ผบช.ภาค 2 สั่งทำเชิงรุกสร้างความรู้ความเข้าใจให้พี่น้องประชาชนพื้นที่ชายแดน จ.สระแก้ว

สระแก้ว – ผู้บัญชาการภาค 2 สั่งทำเชิงรุกสร้างความรู้ความเข้าใจให้พี่น้องประชาชนพื้นที่ชายแดน สร้างความรู้ ความเข้าใจให้กับประชาชนในพื้นที่ถึงความผิดและภัยอันตรายของขบวนการคอลเซ็นเตอร์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่ ห้องประชุม สภ.คลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว พล.ต.ต.ธีระชัย ชำนาญหมอ ผบก.สส.ภ.2 พร้อมด้วย พล.ต.ต.ถาวร ดุลยวิทย์ ผบก.ภ.จว.สระแก้ว  พ.ต.อ.อโณทัย จินดามณี ผกก.สภ.คลองลึก พ.อ.เมธี คำเต็ม ผบ.ชค.ทพ.12 ฝ่ายปกครองอำเภออรัญประเทศ พร้อมเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง และประชาชาชน ในพื้นที่ เข้าร่วมการเปิดเวทีการประชุมให้ความรู้ กับชาวบ้าน ในพื้นที่แนวชายแดนในเรื่อง การสร้างความเข้าใจกับพี่น้องประชาชน พื้นที่ชายแดน จ.สระแก้ว และข้อกฎหมายบทลงโทษซึ่งอาจเข้าข่ายมีส่วนร่วมองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ
\"\" \"\"
ทั้งนี้ สื่บเนื่องจากรัฐบาลและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ต้องการปราบปรามขบวนการคอลเซ็นเตอร์อย่างจริงจังโดยทาง พล.ต.ท.ยิ่งยศ เทพจำนงค์  ผบช.ภ.2 จึงสั่งการให้ตำรวจภูธรภาค 2 และ ตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว บูรณาการเชิงรุกทั้งด้านปราบปรามจับตัวผู้กระทำผิดและการป้องกันด้วยการสร้างความรู้ ความเข้าใจให้กับประชาชนในพื้นที่ถึงความผิดและภัยอันตรายของขบวนการคอลเซ็นเตอร์ โดยอย่างแรกต้องไม่หลงผิดเข้าไปเป็นหนึ่งในขบวนการ ทั้งไปเป็นบัญชีม้า , การช่วยเหลือลักลอบพาบุคคลข้ามแดนโดยผิดกฎหมาย , ลักลอบช่วยขนย้ายสิ่งผิดกฎหมายทุกประเภท แล้วในอีกด้านก็ต้องไม่ตกเป็นเหยื่อให้กับคอลเซ็นเตอร์ ประชาชนจะต้องมีความรู้เท่าทันกับขบวนการเหล่านี้ซึ่งจะทำให้ไม่ต้องทำให้ประชาชนสูญเสียทรัพย์สินเงินทอง
\"\"
สำหรับโทษของผู้ร่วมขบวนการคอลเซ็นเตอร์เมื่อถูกจับกุมจะต้องมีโทษตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการมีส่วนรวมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พ.ศ.2556 มาตรา 25 ผู้ใดกระทำความผิดฐานมีส่วนรวมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สี่ปีถึงสิบห้าปี หรือปรับตั้งแต่แปดหมื่นบาทถึงสามแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และตาม พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีพ.ศ. 2566 มาตรา 10 ฐานร่วมกันเป็นธุระจัดหา โฆษณา หรือไขข่าวโดยประการใด ๆ เพื่อให้มีการซื้อ ขาย ให้เช่า หรือให้ยืม บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ หรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือความผิดทางอาญาอื่นใด ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สองปีถึงห้าปี หรือปรับตั้งแต่สองแสนบาทถึงห้าแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
\"\"
—————————