคง

กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

•บุหรี่ไฟฟ้า ถือเป็นสินค้าต้องห้ามนำเข้าตามประกาศกระทรวงพาณิชย์ ลงวันที่ 12 ธันวาคม 2557 ผู้ที่ลักลอบนำเข้าหรือจำหน่ายมีความผิดตาม มาตรา 246 ประกอบมาตรา 242 แห่ง พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ. 2560 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับเป็นเงิน 4 เท่าของราคาสินค้ารวมภาษี หรือทั้งจำทั้งปรับ

•บุหรี่ละเมิดเครื่องหมายการค้า เป็นสินค้าต้องห้ามนำเข้าตามประกาศกระทรวงพาณิชย์ ลงวันที่ 27 มีนาคม 2565

•บุหรี่ต่างประเทศและเบียร์ต่างประเทศ ต้องได้รับอนุญาตจากกรมสรรพสามิต การลักลอบนำเข้าเป็นความผิดตาม มาตรา 242 แห่ง พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ. 2560 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือปรับเป็นเงิน 4 เท่าของราคาสินค้ารวมภาษี หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ริบของกลาง

กรมศุลกากรขอความร่วมมือประชาชนช่วยแจ้งเบาะแสการลักลอบนำเข้าสินค้าผิดกฎหมาย เพื่อปกป้องเศรษฐกิจและความปลอดภัยของสังคม